ตลาดการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) กำลังเติบโตขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกาเหนือและบางส่วนของยุโรป ในประเทศไทย แม้ว่าโควิด-19 ระลอกที่สามจะกระทบเศรษฐกิจอย่างหนัก แต่ธุรกิจต่างๆ ยังคงดำเนินโครงการขยายธุรกิจต่อไป จากข้อมูลของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มูลค่าสะสมของการลงทุนภาคเอกชนพุ่งขึ้นถึงร้อยละ 158 ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2564 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยในช่วงเวลาเดียวกัน ประเทศไทยดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้ถึง 279 หมื่นล้านบาท ผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดคือบริษัทจากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐฯ และจีน"เราเห็นถึงความต้องการซื้อขายกิจการในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผลจากแนวโน้มธุรกิจในสถานการณ์ปัจุจุบัน เช่น การค้าปลีกออนไลน์ และวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต หรือภาคส่วนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และจำเป็นต้องปรับตัว"
เจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคพีเอ็มจี ประเทศไทย เมียนมาร์ และลาว กล่าว "การเข้าซื้อกิจการ การลงทุน หรือการควบรวมธุรกิจ ก่อให้เกิดความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ สำหรับบริษัทต่างๆ สิ่งที่สำคัญคือบริษัทเหล่านี้จะต้องพิจารณาข้อตกลงในทุกแง่มุมทางธุรกิจ โดยคำนึงถึงผลกระทบทางการเงิน ภาษี และกฎหมายเป็นหลัก เราจึงเปิดตัวทีมตรวจสอบวิเคราะห์สถานะธุรกิจแบบบูรณาการ (Integrated Due Diligence) เพื่อให้บริการแบบครบวงจรและไม่ยุ่งยาก สำหรับลูกค้าของเราที่ต้องการซื้อหรือขายธุรกิจ"
ทีมงาน Integrated Due Diligence ของเคพีเอ็มจี ประกอบไปด้วย ผู้เชี่ยวชาญหลากสาขาวิชาชีพ ซึ่งให้บริการที่ตรงและครอบคลุมทุกความต้องการด้านการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะธุรกิจ (Due Diligence) โดยมีการตรวจสอบสถานะทางการเงิน ภาษี และกฎหมายเป็นหัวใจหลัก ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพของทีมที่มีทักษะอันหลากหลาย เคพีเอ็มจี ช่วยลูกค้าปรับการทำธุรกรรมให้เหมาะสมโดยให้บริการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะธุรกิจแบบบูรณาการองค์รวม นอกเหนือจากบริการหลักด้านการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะธุรกิจแล้ว ฝ่ายที่ปรึกษาการซื้อขายกิจการของเคพีเอ็มจี ยังให้ความช่วยเหลือแบบบูรณาการที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ได้แก่ การตรวจสอบวิเคราะห์สถานะทางการค้าของกิจการ (Commercial due diligence) และกลยุทธ์การเติบโต เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) การปฏิบัติการ ทรัพยากรบุคคล และการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะการดำเนินธุรกิจด้วยนโยบายสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG Due Diligence) โครงสร้างทางกฎหมายและภาษี โดยบริการเหล่านี้ดำเนินงานภายใต้ความเข้าใจในความสำคัญของการสร้างมูลค่าผ่านกลไกทั้งหมดที่ได้กล่าวมา"ข้อตกลงในการควบรวมและซื้อกิจการทุกรายการมีรายละเอียดในหลายแง่มุม และได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ภาษี และกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา"
เอียน ธอร์นฮิลล์ หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาการซื้อขายกิจการ เคพีเอ็มจี ประเทศไทย กล่าว "ดั้งนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกๆ ธุรกรรมการควบรวมและซื้อกิจการจะต้องมีโครงสร้างและวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจน และทีมงานมืออาชีพที่จะช่วยดำเนินการธุรกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะธุรกิจแบบบูรณาการของเคพีเอ็มจี มีทีมงานที่ประสานงานกันเป็นศูนย์กลาง ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถจัดการกับปัญหาด้านการเงิน ภาษี และกฎหมายได้อย่างครบวงจร"
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะธุรกิจแบบบูรณาการของเคพีเอ็มจี ได้ที่ home.kpmg/th/kpmgdd
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit