NEOM เมืองใหม่แห่งอนาคตของซาอุฯ ผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลอย่างยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีโซลาร์โดม

          วิธี "อัจฉริยะ" ในการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ จะช่วยลดต้นทุนการผลิตและลดการปล่อยน้ำเกลือลงทะเลได้มหาศาล

          เทคโนโลยีใหม่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100% และจะกำหนดอนาคตของการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลในเมืองใหม่ NEOM รวมถึงในซาอุดีอาระเบียและทั่วโลก

          โครงการนำร่องนี้ตอกย้ำบทบาทของ NEOM ในฐานะผู้เร่งสร้างความก้าวหน้าให้กับมนุษยชาติและผู้นำการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยแนวทางใหม่

          NEOM เมืองใหม่แห่งอนาคตของซาอุดีอาระเบีย ประกาศเมื่อวันพุธว่าจะผลิตน้ำโดยใช้เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีต้นทุนต่ำและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นการตอกย้ำชื่อเสียงของ NEOM ในฐานะศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและการอนุรักษ์แห่งใหม่

          NEOM ได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัท Solar Water Plc. จากสหราชอาณาจักร เพื่อสร้างโรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลเทคโนโลยี "โซลาร์โดม" แห่งแรกในเมือง NEOM ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย โครงการนำร่องนี้จะปฏิวัติการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนที่สุดของโลกปัญหาหนึ่ง นั่นคือ การเข้าถึงแหล่งน้ำจืด

          การสร้าง "โซลาร์โดม" แห่งแรกจะเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2020

          ต้นทุนการผลิตน้ำโดยใช้เทคโนโลยี "โซลาร์โดม" คาดว่าจะอยู่ที่ราว 0.34 ดอลลาร์/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนการผลิตน้ำด้วยวิธีรีเวอร์สออสโมซิส นอกจากนั้นยังช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากน้ำเกลือความเข้มข้นสูง อันเป็นผลิตผลพลอยได้ที่เป็นอันตรายซึ่งเกิดจากกระบวนการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล 

          H.E. Abdulrahman Al-Fadli รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรน้ำ และการเกษตรของซาอุดีอาระเบีย กล่าวถึงโครงการดังกล่าวว่า "โครงการนำร่องของ NEOM ถือเป็นการสนับสนุนเป้าหมายที่ยั่งยืนของซาอุดีอาระเบีย ตามที่ระบุในยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศปี 2030 และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ"

          Nadhmi Al-Nasr ซีอีโอของ NEOM กล่าวเสริมว่า "NEOM เข้าถึงแหล่งน้ำทะเลและแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้อย่างเต็มที่ จึงพร้อมผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีต้นทุนต่ำและมีความยั่งยืน เทคโนโลยีนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งนี้ การทำงานร่วมกับกระทรวงสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรน้ำ และการเกษตร จะช่วยให้เราสามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในวงกว้างนอกเหนือจากในเมือง NEOM"

          บริษัท Solar Water ได้พัฒนาแนวทางใหม่ที่มหาวิทยาลัยแครนฟิลด์ในสหราชอาณาจักร โดยเป็นการนำเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าด้วยระบบรวมแสงอาทิตย์ (Concentrating Solar Power: CSP) มาใช้ในการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลในระดับมหภาคเป็นครั้งแรก โดยน้ำทะเลจะถูกสูบเข้าสู่ "โซลาร์โดม" ที่ทำจากกระจกและเหล็ก ก่อนที่จะได้รับความร้อนยวดยิ่งจนเกิดการระเหยกลายเป็นน้ำจืดในที่สุด

          "โซลาร์โดม" สามารถผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลได้ในเวลากลางคืน เพราะมีการกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ตลอดช่วงกลางวัน นอกจากนั้นยังช่วยลดปริมาณน้ำเกลือที่เกิดจากกระบวนการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล ซึ่งโดยทั่วไปแล้วน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นสูงทำให้กระบวนการผลิตมีความยากลำบากและใช้ต้นทุนสูง ขณะเดียวกัน โซลาร์โดมยังช่วยปกป้องสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลเพราะไม่มีการปล่อยน้ำเกลือลงทะเล

          ปัจจุบัน ประชากรโลกกว่า 1 พันล้านคนไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้ โครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ของ NEOM จะเป็นกรณีศึกษาสำหรับประเทศอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำและต้องพยายามหาแหล่งน้ำจืดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน

          Gavin van Tonder หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรน้ำของ NEOM กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้นำเทคโนโลยีน้ำสุดล้ำและแนวคิดใหม่มาสู่ NEOM การใช้โซลาร์โดมผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลจะช่วยให้เราสามารถผลิตน้ำประปาที่มีประสิทธิภาพสูง มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถรองรับอนาคต"

          David Reavley ซีอีโอของ Solar Water Plc กล่าวว่า "ปัจจุบัน โรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลหลายพันแห่งทั่วโลกต้องใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิต และน้ำเกลือที่เกิดจากการผลิตได้สร้างมลพิษในมหาสมุทร ต่างจากเทคโนโลยีพลิกเกมของเราที่มีความยั่งยืนและเป็นกลางทางคาร์บอน 100% ทั้งนี้ เราพบว่า NEOM เป็นพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลเกี่ยวกับอนาคตใหม่ที่กลมกลืนกับธรรมชาติ"

          NEOM เป็นโครงการสำคัญภายใต้ยุทธศาสตร์การกระจายธุรกิจหลังยุคน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งสร้างขึ้นบนพื้นที่ 26,500 ตารางกิโลเมตรทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยนำเสนอโอกาสการลงทุนทางเศรษฐกิจและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

          เกี่ยวกับ NEOM

          NEOM คือผู้เร่งสร้างความก้าวหน้าให้กับมนุษยชาติและกำหนดอนาคตใหม่ เมืองใหม่แห่งนี้ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบียบริเวณทะเลแดง โดยสร้างขึ้นใหม่หมดในลักษณะ "ห้องทดลองมีชีวิต" และมีความเป็นผู้ประกอบการเป็นตัวกำหนดอนาคตใหม่ เมืองนี้จะเป็นจุดหมายปลายทางและบ้านของคนที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่และต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างแม่แบบของความเป็นอยู่ที่ดี การทำธุรกิจที่เจริญรุ่งเรือง และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

          NEOM จะเป็นบ้านและสถานที่ทำงานของผู้อยู่อาศัยนับล้านคนจากทั่วโลก โดยจะมีทั้งชุมชน เขตเมือง ท่าเรือ ย่านธุรกิจ ศูนย์วิจัย สนามกีฬา สถานบันเทิง และแหล่งท่องเที่ยว

          ในฐานะศูนย์กลางด้านนวัตกรรม บรรดาผู้ประกอบการ ผู้นำทางธุรกิจ และบริษัทต่าง ๆ จะเดินทางมายัง NEOM เพื่อทำการวิจัย บ่มเพาะ และทำการตลาดเทคโนโลยีต่าง ๆ ด้วยวิธีการใหม่ ๆ โดยผู้อยู่อาศัยใน NEOM จะมีความเป็นสากลและอ้าแขนรับวัฒนธรรมการแสวงหาสิ่งใหม่ ความกล้าได้กล้าเสีย และความหลากหลาย โดยได้รับการสนับสนุนจากกฎหมายที่มีความก้าวหน้า ซึ่งสอดคล้องกับบรรทัดฐานสากลและเอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

          www.neom.com

          เกี่ยวกับ Solar Water Plc

          Solar Water Plc คือผู้บุกเบิกเทคโนโลยีใหม่ในการผลิตน้ำจืดอย่างยั่งยืนและเป็นกลางทางคาร์บอนโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เทคโนโลยีของบริษัทจะช่วยรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากสามารถใช้แทนเทคโนโลยีเดิม ๆ ที่ปล่อยคาร์บอนและไร้ประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยยกระดับการกักเก็บคาร์บอนด้วย เมื่อเดือนมกราคม 2018 บริษัทได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Rushlight Water Treatment Award จาก Royal Geographical Society ในกรุงลอนดอน จากการพัฒนาโครงการผลิตน้ำจืดที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนเป็นครั้งแรกของโลก

          www.solarwaterplc.com

          รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1083625/NEOM_Solar_Dome.jpg

ข่าวความเป็นกลางทางคาร์บอน+อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมวันนี้

บริดจสโตนเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนกับโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่โรงงานในประเทศไทย

บริดจสโตนยกระดับการใช้พลังงานสะอาด พร้อมเดินหน้าส่งเสริมสังคมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยการใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญที่สุด ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาขนาด 9.95 เมกะวัตต์ ของโรงงานหนองแคจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 97,500 ตัน ซึ่งตอกย้ำวิสัยทัศน์ระยะยาวด้านสิ่งแวดล้อมของบริดจสโตน ด้วยการสนับสนุนและขับเคลื่อนให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับ Bridgestone E8 Commitment

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและน... วว. จัดอบรมฟรี ! เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC — กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจ...

เสริมความพร้อมของภาคธุรกิจด้วยเครื่องมือป... บางจากฯ ร่วมผลักดันการตระหนักรู้ด้านวิกฤตสภาพภูมิอากาศในห่วงโซ่อุปทาน — เสริมความพร้อมของภาคธุรกิจด้วยเครื่องมือประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์และกลไกตลาดคาร์บอน...

กรีน เยลโล่ (GreenYellow) แนวร่วมด้านความ... กรีน เยลโล่ ธุรกิจพลังงานสีเขียว เผยแนวคิดสู่ความยั่งยืน — กรีน เยลโล่ (GreenYellow) แนวร่วมด้านความยั่งยืนผู้นำด้านการสร้างผลกระทบเชิงบวก หรือ Impact Mak...

กรีน เยลโล่ (GreenYellow) แนวร่วมด้านความ... กรีน เยลโล่ ธุรกิจพลังงานสีเขียว เผยแนวคิดสู่ความยั่งยืน — กรีน เยลโล่ (GreenYellow) แนวร่วมด้านความยั่งยืนผู้นำด้านการสร้างผลกระทบเชิงบวก หรือ Impact Mak...