บมจ. ดิทโต้ (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสาร เครื่องพิมพ์ เครื่องถ่ายเอกสารแบบครบวงจร รวมทั้งให้บริการรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีเฉพาะทาง พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 6 พ.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,300 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "DITTO"
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า mai ยินดีต้อนรับ บมจ. ดิทโต้ (ประเทศไทย) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มเทคโนโลยี โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "DITTO" ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2564
DITTO และบริษัทย่อย ประกอบ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) ธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสาร 2) ธุรกิจให้เช่า จำหน่าย และให้บริการด้านเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์ และ สินค้าเทคโนโลยีอื่นๆ และ 3) ธุรกิจรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับโครงการของหน่วยงานราชการต่างๆ ที่มุ่งเน้นในโครงการที่มีเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม (Innovation) และเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทาง ได้แก่ ระบบท้องฟ้าจำลองและพิพิธภัณฑ์ ระบบโทรมาตร ระบบเทคโนโลยีภายในอาคาร และโครงการประเภทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ปี 2563 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จาก 3 กลุ่มธุรกิจหลักคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 39, 30 และ 31 ของรายได้รวมตามลำดับ และเป็นสัดส่วนรายได้จากกลุ่มลูกค้าราชการ : เอกชนในกลุ่มธุรกิจที่ 1 และ 2 คิดเป็นร้อยละ 89:11 และ 44:56 ตามลำดับ ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ 3 มีลูกค้าเป็นกลุ่มราชการทั้งหมด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทมีมูลค่าโครงการที่ยังไม่รับรู้รายได้รวมทั้งสิ้น 379 ล้านบาท และ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 มีงานที่ได้รับคำสั่งซื้อหรือมีการลงนามในสัญญาเพิ่มอีกมูลค่า 38 ล้านบาท
DITTO มีทุนชำระแล้ว 220 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 360 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 80 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน แก่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์
นักลงทุนสถาบัน ผู้มีอุปการคุณของบริษัท กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 23 และ 26 - 27 เมษายน 2564 ในราคาหุ้นละ 7.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 600 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,300 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 28.85 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 มกราคม- 31 ธันวาคม 2563) เท่ากับ 114.20 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.26 บาทต่อหุ้น โดยมีบริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ดิทโต้ (ประเทศไทย) (DITTO) เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจจัดการเอกสาร มาแล้วกว่า 20 ปี มีสำนักงาน คลังสินค้า และสาขารวม 4 แห่ง ด้วยความรู้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้บริหารและทีมงาน ทำให้บริษัทปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างดี ทั้งยังสรรหาสินค้าและบริการใหม่ ๆ มานำเสนอให้กับลูกค้า พร้อมนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มาผสานกับการให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า สร้างผลงาน และความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้
จากการระดมทุนไปขยายศูนย์กระจายการให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสารสำหรับให้บริการบนระบบคลาวด์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
DITTO มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ กลุ่มตระกูลรัตนกมลพร ถือหุ้น 71.59% บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะบริษัทภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย
รายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.dittothailand.com และ www.set.or.th
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit