มั่นใจธุรกิจ E-Money, ระบบชำระเงิน และตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ ต่อยอดธุรกิจตู้เติมเงิน
“SABUY” สบาย เทคโนโลยี ประกาศตัว พร้อมเป็น หุ้น FinTech ตัวแรกที่เข้าเทรดในตลาดหุ้นไทย เปิดตัว Eco System, E-Money ระบบชำระเงิน รองรับลูกค้าทุกกลุ่ม ต่อยอดธุรกิจตู้เติมเงิน และตู้ขายสินค้าอัตโนมัติให้เติบโตต่อเนื่อง
นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ “SABUY” เปิดเผยว่า “ SABUY” เป็น ผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเงิน (Fin Tech) ที่มี Eco System เป็นของตนเอง โดยมุ่งเน้นธุรกิจค้าปลีก (E-Commerce) รูปแบบใหม่ และ ให้บริการรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านตู้เติมเงินแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม ครอบคลุมตั้งแต่ลูกค้าระดับกลาง และ ลูกค้ารายได้น้อยทั่วประเทศ โดยธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 4 ธุรกิจ ได้แก่
ปัจจุบัน SABUY มีรายได้หลักกว่า 50% จาก ธุรกิจตู้เติมเงินภายใต้ แบรนด์ “เติมสบายพลัส” และ มีรายได้ 30% จากธุรกิจขายสินค้าผ่านตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ โดยในปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,328 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น 417 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 86 ล้านบาท ในขณะที่ในงวด 9 เดือนแรกปี 2562 นี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 892 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น 400 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท โดยรายได้จากธุรกิจตู้ขายสินค้าเติบโตเฉลี่ยสูง และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากแผนการเพิ่มจำนวนตู้สินค้าอย่างต่อเนื่อง และ การเพิ่มสินค้าใหม่ที่มีราคาต่อหน่วยสูง เช่น หน้ากากอนามัย เสื้อยืด ราคาเฉลี่ยประมาณ 100 บาททำให้รายได้ต่อตู้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ จากปัจจุบันที่รายได้หลักมาจากการการจำหน่ายเครื่องดื่มราคาเฉลี่ย 10-15 บาทต่อชื้น รวมถึงการขยายร้านค้าปลีกอัตโนมัติรูปแบบใหม่ภายใต้แบรนด์ “6.11 Select” และ “6.11 Corner” และ ร้านบริการซักผ้าอัตโนมัติ “ SABUY WASH”
ดร. สันติธร บุญเจือ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีนวัตกรรม บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จุดเด่น ของ SABUY คือ บริษัทฯ มี Eco System ของตนเองซึ่งในปี 2562 มีจำนวนทรานแซกชั่นสูงถึง 27 ล้านทรานแซกชั่น ครอบคลุม
- E-Money Platform - บัตรเครดิต
- QR Prompt Pay - In-app Promotion
- Loyalty program และ เงินสด สามารถรองรับระบบชำระเงินสำคัญที่มีผู้ใช้จำนวนมาก เช่น SCB EASY VISA MASTER CARD Rabbit Linepay True Money Grabpay Alipay PromptPay และระบบ Loyalty Program รองรับระบบ TRUE YOU และอื่นๆ เป็นต้น โดย SABUY มีทีมงานด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่พัฒนาเทคโนโลยีระดับสูงด้วยตนเอง ซึ่งบริหารงานโดยผู้บริหารด้านเทคโนโลยี ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านระบบธนาคารระดับนานาชาติ”
นายชูเกียรติ กล่าวเสริมว่า “บริษัทฯมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่ม Commerce โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 157.02 ล้านหุ้น หรือ 15% ของทุนจดทะเบียน 1,050 ล้านบาท (พาร์ 1 บาท) แก่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการต่างๆ อาทิ โครงการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money Service) โครงการติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงการให้บริการระบบเงินอิเล็กทรอนิกส์แก่ศูนย์อาหารและร้านค้า โครงการขยายศูนย์กระจายสินค้า ตลอดจนโครงการเพิ่มตู้ขายสินค้าอัตโนมัติซึ่งมีอัตราการเติบโตสูง เพื่อสร้างการเติบโตให้บริษัทฯอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่างๆตามกฎหมาย”
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัท หลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญของ SABUY กล่าวว่า “ หุ้นไอพีโอ “SABUY” ได้รับความสนใจอย่างสูงจากการโรดโชว์กับ สถาบันการเงินต่างๆ เนื่องจากเป็นหุ้น Fin Tech ตัวแรกของตลาดหุ้นไทย โดย SABUY มี Business Model ที่ดีและพิสูจน์แล้วว่าสร้างผลกำไรได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้ SABUY มี Eco System ของตนเองที่มีผู้ใช้มากถึง 27 ล้าน ทรานแซกชั่นต่อปี และ มีแผนการขยายธุรกิจที่จะสร้างการเติบโตอย่างสูง โดยที่สำคัญ ทีมผู้บริหารระดับสูงของ SABUY เป็นทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ระดับสูงจากธนาคารระดับโลก และ ธนาคารชั้นนำของไทย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอย่างสูง และ ความเข้าใจในอุตสาหกรรมด้าน E-Banking และ E-Commerce เป็นอย่างดี นอกจากนี้ SABUY ยังมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีทุนจดทะเบียนสูงถึง 1,050 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นและ อัตรากำไรสุทธิสูง และ มีอัตราหนี้สินต่อทุนต่ำ จึงมีโอกาสในการขยายกิจการด้าน E-Commerce ได้อีกมาก”
บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ “SABUY” มีทุนจดทะเบียน 1,050.00 ล้านบาท และทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 887.98 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 887.98 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยมีกลุ่มรุจนพรพจี และ กลุ่มวีระประวัติ เป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีบริษัทย่อยทั้งหมด 3 บริษัทคือ บริษัทเวนดิ้ง พลัส จำกัด (“VDP”) เป็นผู้ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ เช่น เครื่องดื่ม ขนม และสินค้าต่างๆ ผ่านตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “เวนดิ้งพลัส” บริษัท สบาย มันนี่ จำกัด (“SBM”) เป็นผู้ให้บริการการชำระเงิน (Payment Service Provider / Facilitator) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “สบาย มันนี่” และบริษัท สบาย โซลูชั่นส์ จำกัด (“SBS”) เป็นผู้ให้บริการติดตั้งระบบศูนย์อาหาร บริการระบบศูนย์อาหาร และบริการซ่อมแซมบำรุงรักษาระบบศูนย์อาหาร
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit