มูลนิธิ รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารฯ ชี้ "โควิด" สะท้อนความต้องการ 5 นวัตกรรม พร้อมดึงมือแพทย์ ย้ำชัด ! มาตรการ 3 ขั้น พาไทยรอดทุกวิกฤตสุขภาพ

04 Feb 2021

  • มูลนิธิ รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารฯ ชวนคนไทย ร่วม "ให้เพื่อสร้าง" ใน 2 ช่องทาง "โอนผ่านบัญชีมูลนิธิ" หรือ "บริจาค 100 บาท" เพียงกด 9841960*100# และโทรออก ทุกเครือข่าย
มูลนิธิ รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารฯ ชี้ "โควิด" สะท้อนความต้องการ 5 นวัตกรรม พร้อมดึงมือแพทย์ ย้ำชัด ! มาตรการ 3 ขั้น พาไทยรอดทุกวิกฤตสุขภาพ

มูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ชี้โควิด-19 ตัวแปรสำคัญ ตอกย้ำแพทย์ไทยมีความต้องการนวัตกรรมสูง หลัง สจล. โดยศูนย์รวมนวัตกรรม KMITL GO FIGHT COVID-19 ส่งมอบนวัตกรรมถึงมือแพทย์ไทย-ต่างประเทศกว่า 800 ชิ้น โดยนวัตกรรมที่ส่งมอบสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ตู้ตรวจเชื้อความดันบวก ตู้ตรวจเชื้อความดันลบ รถตู้ตรวจเชื้อ ชุด PAPRs และ เครื่องช่วยหายใจอัตโนมัติ พร้อมแนะโอกาสหากไทยมี "โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร" โรงพยาบาลศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์แบบครบวงจร ที่ช่วยเร่งพัฒนา อุปกรณ์-เครื่องมือ เพื่อเสริมแกร่งวงการแพทย์ไทย นอกจากนี้ หมอลาดกระบัง ย้ำเตือนมาตรการ 3 ขั้น "ล้างมือ - สวมแมสก์ - เว้นระยะห่าง" ช่วยคนไทยห่างไกลทุกวิกฤตสุขภาพ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/KMCHospitalbyKMITL, https://www.kmchf-pp.org/ หรือโทร. 09-2454-8160, 09-2548-2640

ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธาน มูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ และ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า "โควิด-19" (COVID-19) ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่กระตุ้นเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตระหนักถึงวิกฤตสุขภาพและความสำคัญของ "นวัตกรรมทางการแพทย์" ที่ต้องยอมรับว่า ประเทศไทย สูญเสียงบประมาณจากการนำเข้านวัตกรรม โดยเฉลี่ยต่อปีนับแสนล้านบาท ด้วยข้อจำกัดด้านการผลิตและงบประมาณ ซึ่งที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าภาคเอกชน ตลอดจนภาคการศึกษา ที่มีการระดมงบประมาณ เพื่อพัฒนาและส่งมอบนวัตกรรมทางการแพทย์ กระจายสู่โรงพยาบาลทั่วประเทศจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมา สจล. โดยศูนย์รวมนวัตกรรม KMITL GO FIGHT COVID-19 ได้ร่วมขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าว พร้อมส่งมอบนวัตกรรมถึงทีมแพทย์เป็นจำนวนกว่า 300 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 66 จังหวัด และ 3 ประเทศเพื่อนบ้าน เป็นจำนวนมากกว่า 800 ชิ้น โดยนวัตกรรมที่ สจล. ได้ดำเนินการส่งมอบสูงสุด 5 อันดับแรก มีดังนี้

  • ตู้ตรวจเชื้อความดันบวก (Swab test positive pressure) ตู้ตรวจเชื้อความดันบวก ลดความเสี่ยงของการรับเชื้อของ บุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรสาธารณสุข ขณะลงพื้นที่ตรวจคัดกรองโรคประชาชน โดยตู้จะผลักอากาศภายในตู้ออกสู่ภายนอก และเติมอากาศบริสุทธิ์ที่กรองเชื้อแล้วเข้าตู้ เชื้อโรคจะถูกกรองทิ้ง
  • ตู้ตรวจเชื้อความดันลบ (Swab test negative pressure) ตู้ตรวจเชื้อความดันลบ ลดโอกาสผู้ป่วยแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นหรือชุมชน โดยที่ผู้เสี่ยงติดเชื้อเข้าไปอยู่ด้านใน และให้ทีมแพทย์ ทำการสอดมือเข้าไปในช่องเพื่อทำการตรวจหัตถการ ซึ่งภายในตู้ดังกล่าว ได้รับการติดตั้งระบบกรองอากาศและฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV-C ทั้งนี้ ตู้ดังกล่าว จะดูดอากาศภายในตู้ผ่านเครื่องกรองอากาศ เพื่อทำลายเชื้อ แล้วจึงปล่อยอากาศออกสู่ภายนอก เมื่อผู้ป่วยอยู่ในตู้หายใจหรือไอออกมาเชื้อจะถูกดูดเข้าไปทำลาย จึงไม่แพร่เชื้อออกมาสู่คนอื่น
  • รถตู้ตรวจเชื้อ (Mobile Swab test) รถตู้ความดันบวก ที่มาพร้อมระบบกรองอากาศ เสริมเกราะป้องกันแพทย์ติดโควิด ทำหน้าที่เสมือนสายตรวจคัดกรองโรคเคลื่อนที่ในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อระหว่างการสอบสวนโรค ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น
  • ชุด PAPRs หน้ากากป้องกันเชื้อแบบสวมศีรษะ ในลักษณะคล้ายหมวกกันน็อค เสริมด้วยผ้าสะท้อนน้ำคลุมมาถึงบริเวณไหล่แบบมิดชิด ซึ่งภายในจะมีความดันบวก นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบกรองอากาศและมอเตอร์พัดลม ช่วยทำหน้าที่ถ่ายเทอากาศภายในขณะแพทย์สวมใส่
  • เครื่องช่วยหายใจอัตโนมัติ (Emergency Transport Ventilator - KNIN II) เครื่องช่วยหายใจในภาวะฉุกเฉิน ขนาดเล็กพกพาสะดวก มาพร้อมความสามารถในการช่วยปรับระดับอากาศที่เหมาะสมต่อการหายใจผู้ป่วย แบบอัตโนมัติ โดยที่แพทย์ไม่ต้องออกแรงบีบมือต่อเนื่อง หนุนลดการสัมผัสระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย

อย่างไรก็ดี หากในอนาคตประเทศไทยมีหน่วยงานเฉพาะอย่าง "โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร" หรือ KMC Hospital ที่เตรียมจัดสร้างบนพื้นที่เขตลาดกระบัง เพื่อทำหน้าเป็นด่านหน้าเคียงคู่ทีมแพทย์รับมือทุกวิกฤตสุขภาพ ผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนา (R&D) นวัตกรรมที่มีคุณภาพเทียบเท่าระดับสากล สู่การประยุกต์ใช้แก้ปัญหาสุขภาพของคนภายในประเทศได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนมีความพร้อมในการส่งมอบหรือถ่ายทอดนวัตกรรมแก่ประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต ด้วยต้นทุนการที่ต่ำลง และมีศักยภาพในการผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการ บนพื้นฐานของความรู้ความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ และนักวิจัยไทยในทุกศาสตร์ ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ กล่าว

รศ. นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ รักษาการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร (KMC Hospital) และรองอธิการบดีฝ่ายการแพทย์และเทคโนโลยีสุขภาพ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในนาม บุคลากรทางการแพทย์ไทย นักวิชาการ และรักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาล ขอยืนยันและเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงว่า มาตรการสำคัญที่พาคนไทยฝ่าทุกวิกฤตสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรณีที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปทำงาน หรือไปเรียนยังสถานที่ต่าง ๆ ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้ 1. หมั่นล้างมือ ด้วยน้ำสบู่หรือแอลกอฮอล์ 75% ทุกครั้งหลังหยิบ จับ บริเวณที่มีผู้สัมผัสบ่อย อาทิ ลูกบิดประตู ราวบันได ปุ่มกดลิฟต์ 2. สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ขณะเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่น และ 3. เว้นระยะห่าง (Social Distancing) อย่างน้อย 1-1.5 เมตร เพื่อป้องกันและลดการแพร่กระจายเชื้อระหว่างบุคคล

ทั้งนี้ เพื่อให้โรงพยาบาลดังกล่าว สามารถดำเนินการพัฒนานวัตกรรมได้อย่างรวดเร็ว และเติมเต็มศักยภาพของทีมแพทย์ไทย ประชาชนคนไทยสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการ ให้เงินบริจาค เพื่อร่วมสร้างโรงพยาบาลศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์ ผ่านบัญชี มูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารฯ ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 693-0-32393-4 หรือ กด 9481960*100# และโทรออก เพื่อร่วมสมทบทุนบริจาคเป็นจำนวน 100 บาท รศ. นพ.ประเสริฐ กล่าวทิ้งท้าย

ติดต่อขอรับใบกำกับภาษีหรือสอบถามข้อมูล โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร เพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ https://www.facebook.com/KMCHospitalbyKMITL เว็บไซต์ https://www.kmchf-pp.org หรือโทร. 09-2454-8160, 09-2548-2640

HTML::image(