กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หนุนการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี สร้างความยั่งยืนด้านพลังงาน ขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็น Net Zero Carbon Emissions พร้อมร่วมจัดงาน ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK 2021 (ASEW2021)กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) หนุนทุกภาคส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ตั้งเป้าปรับแผนการใช้พลังงานของประเทศ ขานรับความเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ (Disruptive Technology) สร้างแนวทางการใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions) พร้อมสนับสนุน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัดงาน ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK 2021 (ASEW2021) มหกรรมอุตสาหกรรมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการอนุรักษ์พลังงานของอาเซียนดร. ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า "กรมฯ มีภารกิจหลักในการสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงานของประเทศ โดยในปัจจุบันได้มุ่งเน้นส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานสะอาดในทุกภาคส่วน พร้อมสนับสนุนการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพขีดความสามารถ และรองรับความเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ (Disruptive Technology) มาใช้งานเพื่อให้เกิดการผลิตและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะโลกร้อน อาทิ สนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้าชุมชน เปิดรับการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล การผลิตไฟฟ้าจากไบโอก๊าซ สนับสนุนการใช้โซลาร์เซลล์ โดยเฉพาะในครัวเรือนและภาคเกษตร ที่สำคัญเราพร้อมสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมในการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานจากแหล่งฟอสซิลสู่การใช้พลังงานจากธรรมชาติ โดยปัจจุบันได้ตั้งเป้าหมายการใช้พลังงานสะอาดอยู่ที่ 30% โดยทางกระทรวงพลังงานได้หารือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการปรับระบบเศรษฐกิจสู่การเป็นประเทศปลอดคาร์บอน (Zero Carbon Economy) ในอนาคต ซึ่งหลายประเทศต่างตระหนักถึงผลกระทบของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ โดยล่าสุด ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กลับเข้าสู่ข้อตกลงปารีสและทุ่มงบประมาณในการเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจสู่สังคมปลอดคาร์บอน หรือประเทศญี่ปุ่น ได้เตรียมประกาศนโยบายปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ให้ได้ ภายในปี 2050 การเปลี่ยนแปลงสำคัญเหล่านี้จะผลักดันให้ประเทศต่างๆ ต้องปรับวิธีการดำเนินธุรกิจที่ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรับมือกับแรงกดดันทางการค้าจากประเทศคู่ค้า และปรับตัวเพื่อรองรับการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาเพื่อลดปริมาณการปล่อยคาร์บอน ทั้งนี้ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้กำหนดแนวทางเพื่อผลักดันให้ทุกภาคส่วน ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดแทนพลังงานในรูปแบบเดิม โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ต่อไปดร.ประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า "การเตรียมพร้อมเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานของโลก ที่จะเกิดขึ้นในอีก 5-10 ปี ข้างหน้า เราจำเป็นที่จะต้องปรับตัวกันตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม จะถูกผลักดันให้มุ่งผลิตสินค้าปลอดคาร์บอน และสินค้าที่ผลิตจากแหล่งฟอสซิลจะถูกกีดกันโดยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) จากปัจจัยดังกล่าว กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน จึงได้มีแนวทางความร่วมมือกับทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ในการส่งเสริมให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการลดปริมาณคาร์บอน และการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งนอกจากส่งผลดีต่อเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยได้อีกช่องทางหนึ่ง โดยล่าสุดได้ให้การสนับสนุน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ในการจัดงาน ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK 2021 (ASEW2021) ซึ่งเป็นเวทีสำคัญระดับภูมิภาคในการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการใช้พลังงานที่ยั่งยืน รองรับกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น และเป็นโอกาสในการระดมความคิด องค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน และอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงบทบาทของประเทศไทยในฐานะของประธานกลุ่มเครือข่ายความร่วมมือด้านประสิทธิภาพพลังงานและการอนุรักษ์พลังงานของอาเซียน ที่พร้อมจะเป็นผู้นำในการแสวงหาแนวทางความร่วมมือพัฒนาพลังงานทดแทนเพื่อสร้างมั่นคงด้านพลังงานของภูมิภาคอย่างยั่งยืนด้าน นายสรรชาย นุ่มบุญนำ รองกรรมการผู้จัดการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ กล่าวถึง การจัดงาน ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK 2021 (ASEW2021) ว่า ในปีนี้ได้จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ "ENHANCING ENERGY INTEGRATION FOR A SUSTAINABLE CITY" เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่ยั่งยืนของพลังงานที่มีต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและการเติบโตของเมือง ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้เน้นตอบโจทย์แนวโน้มพลังงานของทั่วโลกที่ไม่เพียงแต่มุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาดเพื่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างแท้จริง โดยจัดงานในรูปแบบไฮบริด (Hybrid Edition) ผสมผสานการจัดงานในรูปแบบปกติ (Physical Exhibition) และในรูปแบบออนไลน์ (Virtual Exhibition) เป็นแพลตฟอร์มงานแสดงสินค้าและโชว์รูมดิจิทัลที่จะอำนวยความสะดวกให้คู่ค้าทางออนไลน์ และเป็นครั้งแรกที่ผู้เข้าชมงานจะพบปะผู้ประกอบการจากต่างประเทศในรูปแบบ ไฮบริด พาวิเลียน (Hybrid Pavilion) ภายในงานมีการจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานล่าสุดไว้อย่างครบครัน อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์, เทคโนโลยีระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid/ Micro Grid), เทคโนโลยีเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมและมลพิษ, นวัตกรรมการผลิตแบตเตอรี่จัดเก็บพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง, การจัดการพลังงานด้วยศูนย์ข้อมูล (Big Data) ที่ผสมผสานการทำงานด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์, การจัดการโรงไฟฟ้าจากขยะตามแผนนโยบาย BCG Economy, อัปเดตเทรนด์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และ รวมถึงเครือข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถแลกเปลี่ยนพลังงานกับผู้ผลิตหรือระหว่างกันเองได้ นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมสัมมนากว่า 100 หัวข้อ การประชุมนานาชาติด้านพลังงานทดแทนในหัวข้อ REA Conference - International Renewable Energy Asia Conference, iEVTech - International Electric Vehicle Technology Conference, International Data Center for Energy Efficiency Conference, ASEAN Bioenergy & Economy Conference และหัวข้ออื่น ๆ ที่น่าสนใจ พร้อมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญกว่า 200 รายจากนานาประเทศ ร่วมให้ความรู้ในรูปแบบการสัมมนาออฟไลน์และออนไลน์ ทั้งนี้ ภายในงาน ยังมีไฮไลท์ที่สำคัญจากสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยกับกิจกรรม "Drive & Ride" การทดสอบขับยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ 100% จากค่ายรถยนต์ชั้นนำมาให้ผู้ที่สนใจได้ทดลองขับกันอีกด้วย
งาน ASEAN Sustainable Energy Week 2021 (ASEW 2021) งานแสดงนิทรรศการนานาชาติด้านพลังงานทดแทน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมและ เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในอาเซียน โดยกำหนดจัดงานพร้อมกับงาน PUMPS & VALVES ASIA และ THAI WATER EXPO ในวันพฤหัสบดีที่ 14 ถึงวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: www.asew-expo.com