Metaverse มาจากคำว่า Meta กับ Verse รวมแล้วได้ความหมายว่าเป็น "จักรวาลที่อยู่เหนือจินตนาการ" ปรากฏครั้งแรกในนวนิยาย Sci-Fi ที่มีชื่อว่า Snow Crash เป็นโลกอีกใบที่ให้ผู้คนได้เข้ามามีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันผ่านการจำลองเป็นตัวละครต่าง ๆ (Avatar)
จากความแปลกใหม่สู่ความเคยชิน ในวินาทีนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนเริ่มคุ้นเคยกับการจำลองตัวเองในฐานะตัวละครหนึ่ง (Avatar) เพื่อมีปฏิสัมพันธ์กับคนในโลกดิจิทัลได้อย่างไร้พรมแดน เราใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลและเกมออนไลน์จนกลายเป็นพฤติกรรมหลัก จนทำให้จากแนวคิด Metaverse เริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างและได้รับความสนใจ
หลายบริษัทก็เริ่มคิดถึง Metaverse Strategy ของตนเองขึ้นมาแล้ว เนื่องจากทุกอย่างมีความเป็นไปได้ในโลก Metaverse เช่น ร้านค้าปลีกสามารถไปเปิดร้านใน Metaverse เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้สินค้าจริงๆ ก่อนจะตัดสินใจออกมาซื้อในโลกของจริง หรือ พนักงานที่อยู่กันคนละทวีปแทนที่จะเจอกันผ่านหน้าจอ ก็สามารถที่จะไปนั่งทำงานร่วมกัน ใน Metaverse ภายใต้บรรยากาศการทำงานตามที่กำหนด แล้วงานที่ทำนั้นก็สามารถถูกดาวน์โหลดกลับสู่โลกของจริง
ถึงแม้ Metaverse จะดูเหมือนมีโอกาสและศักยภาพมหาศาล แต่ก็มีข้อที่ต้องคำนึงถึงไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสมรรถนะและความสามารถของระบบคอมพิวเตอร์ ความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล หรือ แม้กระทั่งการเสพติด เพลิดเพลิน เล่นสนุกกับโลกเสมือนจริงจนละเลยไม่อยากจะกลับสู่โลกของความเป็นจริง
"Metaverse ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่เป็นปัจจุบันที่กำลังจะเกิดขึ้น"
"ผู้คนจะย้ายไปโลกเสมือนมากขึ้น และจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา"
Source: https://www.youtube.com/watch?v=Uvufun6xer8
บทความ โดย ศูนย์นวัตกรรมสร้างสรรค์และบ่มเพาะธุรกิจ
คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit