'PRM’ โชว์ผลงานการเติบโต ทำกำไรสุทธิ 295.5 ล้านบาท รับกลุ่มธุรกิจเรือ FSU และขนส่งภายในประเทศสุดแกร่ง มั่นใจแนวโน้มครึ่งปีร้อนแรงต่อเนื่อง

'บมจ. พริมา มารีน’ หรือ (“PRM”) ผลงานร้อนแรงต่อเนื่อง โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส ตลาดหลักทรัพย์ฯ/63 ทำกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักอัตราแลกเปลี่ยน (Core Profit) ที่ 372.4 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 295.5 ล้านบาท เติบโต 22.9% สูงสุดนับตั้งแต่ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จากศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศ และกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บปิโตรเลียมหรือ FSU ที่มีอัตราการใช้บริการยังอยู่ในระดับสูง สอดคล้องกับแผนการลงทุนและความต้องการในการใช้เรือฯ มั่นใจผลการดำเนินงานของปี 2563 ขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ COVID-ตลาดหลักทรัพย์ฯ9

'PRM’ โชว์ผลงานการเติบโต ทำกำไรสุทธิ 295.5 ล้านบาท รับกลุ่มธุรกิจเรือ FSU และขนส่งภายในประเทศสุดแกร่ง มั่นใจแนวโน้มครึ่งปีร้อนแรงต่อเนื่อง

นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) (“PRM”) ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีเหลวทางเรือรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 ว่าบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตทั้งในแง่ของรายได้และการทำกำไรที่ดีสอดรับกับการขยายการลงทุนของกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศ และกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บปิโตรเลียมกลางทะเลหรือ FSU ซึ่งเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลักที่เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง             'PRM’ โชว์ผลงานการเติบโต ทำกำไรสุทธิ 295.5 ล้านบาท รับกลุ่มธุรกิจเรือ FSU และขนส่งภายในประเทศสุดแกร่ง มั่นใจแนวโน้มครึ่งปีร้อนแรงต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีผลกำไรก่อนหักอัตราแลกเปลี่ยนหรือ Core Profit ในไตรมาสนี้จำนวน 372.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 246.1 ล้านบาท และหากหักอัตราแลกเปลี่ยนแล้วบริษัทฯ ยังมีกำไรสุทธิสูงถึง 295.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้รวมทำได้ 1,505.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,188.7 ล้านบาท            

ปัจจัยการเติบโตดังกล่าว มาจากกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บปิโตรเลียมกลางทะเลหรือ FSU ที่มีรายได้เติบโตจากการลงทุนในปีที่ผ่านมา ประกอบกับความต้องการในการเก็บน้ำมันที่มีอยู่ในระดับสูงเนื่องจากการลดลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถปรับขึ้นราคาค่าบริการ ซึ่งจะส่งผลต่อผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจ FSU ในปี 2563 ได้เป็นอย่างดี ขณะที่กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศ ที่ให้บริการแก่คู่ค้าน้ำมันรายใหญ่ของไทย มีอัตราการใช้เรือเฉลี่ยยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ปัจจัยจาก COVID-19 มีผลกระทบในช่วงปลายไตรมาส 1/63 แต่บริษัทฯ ก็มีแผนบริหารจัดการเพื่อรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กลุ่มธุรกิจดังกล่าวยังทำผลงานได้ดีเช่นกัน              

“เราพอใจกับผลการดำเนินของบริษัทฯ ในไตรมาสแรกที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บปิโตรเลียมกลางทะเล (FSU) และธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศเป็นหัวหอก คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 48% และ 40% ของรายได้รวมทั้งหมดตามลำดับ และอัตรากำไรขั้นต้นยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เป็นผลให้เราสามารถทำกำไรสุทธิได้สูงสุดนับตั้งแต่ PRM เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2560 ตอกย้ำความสำเร็จของ PRM ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมให้บริการเรือขนส่งและจัดเก็บปิโตรเลียมทางทะเลรายใหญ่ที่สุดของไทย” นายวิริทธิ์พล กล่าว            

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าจะรักษาการเติบโตที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งและกักเก็บปิโตรเลียมกลางทะเล (FSU) ที่ยังคงรักษาอัตราการใช้บริการเรือเต็ม 100% เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งภายในประเทศที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังภาครัฐเริ่มคลายมาตรการล็อคดาวน์จากสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19


ข่าวน้ำมันสำเร็จรูป+ตลาดหลักทรัพย์ฯวันนี้

SPRC รายงานผลประกอบการทางการเงินในไตรมาสที่ 2 ปี 2567

มร. โรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC รายงานว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ 2/2567 เปรียบเทียบกับ 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ผ่านมา ค่าการกลั่นที่ต่ำลงซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่อ่อนตัวลงส่งผลกระทบทางลบต่อกำไรจากการดำเนินการ (EBITDA) และกำไรสุทธิ ผลประกอบการทางการเงินของ SPRC ในไตรมาสที่ 2/2567 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีเดียวกัน

สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 20-24 ก.ย. 64 และแนวโน้ม 27 ก.ย.-1 ต.ค. 64

ตารางราคาน้ำมันเฉลี่ยรายสัปดาห์ [เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล] น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป เบรนท์(ICE Brent) เวสท์เท็กซัสฯ(NYMEX WTI) ดูไบ (Dubai) เบนซินออกเทน 95 ดีเซล ราคา 75.96 72.06 73.41 85.07 84.04 เปลี่ยนแปลง +1.24 +0.44 +0.95 ...

สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 2-6 ส.ค. 64 และแนวโน้ม 9-13 ส.ค. 64

ตารางราคาน้ำมันเฉลี่ยรายสัปดาห์ [เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล] น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป เบรนท์(ICE Brent) เวสท์เท็กซัสฯ(NYMEX WTI) ดูไบ (Dubai) เบนซินออกเทน 95 ดีเซล ราคา 71.53 69.47 71.21 83.81 78.42 เปลี่ยนแปลง -3.51 -3.23 -1.78 -2.09 -1...

ในภาวะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงมีควา... เปิดโครงสร้างราคาน้ำมันไทย...อะไรคือปัจจัย ที่ทำให้ราคาน้ำมันของไทยแตกต่างกับประเทศเพื่อนบ้าน — ในภาวะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงมีความผันผวน อาจะทำให้...

ราคาน้ำมันถูกกดดันต่อเนื่อง จากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังคงไร้ข้อสรุป

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 38-43 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 39-44 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ...