เยาวชนไทยคว้า 6 รางวัลใหญ่ในการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ระดับโลก Regeneron International Science and Engineering Fair 2021 (ISEF 2021) โดยได้รับรางวัล Grand Awards จาก 4 สาขา ได้แก่ สาขาชีววิทยาเชิงคำนวณและชีวสารสนเทศศาสตร์ สาขาเคมี สาขาสัตวศาสตร์ และสาขาชีวการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ และ 2 รางวัล Special Award
ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า "กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ผนึกกำลังส่งตัวแทนเยาวชนไทยเข้าร่วมการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ระดับโลก Regeneron International Science and Engineering Fair 2021 (ISEF 2021) ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16 - 21 พฤษภาคม 2564 แบบออนไลน์ โดยปีนี้ส่งทีมเยาวชนไทยเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 16 ทีม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้กว่า 2,000 คน จาก 64 ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นเวทีแข่งขันสำหรับนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ที่จะสร้างศักยภาพเด็กไทยให้เป็นที่ประจักษ์สู่เวทีระดับโลก"
โดยผลปรากฏว่าปีนี้เยาวชนไทยสามารถคว้าชัยรางวัลใหญ่แกรนด์อวอร์ด (Grand award) มาได้ถึง 4 รางวัลด้วยกัน ได้แก่
รางวัลที่ 1 สาขาชีววิทยาเชิงคำนวณและชีวสารสนเทศศาสตร์ กับ "โครงงานการประยุกต์ใช้เทคนิคการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อทำนายฤทธิ์ทางชีวภาพของลิแกนด์ในกระบวนการค้นหายามุ่งเป้าของโรคมะเร็งปอด สำหรับโมเลกุลเป้าหมาย EGFR" โดย นายณัฐกันต์ แสงนิล และนายภูริ วิรการินทร์ จากโรงเรียนกำเนิดวิทย์ จังหวัดระยอง โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษา นายบัณฑิต บุญยฤทธิ์ และนายธนศานต์ นิลสุ และได้รับทุนการศึกษาจำนวน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับโครงงานนี้ถูกพัฒนาจากที่ปัจจุบันโรคมะเร็งปอดเป็นโรคที่มีอุบัติการณ์เพิ่มสูงขึ้นในคนเอเชียโดยเฉพาะคนไทยซึ่งการวินิจฉัยและกระบวนการค้นหาและพัฒนายามุ่งเป้าของโรคมะเร็งปอดต้องใช้เวลาและต้นทุนค่อนข้างสูงและยังมีความเสี่ยงต่อข้อผิดพลาดในระหว่างการค้นหายาและประสิทธิภาพของตัวยาในระหว่างการวิจัยและพัฒนา ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในแง่ของการรักษาให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด ผู้พัฒนาสนใจพัฒนาโมเดลสำหรับการทำนายค่า pIC50 ของ ลิแกนด์ในกลุ่มตัวยับยั้งโปรตีนไคเนส (Kinase inhibitor) เพื่อการนำไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการค้นหาและพัฒนายามุ่งเป้าของโรคมะเร็งปอด โดยโมเดลดังกล่าวจะช่วยลดปัญหาที่เกิดจากกระบวนการค้นหาและพัฒนายามุ่งเป้าของโรคมะเร็งปอดซึ่งถือเป็นการเพิ่มทางเลือกและลดความเสี่ยงในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด และยังสามารถนำโมเดลไปพัฒนาต่อยอดในการค้นหายารักษาโรคอื่นๆ ต่อไปได้อีกด้วย
รางวัลที่ 2 สาขาเคมี กับ "โครงงานการพัฒนาเครื่องมือตรวจสอบไอออนโลหะหนักชนิดกระดาษ" โดยนายกิจการ นำสว่างรุ่งเรือง นายดวิษ บุญยกิจโณทัย และนายธิติ เถลิงบุญสิริ จากโรงเรียนกำเนิดวิทย์ จังหวัดระยอง โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษา ดร.สุรนันท์ อนันตชัยศิลป์ และได้รับทุนการศึกษาจำนวน 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ โครงงานนี้คือการคิดค้นเครื่องมือตรวจสอบไอออนโลหะหนักชนิดกระดาษ โดยอาศัยหลักการการเกิดสารประกอบเชิงซ้อนของเซนเซอร์สารอินทรีย์กับไอออนโลหะหนัก ทำให้สามารถเห็นสีของสารเชิงซ้อนได้ด้วยตาเปล่า เพื่อเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาให้กับเกษตรและชาวสวน โดยอุปกรณ์ประกอบด้วยเซนเซอร์สารอินทรีย์ และเทมเพลตกระดาษซึ่งเป็นฐานบรรจุเซนเซอร์ที่ใช้ตรวจจับไอออนโลหะหนัก ช่วยให้เกษตรกรและชาวสวนสามารถใช้ชุดเครื่องมือได้จริงในพื้นที่ ใช้เวลาอันสั้นในการทดสอบและมีราคาถูก โครงงานนี้ มีแผนในการต่อยอดให้มีเซนเซอร์ตรวจสอบไอออนชนิดอื่นอีกได้ รวมทั้งยังอาจออกแบบปรับปรุงพื้นผิวกระดาษเพื่อให้สามารถวัดความเข้มข้นของไอออนโลหะหนักได้ละเอียดขึ้นอีกด้วย
รางวัลที่ 4 สาขาสัตวศาสตร์ กับ "โครงงานการพัฒนาการเพาะเลี้ยงด้วงเต่าต้นแบบสู่การควบคุมแมลงศัตรูพืช" (Development of lady beetle cultivation for pest control) โดย นางสาววรินยุพา งามเจริญวงศ์ ด.ญ.นัยน์ปพร กำหอม และด.ช.ธนกร ศิลาพันธุ์ จากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายมัธยมศึกษา (มอดินแดง) จังหวัดขอนแก่น โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษา นายอัครวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ และได้รับทุนการศึกษาจำนวน 500 ดอลลาร์สหรัฐ โครงงานนี้เป็นการศึกษาจากปัญหาของด้วงเต่าลายหยักที่พบในพื้นที่เกษตรกรรมท้องถิ่น และมีประโยชน์ในการห้ำ (การกิน) แมลงศัตรูพืชได้มากที่สุดในธรรมชาติมีจำนวนน้อยลง จึงเกิดแนวคิดในการศึกษาความเป็นไปได้ในการเพาะเลี้ยงด้วงเต่าลายหยักให้มีจำนวนมากขึ้นและปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ จากการศึกษาพบว่า เมื่อด้วงเต่าลายหยักอยู่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสม หลังวางไข่ตัวเมียจะกินไข่ตัวเอง และตัวอ่อนจะกินกันเอง ทำให้อัตราการรอดชีวิตเป็นตัวเต็มวัยต่ำ จึงได้ศึกษาวิธีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยการเพาะเลี้ยงในโรงเรือนโดยใช้วัสดุรองพื้นจากถาดไข่ ในสภาวะความโปร่งแสง อุณหภูมิ 25 ๐C ความชื้นสัมพัทธ์ 75% ทำให้ด้วงเต่ามีการวางไข่สูงขึ้น ศึกษาการล่อตัวเมียออกจากไข่โดยใช้ ฟีโรโมนเพศผู้ที่เตรียมจากสารละลายมูลด้วงตัวผู้ผสมรอยเท้าด้วงตัวผู้ และใช้เพลี้ยแป้งมันสำปะหลังสีชมพูเป็นอาหารตัวอ่อน เพื่อป้องกันการกินกันเอง ทำให้การรอดชีวิตจากตัวอ่อนพัฒนาไปเป็นตัวเต็มวัยสูงขึ้น และเมื่อทดลองปล่อยด้วงเต่าลายหยักในแปลงนาข้าว มันสำปะหลังและถั่วลิสง พบว่าสามารถควบคุมแมลงศัตรูพืชในกลุ่มเพลี้ยได้หลายชนิด ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช สามารถลดต้นทุนให้เกษตรกร และเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้บริโภคมากขึ้นได้
และรางวัลที่ 4 สาขาชีวการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ กับ "โครงงานนวัตกรรมชุดทดสอบเหงื่อสามฟังก์ชันเพื่อการวิเคราะห์ระดับไมโครของปริมาณแคลเซียม ฟอสเฟต และค่ากรดเบส สู่การประเมินภาวะเสี่ยงโรคกระดูกพรุน" โดยนายพัฒฒ์ พฤฒิวิลัย นายกฤษฏิ์ กสิกพันธุ์ และนายกรวีร์ ลีลาอดิศร จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จังหวัดนครปฐม โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษา ดร.เกียรติภูมิ รอดพันธ์ และได้รับทุนการศึกษาจำนวน 500 ดอลลาร์สหรัฐ โครงงานนี้ศึกษาภาวะกระดูกพรุนซึ่งนับเป็น "มฤตยูเงียบ" เนื่องจากภาวะกระดูกพรุนนั้นจะไม่มีอาการเตือนล่วงหน้ามาก่อน ผู้พัฒนาจึงมีความต้องการที่จะประดิษฐ์ "นวัตกรรมชุดทดสอบเหงื่อสามฟังก์ชันเพื่อการตรวจวัดแคลเซียม ฟอสเฟต และ pH สู่การบ่งชี้แนวโน้มภาวะเสี่ยงโรคกระดูกพรุน" ด้วยวิธีการ Self-Assessment แบบ Non-Invasive โดยนวัตกรรมแผ่นแปะชุดทดสอบเหงื่อสามฟังก์ชันนี้ จะทำงานโดยการวิเคราะห์ระดับไมโครของปริมาณแคลเซียม ฟอสเฟต และ ค่ากรดเบส แล้วนำผลไปสู่การประเมินภาวะเสี่ยงโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ โครงงานนี้ยังมีแผนงานต่อยอดที่จะพัฒนาแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือเพื่อที่จะสามารถประมวลผลการทดสอบเชิงสีของปริมาณแคลเซียม ฟอสเฟต และ ค่ากรดเบส ได้อย่าง real-time/ simultaneous เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานชุดทดสอบมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ โครงงานนี้ยังสามารถคว้ารางวัลสเปเชียล อวอร์ด (Special Award) in Life Sciences จาก Sigma Xi The Scientific Research Honor Society ในสาขา Life Sciences มาครองได้อีก 1 รางวัล
ด้าน รศ.ดร.ศุภวรรณ ตันตยานนท์ นายกสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวแสดงความยินดีกับเยาวชนไทยในครั้งนี้ว่า "ขอแสดงความยินดีกับเยาวชนที่ได้รับรางวัลทุกคน รวมทั้งเยาวชนทุกทีมที่ได้เข้าร่วมในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งทุกคนมีความตั้งใจและความสามารถ ซึ่งถือว่าทุกคนได้ทำเต็มที่แล้ว ถึงแม้อาจจะพลาดรางวัลแต่ขอให้ทุกคนได้เก็บประสบการณ์และผลงานในครั้งนี้ไปใช้ประโยชน์ต่อไป เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศของเราต่อไปในอนาคต"
นอกจากข้างต้นแล้ว เยาวชนไทยยังได้รับรางวัลสเปเชียลอวอร์ด (Special Award) อันดับที่ 3 จาก The American Chemical Society ผลงานสาขาเคมี ในหัวข้อ "รงควัตถุดัดแปรคลอโรฟิลล์จากสารสกัดของวัชพืชเพื่อเป็นสีย้อมไวแสงอินทรีย์สำหรับเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดสีย้อมไวแสง : การศึกษาขั้นต้นในเชิงการดัดแปรโครงสร้าง" โดยนายสพล ไม้สนธิ์ , นายเสฏนันท์ ทรวงบูรณกุล และ นายศุภวิชญ์ พรหมโคตร จากโรงเรียนกำเนิดวิทย์ จังหวัดระยอง โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษา นางสาวประสงค์พร เรืองพีระศิริ และอาจารย์ที่ปรึกษาพิเศษ นายพัฒนนาวี นาเลาห์ และได้รับทุนการศึกษาจำนวน 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับ นางสาวยอดขวัญ อาจทะนงค์ นิสิตสาขาวิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับรางวัล "นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ดีเด่น" ในโครงการทูตเยาวชนวิทยาศาสตร์ไทย ครั้งที่ 20 (Young Thai Science Ambassador, YTSA#20) ซึ่งจัดโดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกับหน่วยงานภาคี นางสาวยอดขวัญ ได้แสดงศักยภาพและความสามารถในการสื่อสารวิทยาศาสตร์ได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้รับการคัดเลือกและได้รับรางวัลนี้ โดยมี ดร.สืบกุล กาญจนสุกร์
กรมวิทย์ฯ บริการ จับมือ อพวช. หนุนบุคลากร "พัฒนาทักษะการสื่อสารวิทยาศาสตร์" เสริมพลังการสื่อสารสร้างการรับรู้ เข้าใจ และเข้าถึงประชาชน
—
กรมวิทยาศาสตร์บริ...
อพวช. ชวนเที่ยวงาน "ถนนสายวิทยาศาสตร์ รับวันเด็กแห่งชาติ 2568"
—
อพวช. ชวนเที่ยวงาน "ถนนสายวิทยาศาสตร์ รับวันเด็กแห่งชาติ 2568" ภายใต้แนวคิด "Little Scien...
เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 20 เริ่มแล้ว
—
สสวท. จับมือสถาบันเกอเธ่ และหน่วยงานเครือข่ายพาชมฟรีหนังวิทย์ชั้นดีนานาชาติ หัวข้อ "การป...
NSM ร่วมเปิดงาน Sustainability Expo 2024 (SX2024) มหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ชวนร่วมค้นคำตอบเพื่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืนใน "ยุคโลกเดือด"
—
ดร.กรรณิการ...
NSM X EGAT ส่งเสริมแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมสู่สังคม
—
ดร.กรรณิการ์ เฉิน รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หรือ NSM ...
NSM เปิดตัว "ScIAM Meta Museum" โฉมใหม่ ชวนสัมผัสโลกเมตาเวิร์ส ผจญภัยการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สุดมหัศจรรย์
—
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ที่ ศูนย์แสดงสินค้าแ...
EGCO Group ผนึกกำลัง NSM ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านพลังงาน วิทยาศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม
—
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ผนึกกำลัง องค์การพิพิธ...
EGCO Group โดย ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม เปิดนิทรรศการ “Climate Tech เด็กเปล่งแสง ลดโลกเดือด” ในมหกรรมวิทย์ฯ ปี 67
—
EGCO Group โดย ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าข...