Sasin School of Management สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดหลักสูตรบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต (หลักสูตรนานาชาติ) หรือ Doctor of Business Administration (International Program) หลักสูตรปริญญาเอกแบบพาร์ตไทม์ เน้นผู้นำมากประสบการณ์ที่ต้องการต่อยอดความรู้ ไปสู่การเป็น "real-world researcher" และ "reflexive practitioner"
จุดเด่นของหลักสูตร Sasin DBA :
ศ.ดร. เอียน เฟนวิค (Professor Ian Fenwick, Ph.D.) ผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า "เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรือที่เรียกว่า ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงแบบไม่หยุดยั้ง หลักสูตร Sasin DBA จะช่วยให้ผู้นำองค์กร ธุรกิจ อุตสาหกรรมต่าง ๆ มีความรู้และทักษะที่จะหาสาเหตุ วิเคราะห์ และนำองค์ความรู้จากงานวิจัยมาใช้ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ การสร้างกลยุทธ์ และการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม"
ดร. เบนจามิน เอลล์เวย์ (Dr. Benjamin Ellway) Sasin DBA Lead กล่าวเสริมว่า "ผู้นำที่ดีควรมีการทบทวนและตั้งคำถามกับความคิดเห็น ทักษะ และประสบการณ์ที่ตนเองมีอยู่ และมีความสามารถในการปรับตัวที่ดี รวมถึงการใช้หลักจริยธรรมในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในองค์กร หลักสูตรนี้จึงเป็นเครื่องมือสำคัญให้กับผู้เรียนเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเอง ให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงในอนาคต"
ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/347Inpi หรือ https://sasin.edu หรือ โทร. 085 123 6832 และสามารถสมัครเรียนพร้อมกรอกแบบฟอร์มใบสมัครออนไลน์ได้ที่ https://apply.sasin.edu ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2564
เกี่ยวกับ Sasin School of Management
Sasin School of Management หรือ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือกำเนิดขึ้นในฐานะสถาบันการศึกษาด้านบริหารธุรกิจหลักสูตรนานาชาติแห่งแรกของประเทศไทยภายใต้ความร่วมมือของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาบริหารธุรกิจชั้นนำของโลกถึง 2 แห่งได้แก่ Kellogg School of Management และ The Wharton School นอกจากนี้แล้ว ศศินทร์ยังเป็นสถาบันการศึกษาด้านบริหารธุรกิจระดับสากลแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน AACSB (Association to Advance Collegiate Schools of Business) และ EQUIS (European Quality Improvement System)
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit