กองทุนหุ้นต่างประเทศโชว์ฟอร์มเด็ด บลจ.กสิกรไทย ปันผลสนั่นกว่า 366 ล้านบาท กำหนดจ่ายพร้อมกัน 15 ก.พ.นี้ คาดผลสำเร็จจากการกระจายวัคซีนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังหนุนหุ้นต่างประเทศเติบโตต่อ
นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บริษัทมีมติจ่ายปันผลกองทุนหุ้นต่างประเทศ 7 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K-USA-A(D)) สำหรับรอบผลการดำเนินงาน 1 พ.ค. 63 - 31 ม.ค. 64 ในอัตรา 0.50 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน (K-INDIA) สำหรับรอบผลการดำเนินงาน 1 ก.พ. 63 - 31 ม.ค. 64 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน (K-GHEALTH) และกองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน Unhedged (K-GHEALTH(UH)) สำหรับรอบผลการดำเนินงาน 1 พ.ย. 63 - 31 ม.ค. 64 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดเค โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต ออพพอร์ทูนนิตี้ (K-GEMO) สำหรับรอบผลการดำเนินงาน 1 พ.ค. 63 - 31 ม.ค. 64 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน (K-EUROPE) สำหรับรอบผลการดำเนินงาน 1 ส.ค. 63 - 31 ม.ค. 64 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดเค เอเชียน สมอลเลอร์ หุ้นทุน (K-ASIA) สำหรับรอบผลการดำเนินงาน 1 พ.ย. 63 ถึง 31 ม.ค. 64 ในอัตรา0.20 บาทต่อหน่วย โดยทั้ง 7 กองทุนมีกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 15 ก.พ. 64 รวมมูลค่าทั้งสิ้น 366.71 ล้านบาท
นายนาวิน กล่าวต่อไปว่า กองทุนหุ้นต่างประเทศยังเป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ หลังจากเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณฟื้นตัวและ IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลกในปีนี้เป็น 5.5% สอดคล้องกับนักวิเคราะห์ที่มีมุมมองเป็นบวกต่อกำไรบริษัทจดทะเบียน อีกทั้งสภาพคล่องในระบบที่ยังมีสูงและอัตราดอกเบี้ยที่จะยังอยู่ในระดับต่ำจะช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่อไปได้ โดยนักลงทุนยังคงให้น้ำหนักไปที่ความสำเร็จของการผลิตและกระจายวัคซีน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่จากหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาสถานการณ์ระบาดและการกลายพันธุ์ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4 และแรงขายทำกำไรหลังตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นรับข่าวดีไปพอสมควรแล้ว
"บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองค่อนข้างบวกต่อหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาขณะที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0-0.25% ขณะเดียวกันผลประกอบการบริษัทไตรมาส 4 ที่ทยอยประกาศออกมาส่วนใหญ่มีกำไรต่อหุ้นสูงกว่าคาดซึ่งจะเริ่มเห็นการปรับประมาณการขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามขนาดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ของประธานาธิบดีไบเดนซึ่งตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหุ้นกลุ่ม Health Care ผลประกอบการหุ้นกลุ่มนี้ในดัชนี S&P 500 ของไตรมาส 4 ที่ประกาศออกมาแล้ว ส่วนใหญ่มีผลกำไรที่ดีกว่าที่ตลาดคาด และราคาหุ้นยังถูกอยู่เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นที่มีอัตราการเติบโตสูง" นายนาวินกล่าว
สำหรับหุ้นอินเดีย หุ้นตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) และหุ้นเอเชียขนาดเล็กนั้น นายนาวินกล่าวว่า ทั้ง 3 กลุ่มนี้ยังมีแนวโน้มที่น่าสนใจสำหรับการกระจายการลงทุนและยังคงมีมุมมองค่อนข้างบวกเช่นกัน โดยหุ้นอินเดียเริ่มมีสัญญาณสดใสขึ้นจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวชัดเจนโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนภายใต้การระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย และการเริ่มฉีดวัคซีนที่มีเป้าหมายครอบคลุมประชากร 300 ล้านคนภายในเดือน ก.ค. ทั้งนี้ ระดับราคาหุ้นซื้อขายค่อนข้างแพงและอาจผันผวนในระยะสั้น แต่มองว่ายังมีโอกาสเติบโตของกำไรในอนาคต ขณะที่กลุ่มประเทศเกิดใหม่ยังมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แตกต่างกันโดยตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียมีการฟื้นตัวที่ดีกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีน ขณะที่บางประเทศยังมีความเปราะบางเนื่องจากพึ่งพาการค้านอกภูมิภาคสูง แต่ระดับราคาหุ้นของหลายประเทศในตลาดเกิดใหม่ยังอยู่ในระดับน่าสนใจ ส่วนหุ้นเอเชียที่เป็นหุ้นขนาดเล็ก แม้การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐจะยังเอื้อการไหลเข้าของกระแสเงินทุนจากต่างชาติในเอเชียแต่เนื่องจากหุ้นกลุ่มนี้ยังพึ่งพารายได้จากในภูมิภาคเป็นหลัก จึงอาจจะฟื้นตัวได้ช้ากว่าหุ้นขนาดใหญ่หากสถานการณ์ระบาดเริ่มคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม สำหรับฝั่งยุโรปเศรษฐกิจยังคงเปราะบาง แนะนำผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นยุโรปให้ติดตามสภาวะตลาดอย่างใกล้ชิดและรอประเมินสถานการณ์
ผู้ลงทุนที่สนใจในกองทุนหุ้นต่างประเทศของ บลจ.กสิกรไทย สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย หรือ ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 5 รางวัล จากงาน Best of the Best Awards 2025 ได้แก่ รางวัล Best Asset Management Company (30 Years), Best Asset Management Firm for Digital Marketing, Best Alternatives Manager, Best ESG Manager และ Best Multi-Asset Manager ทั้งนี้ รางวัลที่ บลจ.กสิกรไทย ได้รับทั้ง 5 สาขา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ บลจ.กสิกรไทย ในการพัฒนาและนำเสนอบริการด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ รวมถึงการปรับตัว
กรุงศรีเปิดตัวกองทุน KF-EMXCN โอกาสเติบโตไปพร้อมกับ Emerging Market
—
บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่าความผันผวนจากสงครามการค้า ด้วยโอกาสลงทุนใน...
บลจ.ทิสโก้เปิดกอง TGOV7M10 กองทุนรวมตราสารหนี้ อายุ 7 เดือน
—
บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรรัฐบาล 7 เดือน 10 (TGOV7M10) เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบ...
บลจ.กสิกรไทย ตอกย้ำ Trusted Asset Manager การบินไทย ไว้วางใจให้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
—
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่ง...
บลจ. ไทยพาณิชย์ ได้รับความไว้วางใจจาก การบินไทย มอบหน้าที่ให้บริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
—
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดย นายชาย เอี่ยมศิริ ประธา...
พิธีลงนามสัญญาแต่งตั้งบริษัทจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
—
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด(บลจ.วรรณ) ได้รับความ...
บลจ.กสิกรไทย ชวนผู้ลงทุนเปิดรับโอกาสเกษียณมั่งคั่ง ส่ง K-WORLDXRMF ลุยทำกำไรตามดัชนีหุ้นโลก
—
บลจ.กสิกรไทย สร้างทางเลือกการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ เปิดตัวกองท...
KFDNMRMF คว้ารางวัลกองทุนยอดเยี่ยมจาก Morningstar Awards 2025
—
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมจาก Morningstar Awards for In...
KTAM รับ 2 รางวัลกองทุนยอดเยี่ยม จาก Morningstar Awards for Investing Excellence 2025 สะท้อนการบริหารกองทุนได้อย่างดีเยี่ยม
—
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน...