จุรินทร์ นำพาณิชย์ รุกตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ รวมกว่า 600 ราย สู่แพลตฟอร์มออนไลน์ คาด 3 วันจัดงานสร้างรายได้ 1,200 ล้านบาท ใหญ่สุดในเอเชีย

นายจุรินทร์ เปิดเผยว่า จากวิกฤติโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าทั่วโลกอย่างมาก ในมิติของการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติก็ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมาตรการควบคุมการเดินทางและการกักตัวของประเทศต่างๆ ทำให้ผู้เข้าเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าจากต่างประเทศไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมงานได้เหมือนเช่นที่ผ่านมา จึงให้นโยบายปรับการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ให้หันมาใช้ระบบออนไลน์ในการทำกิจกรรมด้านการตลาดมากขึ้น เพราะเราจะอยู่นิ่งไม่ได้และต้องปรับตัวอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายในการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลก ด้วยการผลักดันนโยบาย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึงการขับเคลื่อนภารกิจเร่งรัดการส่งออก

"โดยมียุทธศาสตร์สำคัญคือการรักษาและขยายตลาดเดิม เปิดตลาดใหม่ รวมถึงฟื้นตลาดเก่าที่เคยเป็นตลาดสำคัญ ภายใต้ตลาดนำการผลิต ด้วยเหตุนี้ งาน BGJF Special Edition - On Ground to Online Exhibition จึงเกิดขึ้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ Exhibitor หรือผู้แสดงสินค้าทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศได้มีเวทีพบและเจรจาการค้ากับผู้ซื้อจากทั่วโลก ในรูปแบบงานแสดงสินค้าเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ที่จำลองบรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในงานแสดงสินค้าจริง ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยได้รับโอกาสทางธุรกิจแม้ในห้วงเวลาที่ไม่ปกติ" นายจุรินทร์กล่าว

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่างาน BGJF Special Edition - On Ground to Online Exhibition นับเป็นครั้งแรกที่รวบรวมผู้แสดงสินค้าจากงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับกว่า 600 บริษัทสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ซื้อจากทั่วโลกในช่วงเวลาที่นักธุรกิจยังไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ โดยมีรูปแบบผสมผสานการจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง (Virtual Trade Fair) และการเจรจาธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) โดยผู้ที่สนใจสามารถทำการซื้อขายได้ทันทีผ่านระบบการไลฟ์แชทหรือวิดีโอคอล และยังสามารถนัดหมายการเจรจาการค้าล่วงหน้าได้ด้วย คาดว่าจะเกิดมูลค่าการซื้อขายออนไลน์ในช่วงการจัดงาน 1,200 ล้านบาท มีการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ไม่น้อยกว่า 1,000 คู่ และผู้เข้าชมแพลตฟอร์มไม่น้อยกว่า 50,000 ราย

และรายงานจากสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่าในแพลตฟอร์ม www.bkkgems-vts.com ยังมีกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจ ได้แก่ พิธีเปิดตัวโครงการในรูปแบบออนไลน์ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 กิจกรรม "Explore the New Treasures Everyday" ซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษในรูปแบบของ E-BOOK ที่รวบรวมผู้ประกอบการที่น่าจับตามองจากแต่ละภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่จะทำให้คุณค้นพบอัญมณีและเครื่องประดับในแง่มุมใหม่ๆ เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจได้ในอนาคต และการสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ จัดโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT และ Gemological Institute of America (GIA)

รายงานกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุด้วยว่าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเป็นอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สามารถสร้างงานและสร้างรายได้ให้แก่ช่างฝีมือและแรงงานกว่า 1.2 ล้านคน ก่อให้เกิดอุตสาหกรรมที่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ นอกจากนี้ อัญมณีและเครื่องประดับไทยยังได้รับการยอมรับจากผู้ซื้อจากทั่วโลก ทั้งในเรื่องวัตถุดิบพลอยสี ช่างฝีมือ และดีไซน์ที่สวยงาม ทำให้ไทยกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลก โดยในปี 2562 ไทยส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ รวมทองคำเป็นอันดับ 3 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.37 ของมูลค่าการส่งออกรวมของไทย สามารถทำรายได้ให้กับประเทศถึงกว่า 486,000 ล้านบาท

สำหรับผู้ที่สนใจเพิ่มเติมสามารถติดตามงาน BGJF Special Edition - On Ground to Online Exhibition จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2563 ผ่านทางเว็บไซต์ www.bkkgems-vts.com สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักส่งเสริมการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร 02 507 8392 - 3 หรืออีเมล [email protected]

• ข่าวงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ
• ข่าวกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
• ข่าวจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
• ข่าวการค้าระหว่างประเทศ
• ข่าวกรมส่งเสริมการค้า