ธนาคารกรุงเทพ รับลูกโครงการ “DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง”พร้อมคิกออฟ 1 ก.ย. 63 มั่นใจแก้หนี้เบ็ดเสร็จในจุดเดียว

ธนาคารกรุงเทพ รับลูก ธปท. พร้อมคิกออฟโครงการ DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง ตั้งแต่ 1 ก.ย. 63 เป็นต้นไป มั่นใจเป็นประโยชน์กับลูกหนี้ สามารถจัดการหนี้ในภาพรวม เบ็ดเสร็จในจุดเดียว เพิ่มประสิทธิภาพ-ลดเวลาดำเนินการ สั่งสแกนลูกค้าธุรกิจวงเงินสินเชื่อ 5ธนาคารกรุงเทพ-5ธนาคารกรุงเทพธนาคารกรุงเทพ ล้านบาท รีบติดตามดูแลใกล้ชิด ย้ำมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีทุกกลุ่ม พร้อมเป็น “เพื่อนคู่คิด” ก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปกับลูกค้า

ธนาคารกรุงเทพ รับลูกโครงการ “DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง”พร้อมคิกออฟ 1 ก.ย. 63 มั่นใจแก้หนี้เบ็ดเสร็จในจุดเดียว

นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จัดโครงการ “DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง” เพื่อเป็นแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปัจจุบันให้มีกลไกการจัดการหนี้กับสถาบันการเงินทุกแห่งได้อย่างบูรณาการและเบ็ดเสร็จในคราวเดียวนั้น ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการนี้ มีความพร้อมอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจผ่านโครงการดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไป

สำหรับมาตรการช่วยเหลือภายใต้โครงการนี้ ธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการฯ จะมีกลไกและเครื่องมือการช่วยเหลือลูกค้า 2 ส่วนหลัก คือ

  1. แก้ไขหนี้เดิม โดยการบรรเทาภาระหนี้ในปัจจุบันซึ่งพิจารณาตามความเหมาะสมกับศักยภาพของลูกหนี้แต่ละรายเป็นสำคัญ เช่น การลดค่างวด การขยายเวลาชำระหนี้ และ/หรือ ปรับเงื่อนไขให้เหมาะสมกับศักยภาพของลูกหนี้ การกำหนดระยะเวลาปลอดหนี้และการผ่อนชำระหนี้ที่เหมาะสม รวมถึงการทบทวนการให้วงเงินของลูกหนี้ที่เหลืออยู่ เป็นต้น
  2. การให้สินเชื่อใหม่ สถาบันการเงินเจ้าหนี้สามารถร่วมกันพิจารณาให้สินเชื่อใหม่แก่ลูกหนี้ที่มีศักยภาพ มีแผนธุรกิจที่ชัดเจน มีความตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจอย่างจริงจัง รวมถึงมีพฤติกรรมการชำระหนี้ที่ดี เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้

โครงการนี้นับเป็นตัวอย่างการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันของสถาบันการเงินต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและเบ็ดเสร็จในคราวเดียว จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา ลดความซ้ำซ้อนเรื่องเอกสารและการเจรจา ทำให้ได้ข้อยุติร่วมกันอย่างรวดเร็วกับทุกสถาบันการเงิน ขณะเดียวกัน ยังสามารถร่วมกันพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติมได้ หากเห็นว่าลูกค้ามีแผนแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจนและมีศักยภาพที่จะทำได้ ดังนั้น ลูกค้าก็มีทางรอดเพิ่มขึ้น สถาบันการเงินก็จัดการหนี้ได้ดีขึ้น จึงถือเป็นแนวทางแก้ไขที่ได้ประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย

สำหรับลูกค้าที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการเข้าร่วมโครงการ “DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง” เพียงเป็นลูกค้าธุรกิจที่ใช้บริการสินเชื่อกับธนาคารกรุงเทพ และสถาบันการเงินต่าง ๆ ตั้งแต่ 50-500 ล้านบาท สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ของธนาคารที่ดูแลอยู่ในปัจจุบัน หรือสาขาธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลข่าวสารได้ที่บัวหลวงโฟน โทร 1333 หรือ 0-2645-5555 ทั้งนี้ สามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่ 1 กันยายน 2563 – 31 ธันวาคม 2564

ปัจจุบันธนาคารได้ติดตามสถานการณ์ลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิด และหากพิจารณาเห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้มาตรการช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้าจะต้องรีบประสานงานเพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือลูกค้าทันที รวมถึงการให้คำปรึกษาแนะนำลูกค้าผู้ประกอบการ เพื่อปรับแผนการผ่อนชำระให้สอดคล้องกับรายได้และการจัดโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจของผู้ประกอบการ

“ธนาคารกรุงเทพมีความพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลลูกค้าและช่วยเหลือผู้ประกอบการทุกกลุ่มอย่างใกล้ชิด ผ่านหลากหลายมาตรการช่วยเหลือ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งมีส่วนสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจไทยและยังเป็นแหล่งจ้างงานหลักของประเทศ เพราะธุรกิจกลุ่มนี้มักมีเงินทุนจำกัด จึงอาจได้รับผลกระทบที่ค่อนข้างหนัก ดังนั้น ในเวลานี้เรายิ่งต้องช่วยเหลือ พร้อมจะเป็น “เพื่อนคู่คิด” ที่ช่วยกันประคับประคองให้ลูกค้าและธนาคารสามารถก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปด้วยกันได้อย่างปลอดภัย” นายสุวรรณ กล่าว


ข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย+สุวรรณ แทนสถิตย์วันนี้

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าในปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตร้อยละ 2.4 จากเดิมที่คาดไว้ร้อยละ 2.8 และคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ในการประชุมเดือนเมษายนนี้ "ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับธนาคารกลางทุกแห่ง เราได้ปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.4% จากเดิมที่คาดไว้ที่ร้อยละ 2.8 เนื่องจากปัจจัยเรื่องความไม่

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล... PDPC ร่วมตำรวจ-ธปท. ทลายขบวนการใช้ข้อมูลบัตรเครดิตผิดกฎหมาย ยึดกว่า 3.3 ล้านรายการ — สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC โดย พ.ต.อ....

ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างต้องรวดเร็วทันใจ ก... อยากกู้เงินด่วนออนไลน์ เลือกที่ไหนดี มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง — ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างต้องรวดเร็วทันใจ การกู้เงินด่วนออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับคว...

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าคณะกรรมกา... ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องหนุน กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย — ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแ...

ย้อนกลับไปในปี 2559 "พร้อมเพย์" ได้ถือกำเ... "พร้อมเพย์" 8 ปีแห่งการพลิกโฉมระบบการเงินไทย ระบบที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคนไทยอย่างแท้จริง — ย้อนกลับไปในปี 2559 "พร้อมเพย์" ได้ถือกำเนิดขึ้นในฐานะโครงสร้างพื้...

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนา... EXIM BANK ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ปิดหนี้ได้ไว ไปต่อได้เร็ว — ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EX...