สัญชาติที่สองกลายเป็นสินค้าหรูล่าสุดในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน ผู้คนมากมายถือสองสัญชาติเพื่อสถานการณ์ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางการเงินหรืออย่างอื่น ที่น่าสนใจก็คือ ประชากรกลุ่มมิลเลนเนียล โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำงานในด้านเทคโนโลยี ได้เริ่มวางแผนอนาคตของพวกเขาด้วยการถือสัญชาติที่สองเพื่อการโยกย้ายที่ทำงาน มองหาความปลอดภัยที่ดีขึ้น และคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม ในช่วงเวลาที่โลกเปลี่ยนเข้ามาสู่ยุคของการทำงานทางไกล ทำให้คนหนุ่มสาวทั้งหลายเปลี่ยนตัวเองให้กลายมาเป็นประชากรที่ไม่ยึดติดอยู่กับประเทศใดประเทศหนึ่งในโลกดิจิทัลเพื่อขยายโอกาสทางเศรษฐกิจของพวกเขา ในขณะที่โลกกำลังพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนเช่นนี้ ประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกาและเอเชีย ต่างก็ถูกมองว่าเป็นแหล่งพำนักของประชากรที่มีอายุน้อยที่สุด และเป็นกลุ่มประชากรที่มีรายได้สุทธิต่อหัวที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ทำให้พื้นที่เหล่านี้กลายมาเป็นจุดหมายแห่งใหม่สำหรับตลาดการลงทุนเพื่อขอสัญชาติในขณะนี้
ภายในปีที่ผ่านมา ความนิยมของโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติซึ่งเป็นโครงการที่ให้สัญชาติเพื่อแลกเปลี่ยนกับการลงทุนในเศรษฐกิจของประเทศ ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างมากจนกลายเป็นกระแสหลัก โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2527 ที่ประเทศเซนต์คิตส์และเนวิส ซึ่งเป็นประเทศเกาะในแคริบเบียนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และปัจจุบันโปรแกรม CBI ของเซนต์คิตส์และเนวิสก็ได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์มาตรฐานระดับแพลทินัมเนื่องจากความเก่าแก่และความสามารถในการปรับตัว
"เรามีประสบการณ์ยาวนานที่สุดในด้านโปรแกรมการได้รับสัญชาติผ่านการลงทุนทั่วโลก ทุก ๆ โครงการที่เกิดขึ้นหลังปี 2527 ถ้าจะพูดไปแล้ว ก็ดัดแปลงจากโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติของเซนต์คิตส์และเนวิสทั้งนั้น" ทิโมธี แฮร์ริส นายกรัฐมนตรีกล่าวในงานสัมมนาออนไลน์ครั้งล่าสุด
ผู้สมัครหนึ่งรายมีข้อกำหนดให้ต้องลงทุนเป็นจำนวนเงินเพียงแค่ 150,000 ดอลลาร์ในกองทุนSustainable Growth Fund และผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยที่จำเป็นเพื่อได้รับสัญชาติเซนต์คิตส์และเนวิส โดยผู้สมัครที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น สิทธิในการเดินทางไปได้กว่า 150 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องใช้วีซ่า สิทธิในการใช้ชีวิต ทำงาน และศึกษาในเซนต์คิตส์และเนวิส และอย่างสุดท้ายคือโอกาสทางธุรกิจที่ให้คุณเข้าถึงประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกอย่างสหรัฐได้
ยิ่งไปกว่านั้น ประชากรกลุ่มมิลเลนเนียลที่ลงทุนในโปรแกรม CBI ของเซนต์คิตส์และเนวิสจะรับรู้ถึงประโยชน์เชิงบวกต่อสังคมอย่างมหาศาลที่ได้ทำให้กับประเทศชาติ รายได้ที่ได้จากโปรแกรมดังกล่าวจะถูกส่งกลับสู่การพัฒนาของประเทศที่ครอบคลุมตั้งแต่การท่องเที่ยวและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการศึกษา และสุดท้าย ผู้ที่เลือกจะอยู่อาศัยในเซนต์คิตส์และเนวิสจะสามารถสร้างบ้านในประเทศประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพที่ให้ความสำคัญกับพลเมืองตัวเองและปกป้องหลักนิติธรรม
"สัญชาติที่สองคือเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับคนยุคมิลเลนเนียลที่มีสตาร์ทอัพนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จซึ่งต้องการจะเป็นคนเร่ร่อนในยุคดิจิทัล" พอล ซิงห์ ผู้อำนวยการ CS Global Partners ที่ปรึกษาของรัฐบาลและบริษัทการตลาดชั้นนำที่เชี่ยวชาญในด้านการลงทุนเพื่อขอสัญชาติกล่าว
ติดต่อ :
โทร. +44 (0)7867 942505
อีเมล [email protected]
www.csglobalpartners.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit