อ.ส.ค. เตรียมจัดงานสุดยิ่งใหญ่“เทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2563” โชว์ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอุตสาหกรรมนมไทย

15 Jan 2020
อ.ส.ค. เตรียมจัดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2563 อย่างยิ่งใหญ่ ชูแนวคิด "รักนม รักฟาร์ม สืบสาน รักษา ต่อยอด โคนมอาชีพพระราชทาน" เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนม และสืบสานพระราชปณิธาน พัฒนาอุตสาหกรรมโคนมไทยยุคใหม่ เพื่อก้าวสู่แบรนด์นมแห่งชาติ"โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ม.ค.-9 ก.พ. 63 ณ บริเวณเชิงเขาตาแป้น อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
อ.ส.ค. เตรียมจัดงานสุดยิ่งใหญ่“เทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2563” โชว์ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอุตสาหกรรมนมไทย

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) ที่พระองค์ได้พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่ปวงชนชาวไทยและแสดงความก้าวหน้าของวิทยาการด้านการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมโคนมของประเทศ ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนยีการเกษตรสมัยใหม่ไปสู่เกษตรกร โดยกิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มกราคม-9 กุมภาพันธ์ 2563 โดยเป็นงานที่ทาง อ.ส.ค.ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี ณ บริเวณเชิงเขาตาแป้น อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี

โดยปีนี้จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "รักนม รักฟาร์ม สืบสาน รักษา ต่อยอด โคนมอาชีพพระราชทาน" ซึ่งมีกิจกรรมในงานที่สำคัญ อาทิ สัมมนาวิชาการ, นิทรรศการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตร, การสาธิตและการจัดแสดงผลงานวิจัยด้านการพัฒนาโคนมและอุตสาหกรรมโคนมโดยได้รับความร่วมมือจาก ภาครัฐ และภาคเอกชน, บูธออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และมีการเปิดให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลองชิมผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ครสชาติใหม่ๆ, การประกวดแข่งขันโคนมประเภทต่างๆ , การออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOPและสินค้าที่เกี่ยวกับการเกษตรต่างๆ, สัมผัสบรรยากาศฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค , การเปิดให้เยี่ยมชมโรงงานผลิตนมไทย-เดนมาร์ค ,ชมสาธิตการรีดนมโค และการทำปุ๋ยนมสดจากผู้เชี่ยวชาญของฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยคือ งาน Thai-Denmark Milksic Festival ครั้งที่ 3 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 พบปะกับศิลปินต่างๆมากมาย เป็นต้น

โดยในวันที่ 29 มกราคม 2563 ชาวโคนมยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานพร้อมทั้งจะเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการต่างๆ ภายในบริเวณงานอีกด้วย "โคนมอาชีพพระราชทาน เป็นอาชีพอันทรงคุณค่าที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานไว้ให้แก่เกษตรกรไทย ด้วยทรงเล็งเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมจะทำให้ชาวไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่าทั้งยังสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยได้มีอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนในด้านการรณรงค์การบริโภคนมของคนไทย ได้มุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมการบริโภคนมในสังคมไทยให้เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มเด็ก เยาวชน และคนรุ่นใหม่เพื่อเป็นการเสริมสร้างโภชนาการและสุขอนามัยที่ดี ซึ่งทางกระทรวงเกษตรฯ ก็ได้มีการมอบนโยบายแก่ อ.ส.ค. มาโดยตลอด ในเรื่องการตอกย้ำเพื่อสร้างการรับรู้ในการบริโภคมนม เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนไทยหันมาดื่มนมกันมากขึ้น โดยมีเป้าหมายการเพิ่มปริมาณจาก 18 ลิตร/คน/ปี เป็น 25 ลิตร/คน/ปี ภายในปี 2569 ซึ่งนอกจากการบริโภคนมคุณภาพดีที่ได้มาจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของไทย นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนคไทยมีสุขภาพที่ดีแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรฯ ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทย และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางภาคการเกษตร ตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมนมไทยให้พัฒนายิ่งขึ้นไปอีกด้วย " นางสาวมนัญญา กล่าว

ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า วันที่ 17 มกราคมของทุกปีเป็นวันโคนมแห่งชาติซึ่งเป็นวันสำคัญยิ่งต่ออาชีพและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศไทย โดย อ.ส.ค.ได้ให้ความสำคัญในการรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคนมในประเทศอย่างต่อเนื่องซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการให้คนไทย ทุกเพศ ทุกวัยรักการดื่มนมมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์นมที่ผลิตจากนมโคสดแท้ 100% ที่ได้จากเกษตรกร เนื่องจากเห็นว่านอกจากจะส่งเสริมสุขภาพที่ดีกับให้คนไทยแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้มั่นคงในการประกอบอาชีพโคนมอีกด้วย

โดยอ.ส.ค. มุ่งสร้างแหล่งความรู้ด้านกิจการโคนมและอุตสาหกรรมนมอย่างครบวงจรให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศไทยถือเป็นพันธกิจหลักของ อ.ส.ค. ที่ผ่านมา อ.ส.ค. ได้จัดทำแผนแม่บทส่งเสริมการเลี้ยงโคนม 4.0 ซึ่งปัจจุบัน อ.ส.ค อยู่ระหว่างดำเนินการภายใต้แผนวิสาหกิจ 5 ปี (2560-2564) โดยมุ่งส่งเสริมความรู้เกษตรกรเพื่อพัฒนาคุณภาพน้ำนมดิบ พร้อมกับสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำนมดิบและหาช่องทางขายใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งมีการพัฒนายกระดับประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมดิบให้ได้มาตรฐาน พร้อมวิจัย พัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้การเลี้ยงโคนมให้กับเกษตรกร ตลอดจนส่งเสริมเกษตรกรสมาชิกให้มีความมั่นคงและเติบโตในอาชีพการเลี้ยงโคนม

นอกจากนี้ อ.ส.ค. ยังได้จัดตั้งโครงการศูนย์การเรียนรู้และถ่ายทอดการศึกษาการเลี้ยงโคนมในโรงเรียนแห่งแรกของประเทศไทยที่จังหวัดสกลนคร พร้อมเปิดหลักสูตร"ห้องเรียนศาสตร์พระราชา"โดยมีวิชาหลักคือวิชาการผลิตโคนม เพื่อการส่งเสริม สนับสนุนให้มีการสานต่ออาชีพการเลี้ยงโคนมจากรุ่นสู่รุ่นโดยการสร้างเยาวชนให้มีความสนใจและภาคภูมิใจในอาชีพการเลี้ยงโคนมซึ่งเป็นอาชีพพระราชทาน ควบคู่กับการส่งเสริมและพัฒนาการเลี้ยง การผลิต การแปรรูปภายใต้เทคโนโยลีและนวัตกรรมใหม่ๆที่ทันสมัยแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้เทียบเท่ากับมาตรฐานสากล ทั้งนี้เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมโคนมไทยให้เป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติและสืบสานแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรให้มีความมั่นคง ยั่งยืนสืบไป

HTML::image( HTML::image( HTML::image(