เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เป็นตัวแทนหนึ่งเดียวจากภาคธุรกิจเอกชนของประเทศไทย ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ในการขับเคลื่อนแผนกลยุทธ์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร และบทบาทของภาคธุรกิจในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บนเวทีเสวนาระดับโลก "Transforming Agriculture and Land Use to Win the Race to Zero" ซึ่งจัดขึ้นแบบออนไลน์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของงาน ASEAN-UK Race to Zero Dialogues จัดโดย UK COPนพปฎล เดชอุดม6 Presidency, UK-ASEAN Business Council และ ASEAN Business Advisory Council โดยมีผู้บริหาร และนักวิชาการจากสถาบันและองค์กรชั้นนำจากนานาประเทศร่วมเสวนา เพื่อระดมสมองที่จะผนึกกำลังทุกภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจมุ่งไปสู่การจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยโลกให้ไม่เกิน ก๊าซเรือนกระจก.5 องศาเซลเซียส
นายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือซีพี กล่าวบนเวทีเสวนาระดับโลก โดยสรุปว่า เครือซีพีได้กำหนดทิศทางและเป้าหมายความยั่งยืนปี 2030 สู่การเป็นหนึ่งในผู้นำของโลกด้านความยั่งยืน ถือเป็นการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญ โดยประกาศ 2 เป้าหมายที่เครือซีพีต้องทำให้สำเร็จภายในปี 2030 คือ 1.การมุ่งสู่การเป็นองค์กร Zero Waste ลดขยะและของเสียให้เป็นศูนย์ 2.การมุ่งสู่การเป็นองค์กร Zero Carbon องค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ "สุทธิ" เป็นศูนย์ ซึ่งถือเป็นความท้าทายของเครือซีพีในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสู่ความยั่งยืนให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ เครือซีพีได้ยึดแนวทาง Climate Smart Agriculture หรือการบริหารจัดการภาคการเกษตรที่เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสูญเสีย รวมทั้งการดำเนินการต่าง ๆ ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด เช่น การใช้พลังงานทดแทนจากระบบไบโอแก๊ส การพัฒนาสูตรอาหารสัตว์ที่ลดก๊าซไนตรัสออกไซด์จากมูลสัตว์ นอกจากนี้ยังได้พัฒนาและปรับปรุงพันธุ์พืชและสัตว์ตลอดจนกระบวนการผลิตและเทคนิคทางการเกษตร ซึ่งนำไปสู่การจัดการเชิงนิเวศในผลิตภัณฑ์ของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้เทคโนโลยีในการมอนิเตอร์การเลี้ยงกุ้งตรวจสอบได้ว่ากุ้งต้องการอาหารมากแค่ไหนเพื่อบริหารจัดการในการลดของเสียและมลพิษ รวมทั้งใช้ระบบรีไซเคิลน้ำที่ช่วยลดการใช้น้ำต่อกิโลกรัมของผลิตภัณฑ์ลง 86% และลดการใช้พลังงานในระบบบำบัดน้ำได้ 30-35% ขณะเดียวกันก็เพิ่มผลผลิตไปได้อย่างคู่ขนาน
นอกจากนี้เครือซีพีได้นำพลังงานหมุนเวียนรูปแบบต่าง ๆ มาใช้ในการดำเนินการอย่างเหมาะสมกับธุรกิจต่าง ๆ ทั้งฟาร์มหมู โรงงานไข่ไก่ โรงงานแปรรูปอาหารหลายแห่ง อาทิ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาโรงงานและอาคารสำนักงาน การใช้พลังงานจากก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์และน้ำเสียนำไปบำบัดจนได้ก๊าซชีวภาพ นำไปผลิตกระแสไฟฟ้าและนำกลับไปใช้ในสถานประกอบการ ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่ายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปได้กว่า 600,000 ตันต่อปี นอกจากนี้ยังได้ขยายการพัฒนาระบบก๊าซชีวภาพไปสู่การดำเนินกิจการของซีพีในประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน เช่น กัมพูชา ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
"เครือซีพียังคงเดินหน้าพัฒนาหาโซลูชั่นทางเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อมาช่วยให้เกษตรกรในไทยและภูมิภาคอาเซียนได้บริหารจัดการพร้อมรับกับความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งการเฝ้าติดตามปศุสัตว์แบบดิจิทัล การจัดการคุณภาพน้ำ และการใช้โดรนเพื่อการเกษตร เทคโนโลยีเหล่านี้เครือซีพีได้ร่วมแบ่งปันกับเกษตรกรที่เป็นพันธมิตรตลอดจนการดำเนินงานของซีพีเอง โดยมีเป้าหมายคือการลดของเสียจากกระบวนการผลิตในภาคเกษตรขณะเดียวกันยังคงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ด้วย" นายนพปฎลกล่าว
นอกเหนือจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ จากประเทศไทย ยังมีผู้ร่วมเสวนาจากองค์กรชั้นนำระดับโลก อาทิ นายคริสโตเฟอร์ สจ๊วต Global Head of Corporate Responsibility and Sustainability บริษัท โอแลม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทซื้อขายสินค้าเกษตรชั้นนำของโลก นายดานุช ดิเนช Head of Partnerships and Outreach - CGIAR Research Program on Climate Change, Agriculture and Food Security ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความเชื่อมโยงกับภาคเกษตรและอาหาร นางสาวอิเมลดา บาคุโด ที่ปรึกษาโครงการเครือข่ายการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาเซียน (ASEAN Climate Resilience Network) เครือข่ายนักวิชาการและองค์กรภาคประชาสังคมที่ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคอาเซียน และนายอเลกซานเดอร์ ไจลส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้า Liberty Produce บริษัทเทคโนโลยีการเกษตรจากประเทศอังกฤษ โดยทุกคนต่างตระหนักดีกว่าภาคการเกษตรและการผลิตอาหารของโลกได้สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมีส่วนในภาวะโลกร้อน ดังนั้นจึงต้องร่วมกันเร่งมือเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการห่วงโซ่อุปทานเพื่อความยั่งยืน และการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผลิตอาหารที่ปลอดภัยและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้จำเป็นที่จะต้องเร่งสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาคอาเซียนเพื่อจับมือกันลดผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มาจากภาคอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร
แค่หนึ่งการให้…อาจเปลี่ยนทั้งชีวิตของใครหลายคน สภากาชาดไทย ผนึกกำลัง เครือซีพี ทรู เดินหน้ารณรงค์บริจาคอวัยวะและดวงตา ภายใต้โครงการ "Let Them See Love 2025" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 ผ่านภาพยนตร์โฆษณา "ขอบคุณผู้ให้" พลังแห่งการกอด แทนคำขอบคุณที่ยิ่งใหญ่ สงกรานต์นี้ เริ่มต้นปีใหม่ไทยด้วยการให้… ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย โดย นายแพทย์วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการ พร้อมด้วย ศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงลลิดา ปริยกนก ผู้อำนวยการ ร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และทรู คอร์ปอ
'สานใจไทย สู่ใจใต้' รุ่นที่ 44 … ซีพี - ซีพีเอฟ หนุนโครงการต่อเนื่องมุ่งเสริมสร้างโอกาสการศึกษา พัฒนาความคิดและทักษะอาชีพแก่เยาวชนไทยรุ่นใหม่
—
เครือเจริญโ...
ไทย-ญี่ปุ่น หนุนอุตสาหกรรมสีเขียว ล่าสุด เจโทร จับมือ บีโอไอ และ สกพอ. จัดตั้ง Sustainable Business Desk
—
ไทย-ญี่ปุ่น หนุนอุตสาหกรรมสีเขียว ล่าสุด เจโทร ...
เจียไต๋รับรางวัล CG Achievement Awards 2024 มุ่งสร้างวัฒนธรรมด้านธรรมาภิบาลเพื่อรากฐานสู่ความยั่งยืน
—
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัต...
ไอคอนสยาม ประกาศความสำเร็จ ส่งประเทศไทยเป็นเคานต์ดาวน์เดสติเนชั่นระดับโลก ทุบสถิติยอดผู้ร่วมงานพุ่งกว่า 1,000,000 คน ยอดผู้ชมทั่วโลกกว่า 100 ล้านวิว
—
ไอคอนสยาม แ...
เครือซีพี - ซีพีเอฟ ยกระดับโภชนาการในพื้นที่ห่างไกล เดินหน้า "โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน"
—
เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซีพีเอฟ และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พั...
ทรู ไอดีซี ดาต้าเซ็นเตอร์ ไม่หยุดสร้างปรากฎการณ์ใหม่ คว้ารางวัลระดับนานาชาติ ออกแบบ ก่อสร้าง จัดการพลังงานดีที่สุดในไทยเพื่อรองรับ AI
—
ทรู อินเทอร์เน็ต ด...
ร่วมรับผิดชอบสังคมและชุมชน ... 30 โรงงานของ CPF รับรางวัล CSR-DIW Continuous Award จากกรอ.
—
จากความมุ่งมั่นในการสร้างความสมดุลทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม แ...