บลจ.ไทยพาณิชย์ ลุยจ่ายปันผล 6 กองทุน ทั้งหุ้นไทย-สินทรัพย์ทางเลือก รวมกว่า 210 ล้านบาท

นายอาชวิณ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลกองทุนหุ้นไทยและกองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือกรวม 6 กองทุน มูลค่ากว่า 210 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 17 พ.ย. 2564 จำนวน 4 กองทุนหุ้นไทย แบ่งเป็น

บลจ.ไทยพาณิชย์ ลุยจ่ายปันผล 6 กองทุน ทั้งหุ้นไทย-สินทรัพย์ทางเลือก รวมกว่า 210 ล้านบาท

สำหรับงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 พ.ค. 2564 - 31 ต.ค. 2564 จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผล (SCBDV) จ่ายในอัตรา 0.15 บาท (ครั้งที่ 28) รวมจ่ายปันผลแล้ว 19.24 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2546) ทั้งยังจัดเป็นกองทุน 4 ดาว ประเภท Thailand Fund Equity Large-Cap ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ต.ค. 2564) และ SCBDV-SSF (ชนิดเพื่อการออม) จ่ายในอัตรา 0.12 บาท (ครั้งที่ 2) รวมจ่ายปันผลแล้ว 0.27 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ กองทุนมีแนวทางการบริหารเชิงรุก โดยการคัดเลือกหุ้นที่มีคุณภาพดีและมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอในระดับที่น่าสนใจเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนอย่างมีเสถียรภาพแก่นักลงทุนในระยะยาว พร้อมโอกาสรับกระแสเงินสดจากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ

และสำหรับงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ส.ค. 2564 - 31 ต.ค. 2564 จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (SCBSE) จ่ายในอัตรา 0.15 บาท (ครั้งที่ 21) รวมจ่ายปันผลแล้ว 8.36 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2554) ทั้งยังจัดเป็นกองทุน 5 ดาว ประเภท Thailand Fund Equity Large-Cap ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ต.ค. 2564) และ SCBSE-SSF (ชนิดเพื่อการออม) จ่ายในอัตรา 0.12 บาท (ครั้งที่ 3) รวมจ่ายปันผลแล้ว 0.32 บาทต่อหน่วย โดยกองทุนมีกลยุทธ์การลงทุนด้วยวิธี Active Approach ด้วยการคัดเลือกลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุดและสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนในขณะนั้น ซึ่งจะใส่น้ำหนักการลงทุนมากน้อยตามความน่าสนใจของหุ้นนั้น และกองทุนจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30 ตัว จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงในระดับสูงได้

"สำหรับตลาดหุ้นไทยคาดว่ามีโอกาสปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับ 1,680 - 1,700 จุดได้ในช่วงปลายปี 2564 โดยปัจจัยหลักยังคงเป็นเรื่องความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนให้กับประชากรในประเทศ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติที่จะเริ่มออกจากเอเชียเหนือโดยเฉพาะประเทศจีน เนื่องจากความกังวลเรื่องมาตรการควบคุมธุรกิจขนาดใหญ่จากภาครัฐของจีน และกลับเข้ามาซื้อหุ้นในภูมิภาคอาเซียนรวมถึงไทย ซึ่งจะเป็นส่งผลดีกับหุ้นขนาดใหญ่เช่นกลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคาร หรือกลุ่มขนส่งได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าเรื่องการลดวงเงินเชิงปริมาณ (QE Tapering) ของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป อาจจะทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความผันผวนชั่วคราวในระยะเวลาดังกล่าวได้ แต่คาดว่าผลกระทบดังกล่าวจะเป็นไปอย่างจำกัดเนื่องจาก Fed ได้มีการสื่อสารให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และราคาหุ้นในปัจจุบันก็ได้สะท้อนถึงปัจจัยดังกล่าวไปมากแล้ว" นายอาชวิณ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีกองทุนสินทรัพย์ทางเลือกอีก 2 กองทุน โดยกำหนดจ่ายให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 19 พ.ย. 2564 นี้ ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล (SCBPIND) สำหรับงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ส.ค. 2564 - 31 ต.ค. 2564 กำหนดจ่ายในอัตรา 0.0694 บาท (ครั้งที่ 7) รวมจ่ายปันผลแล้ว 0.9805 บาทต่อหน่วย (นับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2561) ทั้งยังจัดเป็นกองทุน 5 ดาว ประเภท Thailand Fund Property - Indirect Flexible ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ต.ค. 2564) และ SCBPIN-SSF (ชนิดเพื่อการออม) สำหรับงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ส.ค. 2564 - 31 ต.ค. 2564 และกำไรสะสม กำหนดจ่ายในอัตรา 0.1266 บาท (ครั้งที่ 2) รวมจ่ายปันผลแล้ว 0.2680 บาทต่อหน่วย โดยกองทุนเน้นลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานในไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้เปรียบด้านคาดการณ์กระแสเงินสดรับที่สม่ำเสมอจากค่าเช่าตามสัญญา เช่น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และคลังสินค้า เป็นต้น ปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนในตลาดไทยประมาณ 35% สิงคโปร์ประมาณ 60% และเงินฝากหรือสินทรัพย์อื่นอีกประมาณ 5% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2564)

นายอาชวิณ กล่าวเพิ่มเติมว่า สภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงเอื้อต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก ถึงแม้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกอาจจะชะลอตัวลงบ้างในกลุ่มประเทศที่มีการกระจายวัคซีนได้ดีอย่างสหรัฐฯ หรือจีน แต่ยังคงขยายตัวได้สูงกว่าก่อนการระบาด COVID-19 อย่างไรก็ตามการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกคาดว่าอาจจะมีการปรับขึ้นไม่สูงมาก เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นตลาดที่มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และราคาปรับขึ้นมาแรงในช่วงก่อนหน้า นอกจากนี้การลงทุนในช่วงที่ผ่านมาใน REIT ไทยและสิงคโปร์ นับว่าได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อ COVID-19 ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามการทยอยกลับมาเปิดประเทศจะเป็นตัวช่วยสร้างโอกาสการลงทุนใน REIT ไทยและสิงคโปร์ได้ โดยคาดว่าผลตอบแทนจะสูงกว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกจากราคาที่ปรับขึ้นน้อยกว่าในช่วงที่ผ่านมา

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย หรือ www.scbam.com สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ได้ที่ https://scbam.info/3dEjSFD

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน


ข่าวo:editor+o:finวันนี้

SAM เฉลิมฉลอง 25 ปี ในฐานะบริษัทบริหารสินทรัพย์ภาครัฐ พร้อมส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทย เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน

SAM เฉลิมฉลอง 25 ปี ในฐานะบริษัทบริหารสินทรัพย์ภาครัฐ พร้อมส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทย เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน คิกออฟมาตรการพิเศษขยายความช่วยเหลือครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งปรับหนี้ NPL และคลินิกแก้หนี้ พร้อมจัดโปรโมชัน NPA สุดคุ้ม นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 25 ปี ถือเป็นความสำเร็จและภาคภูมิใจที่ SAM ได้ยืนหยัดทำหน้าที่สำคัญในฐานะบริษัทบริหารสินทรัพย์ภาครัฐที่เป็นหนึ่งในเครื่องมือและกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหา

หลายคนที่กำลังมองหาแหล่งเงินก้อน อาจกำลัง... ตอบให้หายสงสัย รถมอเตอร์ไซค์ติดไฟแนนซ์อยู่ กู้ได้หรือเปล่า — หลายคนที่กำลังมองหาแหล่งเงินก้อน อาจกำลังสงสัยว่ารถมอเตอร์ไซค์ที่ยังผ่อนอยู่กับไฟแนนซ์ สามารถ...

พอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประ... ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประกาศกำไรสุทธิ ไตรมาส 1 ปี 2568 จำนวน 838.1 ล้านบาท — พอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็ม...

Mr. Paul Wong Chee Kin, President and Chi... CIMB THAI posts net profit of THB 838.1 million for 3M2025 — Mr. Paul Wong Chee Kin, President and Chief Executive Officer, CIMB Thai Bank PCL (CIMB Thai)...

บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่... กรุงศรีเปิดตัวกองทุน KF-EMXCN โอกาสเติบโตไปพร้อมกับ Emerging Market — บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่าความผันผวนจากสงครามการค้า ด้วยโอกาสลงทุนใน...

In the first quarter of 2025, the Thai ec... Bangkok Bank reports a net profit of Baht 12,618 million for the first quarter of 2025 — In the first quarter of 2025, the Thai economy began to exhibit s...

เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ปี 2568 เริ่มมีสัญญ... ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2568 จำนวน 12,618 ล้านบาท — เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ปี 2568 เริ่มมีสัญญาณชะลอตัว โดยมีสาเหตุหลักจากการลงทุนภาค...