Sai Life Sciences หนึ่งใน Contract Development & Manufacturing Organizations (CDMOs) ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ประกาศเพิ่มแพลตฟอร์มวิเคราะห์เซลล์ล้ำสมัยที่ศูนย์ Discovery Biology ในเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา
ในโอกาสครบรอบปีแรกในเคมบริดจ์ ชุดแพลตฟอร์มที่เพิ่มขีดความสามารถประกอบด้วย แพลตฟอร์มคัดกรองคอนเทนต์ขั้นสูง Opera Phenix, มาตรวัดการไหล FACSCelesta และเครื่องเรียงลำดับ FACSMelody ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่สตาร์ทอัพและบริษัทไบโอเทคในภูมิภาค โดยเฉพาะในโครงการวิจัยทางชีววิทยาในเนื้องอก ประสาท และโรคหายาก
ในช่วงปีที่ผ่านมา แล็บดังกล่าวมีโครงการมากมาย ครอบคลุมตั้งแต่การศึกษาตัวอย่างพันธุกรรมและเภสัชวิทยา การตรวจสอบสารทำปฏิกิริยา ไปจนถึงการพัฒนาการทดสอบวิเคราะห์ให้แก่ลูกค้า เช่น สารวิเคราะห์เซลล์เป้าหมาย และการประเมินดัชนีชี้วัดทางชีวภาพในหลอดทดลอง
Dr Katherine Yen ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Auron Therapeutics กล่าวถึงประสบการณ์ที่ได้ทำงานกับ Sai Life Sciences ว่า “พวกเขาไม่เพียงทำการทดลองอย่างรอบคอบและมอบข้อมูลอย่างทันท่วงทีเท่านั้น แต่ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคของพวกเขายังมีส่วนช่วยออกแบบการทดลองและตีความผลลัพธ์ ซึ่งทำให้เราสามารถสร้างข้อมูลที่สำคัญสำหรับโปรแกรมค้นหายาของเราได้อย่างรวดเร็ว”
Dr Al Schroeder ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่าย R&D ของ Eikonizo Therapeutics กล่าวว่า “ทีม Sai พัฒนาแผนงานและเริ่มการทดลองอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการวิเคราะห์ของพวกเรา การมาเคมบริดจ์ของพวกเขาช่วยเร่งโครงการให้สำเร็จอย่างแท้จริง เรารู้สึกชื่นชมกับความเข้มงวดและความรวดเร็วของพวกเขา และเราจะทำงานกับพวกเขาต่อไป”
ตั้งอยู่ในใจกลางระบบนิเวศไบโอเทคเคมบริดจ์/บอสตัน แล็บขนาด 8,500 ตารางฟุตของ Sai ในจัตุรัสเคนดัลล์สร้างโอกาสให้บริษัทไบโอเทคท้องถิ่นสามารถทำงานแบบตัวต่อตัวกับนักวิทยาศาสตร์ของ Sai ได้บ่อยขึ้น เพื่อเร่งการวิจัยให้เกิดผลโดยลดวงจรเวลา จุดเน้นด้านการสำรวจของห้องแล็บแห่งนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างโครงการชีววิทยาที่ซับซ้อนสู่ภายนอก ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการออกแบบการทดลองที่ราบรื่นด้วยการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ การเสริมทีมในเคมบริดจ์เข้ามาเป็นทีมชีววิทยาในอินเดียที่มีขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับการทำงานเป็นลำดับเพื่อมอบโซลูชั่นที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ทั้งในแง่ความเร็ว ต้นทุน และความสามารถ
Krishna Kanumuri ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการของ Sai Life Sciences กล่าวถึงแผนของบริษัทว่า “เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ลูกค้าของเราพัฒนาพอร์ตโฟลิโอการค้นคว้าภายในให้ประสบความสำเร็จ และกำลังลงทุนในทรัพยากรต่างๆ เพื่อมอบบริการระดับโลกในพื้นที่บอสตัน ศักยภาพใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเป็นเพียงส่วนหนึ่งในแผนเติบโตเชิงกลยุทธ์ของเราด้วยขีดความสามารถสำคัญที่จะมาเพิ่มเติมเร็วๆ นี้”
แล็บเคมบริดจ์ทำหน้าที่เป็นสะพานสำคัญที่ช่วยผสานบริการทั้งหมดของบริษัทอย่างไร้รอยต่อในสหราชอาณาจักรและอินเดีย ขยายขอบเขตครอบคลุมการค้นคว้าและพัฒนายา ประกอบด้วยเคมียา, DMPK และพิษวิทยา, กระบวนการทางเคมีและการพัฒนาเชิงวิเคราะห์ และการผลิตเพื่อการพาณิชย์
เกี่ยวกับ Sai Life Sciences
Sai Life Sciences เป็น CDMO ที่ให้บริการครบวงจร และขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์ในการสนับสนุนการเปิดตัวยาชนิดใหม่ให้ได้ 25 รายการภายในปี 2025 โดย Sai Life Sciences ทำงานร่วมกับบริษัทยาและเทคโนโลยีชีวภาพทั่วโลกเพื่อเร่งคิดค้น พัฒนา และผลิตโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความซับซ้อน Sai Life Sciences เป็น CDMO เต็มตัว โดยสนับสนุนโครงการพัฒนา NCE หลากหลายโครงการ และส่งมอบคุณค่าอันเป็นผลมาจากคุณภาพและการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพของบริษัท ปัจจุบัน Sai Life Sciences ทำงานร่วมกับบริษัทยายักษ์ใหญ่ระดับท็อป 10 มากถึง 7 แห่ง รวมถึงบริษัทยาและเทคโนโลยีชีวภาพขนาดกลางและขนาดย่อมอีกหลายแห่ง Sai Life Sciences เป็นบริษัทเอกชนที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนระดับโลกอย่าง TPG Capital และ HBM Healthcare Investment สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sailife.com
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/1044186/Sai_Life_Sciences_Logo.jpg
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1251954/Sai_Life_Sciences_OperaPhenix.jpg
Sai Life Sciences องค์กรรับจ้างวิจัย พัฒนา และผลิตยา (CRO/CDMO) ชั้นนำระดับโลก ได้ลงนามในข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact หรือ UNGC) ซึ่งเป็นโครงการด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดย Sai Life Sciences มุ่งมั่นปฏิบัติตามหลักการ 10 ประการของ UNGC ว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการคอร์รัปชัน เพื่อตอกย้ำพันธกิจของบริษัทในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืน Krishna Kanumuri ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า "ในขณะที่เราดำเนินตามวิสัยทัศน์