มีการคาดการณ์ว่า อัตราการดื้อยาปฏิชีวนะที่ใช้กันอย่างแพร่หลายอาจเพิ่มขึ้นเป็น 4การดำเนินการ-6การดำเนินการ% ในบางประเทศภายในปี สาธารณสุข573 [ยาปฏิชีวนะ] ขณะที่การดื้อยาต้านจุลชีพ (Antimicrobial resistance: AMR) คาดว่าจะคร่าชีวิตผู้คนราว ยาปฏิชีวนะการดำเนินการ ล้านคนภายในปี สาธารณสุข593 หากไม่มีการดำเนินการใดๆ [สาธารณสุข] ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญของ GHC จึงเรียกร้องให้มีการทบทวนวิถีปฏิบัติด้านสุขอนามัยภายในบ้านและในชีวิตประจำวันให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับปัญหาเร่งด่วนด้านสาธารณสุขที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ทั้งการดื้อยาและโควิด-ยาปฏิชีวนะ9
ในเอกสารวิชาการฉบับใหม่ที่ GHC จัดทำขึ้นและตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Infection Control ฉบับเดือนกันยายน ผู้เชี่ยวชาญได้เผยหลักฐานที่บ่งชี้ว่า การรักษาสุขอนามัยภายในบ้านและในชีวิตประจำวันของเราให้สะอาดขึ้นเป็นองค์ประกอบสำคัญในการต่อสู้กับแบคทีเรียดื้อยา นั่นเพราะการมีสุขอนามัยที่ดีมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการดื้อยาได้ 2 ทางด้วยกัน คือ ป้องกันการติดเชื้อซึ่งจะนำไปสู่การลดใช้ยาปฏิชีวนะ และป้องกันการแพร่เชื้อจากคนสู่คนอันเป็นสาเหตุที่ทำให้แบคทีเรียดื้อต่อยาปฏิชีวนะ
นอกจากนี้ เอกสารดังกล่าวยังพิสูจน์ให้เห็นว่า การลดโอกาสการแพร่เชื้อภายในบ้านและในชุมชน รวมถึงการปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยโดยยึดหลักแนวทางการประเมินความเสี่ยงนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น ตัวอย่างเช่น การกำจัดเชื้อโรคที่แพร่กระจายอยู่ตามพื้นผิวที่เสี่ยงต่อการเป็นแหล่งแพร่เชื้อ และมือเมื่อทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการติดโรค เช่น ขณะทำอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยลดการแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ ขณะเดียวกัน งานวิจัยเชิงทดลองของเรายังบ่งชี้ด้วยว่า การดูแลสุขอนามัยของมือให้สะอาดขึ้นในเด็กที่ศูนย์ดูแลเด็กเล็กสามารถลดความจำเป็นในการใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับรักษาโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่พบได้ทั่วไปลงถึง 30% [3]
ศาสตราจารย์ Sally Bloomfield ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและผู้ร่วมวิจัยในงานชิ้นนี้อธิบายว่า “เราย้ำเตือนให้ทุกคนปฏิบัติตามแนวทางการรักษาสุขอนามัยตามกลุ่มเป้าหมาย (Targeted Hygiene) ซึ่งมีหลักฐานรองรับนี้ ทั้งภายในบ้านและในชีวิตประจำวัน แทนการทำความสะอาดบ้านทุกซอกทุกมุม โดยมุ่งเน้นไปที่ช่วงเวลาและบริเวณที่จุลชีพก่อโรคมีโอกาสแพร่เชื้อสูง ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยสกัดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 เท่านั้น แต่ยังช่วยลดโอกาสที่เชื้อโรคจะดื้อยาด้วย”
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/1196867/GHC_Logo.jpg
บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA ผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้ครบวงจร ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารในเครือทั่วประเทศอย่างเร่งด่วน หลังเกิดเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 โดยยึดมั่นในนโยบายด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของพนักงาน ลูกค้า และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน การดำเนินการในครั้งนี้ สะท้อนถึงความตระหนักรู้ และความรับผิดชอบขององค์กรต่อสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิต และทรัพย์สินของพนักงานและลูกค้า โดย MGC-ASIA ไม่
EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
—
นายบัณฑิต สะเพียรชั...
คปภ. ทำงานร่วมกับ กทม. ลงพื้นที่ประสานงานกรณีตึกถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เร่งตรวจสอบสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัยเพื่อดูแลผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน
—
นายอดิศร พิ...
UMI ได้รับใบประกาศเกียรติคุณโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS) จาก โครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก
—
บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหา...
เปิดแล้ว ! งานแสดงรถยนต์นานาชาติครั้งที่ 46 ที่กรุงเทพฯ
—
วันที่ 24 มีนาคม งานแสดงรถยนต์นานาชาติครั้งที่ 46 ที่กรุงเทพฯ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดย บริษ...
TEKA ร่วมนำเสนอข้อมูลในงาน Opp Day ตั้งเป้ารายได้ปี 68 โต 10%
—
นายสุพล จงจินตรักษา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ ...
L&E นำเสนอข้อมูลผลประกอบการไตรมาส 4/67 พร้อมเปิดแผนธุรกิจปี 68 ในงาน Opportunity day ตั้งเป้าโต 15-20%
—
นายอนันต์ กิตติวิทยากุล (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้า...