ราชาเฟอร์รี่ไฟเขียวจ่ายปันผลหุ้นละ 0.0556 บาท พร้อมอนุมัติออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 800 ล้านบาท รองรับแผนขยายธุรกิจและเป็นทุนหมุนเวียนลงทุนอนาคต มั่นใจเปิดน่านฟ้าดันรายได้พลิกฟื้น หลังสัญญาณดี หยุดยาวนักท่องเที่ยวไทยยังเดินทาง-งานลงทุนโครงสร้างพื้นฐานบนเกาะหนุนกลุ่มโลจิสติกส์
นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP กล่าวภายในงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 วันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ณ โรงแรมเวโรนิก้าเรสซิเด้นท์ ว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.0556 บาท โดยจ่ายเป็นหุ้นสามัญในอัตรา 20 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นอัตรา 0.05 บาท และจ่ายปันผลเป็นเงินสด อัตรา 0.0056 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล (XD) 10 ส.ค.63 และกำหนดจ่ายวันที่ 28 ส.ค.63
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาและอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท โดยมีวงเงินไม่เกิน 800 ล้านบาท เพื่อรองรับการดำเนินงานและลงทุนขยายธุรกิจในอนาคต รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท แก่บุคคลทั่วไปและสถาบันการเงิน
นายอภิชาติ ยังได้ให้ความมั่นใจกับผู้ถือหุ้นว่า ผลประกอบการปีหน้าจะมาปกติและดีขึ้นแน่นอน เพราะเชื่อว่าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) จบลง สามารถเปิดน่านฟ้าได้ จะทำให้มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลท์) มาลงที่ จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้จำนวนและรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น และช่วยเติมเต็มรายได้ที่หายไปในช่วงนี้
“บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการพัฒนาและปรับกลยุทธ์ธุรกิจอยู่ตลอดเวลา เช่น ปรับระบบการบริการ (เทียบท่า) เพื่อให้การเข้าและออกของเรือเร็วขึ้น ลดการจราจรหน้าท่าลง และเชื่อมั่นว่า ผลประกอบการปีหน้าจะกลับมาดีขึ้น เพราะจากสัญญาณที่เห็นในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเกาะสมุยและพะงันจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่ายังมีความต้องการอยู่ ประกอบกับภายในเกาะยังมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐทั้ง การขุดลอกและการสร้างถนน ทำให้เกิดการจ้างานในพื้นที่” นายอภิชาติ กล่าว
ทั้งนี้ ภายใต้สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาอย่างเคร่งครัด ได้แก่ การตั้งจุดตรวจคัดกรอง ตั้งจุดล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์และอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ การกำหนดระยะห่างทางสังคม เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด การกำหนดให้มีการเช็คอิน-เช็คเอาท์บนแอพพลิเคชันไทยชนะ การกำหนดให้ผู้เข้าร่วมประชุมต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่บริเวณที่จัดประชุม และใช้เวลาประชุมไม่เกิน 2 ชั่วโมง ซึ่งนับได้ว่าบริษัทฯ มีความพร้อมในการปรับตัว และตอบสนองเทรนด์ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ได้เป็นอย่างดี
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit