TWZ ประกาศลุยธุรกิจกัญชงกัญชา-คาดรับรู้รายได้ Q2 ปีนี้ หลังเดินหน้าเซ็นเอ็มโอยูวิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักจังฟาร์มวังน้ำเขียว

31 Mar 2021

TWZ ประกาศลุยธุรกิจกัญชงกัญชา เดินหน้าเซ็นเอ็มโอยูวิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักจังฟาร์มวังน้ำเขียว จัดตั้งบริษัทใหม่ "กัญช์ยารักษ์" รุกถือหุ้น 51% เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชงกัญชา ให้กับลูกค้าและกิจการร่วมทุนที่เป็นกลุ่มปลายน้ำ ทั้งเครื่องดื่ม อาหาร สแน็ค สุขภาพและความงาม ย้ำเป็นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมชัดเจน เหตุกลุ่มรักจังฟาร์มอยู่ภายใต้ความสนับสนุนและร่วมมือกับภาครัฐ ทั้งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่ปัจจุบันปลูกกัญชาแล้วจำนวน 1,890 ต้น และองค์การเภสัชกรรมที่อยู่ระหว่างรอปลูกในไตรมาสที่ 2 อีก 1,200-2,000 ต้น คาด TWZ รับรู้รายได้จากธุรกิจกัญชงกัญชาในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ พร้อมเดินหน้าเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรธุรกิจปลายน้ำเพื่อต่อยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ สร้างโอกาสในการเติบโต

TWZ ประกาศลุยธุรกิจกัญชงกัญชา-คาดรับรู้รายได้ Q2 ปีนี้ หลังเดินหน้าเซ็นเอ็มโอยูวิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักจังฟาร์มวังน้ำเขียว

นายพุทธชาติ รังคสิริ ประธานกรรมการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าร่วมลงทุน (เอ็มโอยู) กับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักจังฟาร์มวังน้ำเขียว โดยมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารเข้าศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ตลอดจนศึกษาแนวทางป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ล่าสุด คณะกรรมการบริหารได้อนุมัติการเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าว โดยบริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักจังฟาร์มวังน้ำเขียว เพื่อดำเนินการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชงและกัญชาของรักจังฟาร์มวังน้ำเขียวทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ปัจจุบัน วิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักจังได้ปลูกกัญชาภายใต้ความสนับสนุนและร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรและองค์การเภสัชกรรม ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในวิสาหกิจชุมชนต้นแบบที่ร่วมกับโรงพยาบาลของรัฐในการพัฒนาโมเดลการปลูกกัญชาทางการแพทย์ในรูปแบบโรงเรือนหรือกรีนเฮ้าส์ ซึ่งขณะนี้ทางองค์การอาหารและยา (อย.) ยังไม่อนุญาตให้บริษัทเอกชนรายใดปลูกกัญชา แต่ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรักจังฟาร์มได้จับมือร่วมกับผู้ที่ได้รับอนุญาตการปลูก 2 ราย จากทั้งหมด 17 ราย ได้แก่ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรและองค์การเภสัชกรรม ทาง TWZ จึงเห็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชงกัญชาได้อย่างเป็นรูปธรรมในปัจจุบัน

ประธานกรรมการ TWZ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักจังฟาร์มวังน้ำเขียว จะจัดตั้งบริษัท กัญช์ยารักษ์ จำกัด ซึ่ง TWZ จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 51% และตัวแทนกลุ่มรักจังฟาร์มถือหุ้นในสัดส่วน 49% โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชงและกัญชา ซึ่งผลิตจากวัตถุดิบที่ผลิตและหรือจัดหาโดยบริษัท กัญช์ยารักษ์ จำกัด และขายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าและหรือกิจการที่เข้าร่วมทุนอื่นๆ โดยจะเน้นการเข้าร่วมทุนกับกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภคในกลุ่มต่างๆ ที่เรียกว่า กลุ่มปลายน้ำ เช่น กลุ่มเครื่องดื่ม กลุ่มอาหาร กลุ่มสแน็ค กลุ่มสุขภาพและความงาม เป็นต้น โดยบริษัท กัญช์ยารักษ์ จำกัด จะได้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการได้สิทธิหรือสัมปทานในการซื้อวัตถุดิบที่ผลิตได้จากฟาร์มและรวมถึงผลผลิตที่จะผลิตได้ในอนาคตแต่เพียงผู้เดียวในราคาส่วนลดไม่น้อยกว่า 20% ของราคาตลาด

ทั้งนี้ ในปัจจุบันกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรักจังฟาร์ม มีผลผลิตและต้นกัญชาที่ปลูกอยู่ในส่วนของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จำนวน 1,890 ต้น และส่วนขององค์การเภสัชกรรม รอการปลูกภายในไตรมาสที่ 2 อีกประมาณ 1,200-2,000 ต้น ซึ่งต้นกัญชาดังกล่าวจะเป็นกัญชาสายพันธุ์ CBD Charlotte's Angle ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีสาร CBD สูงมากและ THC ต่ำมาก เหมาะสมในการนำไปใช้ต่อยอดในเชิงธุรกิจและถูกต้องตามเกณฑ์ของกฎหมาย โดยไม่ต้องพึ่งพาโรงคัดแยกที่ต้องแยกสาร THC ออก จึงเป็นการลดทั้งต้นทุน ระยะเวลา และกระบวนการผลิตได้อย่างมาก

"การเซ็นเอ็มโอยูกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักจังฟาร์มวังน้ำเขียว เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ TWZ หลังจากที่เราประกาศความมุ่งมั่นไปก่อนหน้านี้ว่า เราจะมองหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ และพร้อมจะก้าวไปในอุตสาหกรรมที่อยู่ในกระแสและสามารถสร้างการเติบโตให้กับ TWZ ได้ ซึ่งธุรกิจกัญชงกัญชาก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เราสนใจ ยิ่งเมื่อผนวกกับพันธมิตรที่มีจุดแข็งอย่างวิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักจังฟาร์มวังน้ำเขียว ที่มีความพร้อมด้านวัตถุดิบ สินค้าและผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว ทำให้เรามั่นใจมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ได้ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งภายหลังจากการบรรลุข้อตกลงร่วมทุนนี้แล้ว บริษัทฯ จะคัดเลือกกลุ่มธุรกิจปลายน้ำที่จะเจรจาตกลงเพื่อทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงเจรจาเข้าร่วมทุน เพื่อต่อยอดและขยายตลาดของผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 1-2 เดือน" นายพุทธชาติกล่าว