"เอสซีจี" ชูนวัตกรรม-เทคโนโลยีดิจิทัล พลิกวิกฤตโควิด 19 เป็น "โอกาส" ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้ายุค New Normal

สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด 19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจทั่วโลก ที่สำคัญยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลายาวนานเพียงใด กว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและกลับสู่ระดับก่อนเกิดการระบาด

"เอสซีจี" ชูนวัตกรรม-เทคโนโลยีดิจิทัล พลิกวิกฤตโควิด 19 เป็น "โอกาส" ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้ายุค New Normal

ทว่า ในมุมมองของ "รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส" กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กลับมองว่า "ในวิกฤต ย่อมมีโอกาส" รวมถึงความท้าทายในการผลักดันการเติบโต เอสซีจีจึงได้กำหนด "ทิศทาง" การดำเนินธุรกิจในปี 2564 ให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนผ่าน ยุค New Normal

"วิกฤตโควิด 19 ในไทยและทั่วโลกรุนแรงมาก แต่เราประเมินว่าสถานการณ์ตอนนี้ คล้ายว่าโลกจะผ่านจุดต่ำสุดของการระบาดไปแล้ว โดยในเดือนกุมภาพันธ์ทั่วโลกมีจำนวนคนที่ฉีดวีคซีนป้องกันโควิด 19 ไปแล้ว 150 ล้านคน แซงหน้าคนที่ติดเชื้อโควิด 19 ที่มีกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก เดินสู่เป้าหมายในการฉีดวัคซีนในสัดส่วน 15% ของประชากรโลก" กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าว

จากการประเมินสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เอสซีจีต้องเร่งเดินหน้าคว้าโอกาสในการดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเร่งพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม ตอบโจทย์การพัฒนาสินค้าและบริการ พร้อมโซลูชันครบวงจร ให้สอดคล้องกับแนวโน้มของผู้บริโภคทั่วโลกที่หันมาให้ความสำคัญเรื่องสุขอนามัย ความสะอาด อุปกรณ์ที่ไร้การสัมผัส คำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงบริการเดลิเวอรี โดยเอสซีจีได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ใน 3 ด้าน เพื่อยกระดับกระบวนการดำเนินธุรกิจและตอบโจทย์ลูกค้า ได้แก่ 1.) พัฒนาแพลตฟอร์มซื้อ-ขายออนไลน์ ตอบโจทย์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ 2.) พัฒนาซัพพลายเชน เพื่อทำให้การขนส่งสินค้าไปให้ลูกค้าในต้นทุนที่ต่ำที่สุด ในเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ 3.) ดิจิทัลที่ใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อทำให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพที่สุด ตรงที่สุด และจัดการด้วยต้นทุนที่ดีที่สุด

นอกจากนี้ อีกหนึ่งเทรนด์โลกกำลังให้ความสำคัญกับแนวคิด ESG หรือธุรกิจที่มีแนวทางใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Environmental) ควบคู่กับการดูแลสังคม (Social) และมีธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ (Governance) ซึ่งเอสซีจีดำเนินการอยู่แล้วภายใต้แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน แต่จะนำผสานให้เป็นเนื้อเดียวกับกลยุทธ์ในแต่ละธุรกิจ (ESG Integration) ให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพราะทั่วโลกโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนส่วนบุคคล ต่างเชื่อมั่นว่า ธุรกิจที่มีการนำแนวทาง ESG ไปปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ คือธุรกิจที่จะสร้างความยั่งยืน (Sustainability) ฝ่าทุกวิกฤตที่ไม่คาดฝัน รวมถึงวิกฤตโควิด 19 ได้ด้วยเช่นกัน

กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ยังขยายความว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวจะถูกกำหนดอยู่ในแผนการดำเนินงานของ 3 ธุรกิจหลัก โดยธุรกิจซิเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จะเพิ่มความสำคัญการพัฒนานวัตกรรมสินค้าตอบโจทย์ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้บริโภค สอดคล้องกับกระแสใส่ใจสุขภาพ ผู้บริโภคทำงานที่บ้านมากขึ้นที่มีการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยมากกว่าการการสร้างบ้านใหม่ ขณะเดียวกัน จะปรับรูปแบบร้านค้าไปสู่อีคอมเมิร์ซมากขึ้น โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า ขณะที่ธุรกิจเคมิคอลส์ จะให้ความสำคัญเรื่องนวัตกรรมเคมีภัณฑ์รีไซเคิล สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน และธุรกิจแพคเกจจิ้ง ยังคงมุ่งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

"ในปี 2564 เอสซีจีได้กำหนดงบลงทุน ในสัดส่วนมากถึง 20-30% เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจในทิศทางดังกล่าว ส่วนงบอีก 15% จะเน้นไปที่การผลักดันเศรษฐกิจหมุนเวียน นอกเหนือจากงบกว่า 60% ถูกนำไปใช้ในโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในเวียดนามที่เป็นโครงการต่อเนื่อง"

ภายใต้ทิศทางการดำเนินงานในยุค New Normal ธุรกิจยังคงต้องใช้ 3 แนวทาง เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโต โดยต้องสังเกต-เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เพื่อนำมาเป็นทิศทางในการดำเนินธุรกิจให้ตรงใจลูกค้า ขณะเดียวกันก็ต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และสุดท้ายที่สำคัญคือ ต้องปรับตัวให้เร็วเพื่อช่วงชิงโอกาส ซึ่งถือเป็น "หัวใจ" สำคัญในการสร้างการเติบโตระยะยาวและความยั่งยืนให้กับเอสซีจีมาอย่างต่อเนื่อง

ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารอื่นๆ ของเอสซีจีได้ที่ https://scgnewschannel.com / Facebook: scgnewschannel / Twitter: @scgnewschannel หรือ Line@: @scgnewschannel


ข่าวรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส+ดำเนินธุรกิจวันนี้

PSH ตั้ง "รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส" นั่งประธานบอร์ด ดึง "แมนพงศ์ เสนาณรงค์" นั่งกรรมการอิสระ ควบ ประธานคณะกรรมการลงทุน

PSH ตั้ง "รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส" นั่งประธานบอร์ด ดึง "แมนพงศ์ เสนาณรงค์" นั่งกรรมการอิสระ ควบ ประธานคณะกรรมการลงทุน เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH มีมติแต่งตั้ง นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส ให้ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัท แทน ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ซึ่งเกษียณอายุครบ 72 ปี ตามข้อกำหนดในกฎบัตรคณะกรรมการบริษัท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 โดย นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส สำเร็จการศึกษา MBA จาก Harvard Business

เอสซีจีได้คะแนนสูงสุดจากดัชนีความยั่งยืนด... เอสซีจี ได้คะแนนสูงสุดด้านความยั่งยืนจาก DJSI — เอสซีจีได้คะแนนสูงสุดจากดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ หรือ DJSI ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เป็นผลจากการดำเนิ...

เอสซีจีผสานความร่วมมือกระทรวงต่างประเทศ เ... เอสซีจีส่งมอบเตียงสนามกระดาษและสุขากระดาษ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในตุรกี — เอสซีจีผสานความร่วมมือกระทรวงต่างประเทศ เร่งส่งมอบเตียงสนามกระดาษ...