รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันการเข้าสู่โลกของอาชีพไม่ใช่จำกัดแค่เรียนในห้องเรียนอย่างเดียว การจัดการศึกษายังมีความยืดหยุ่นในการเข้าถึงการศึกษามากขึ้น เช่น การเรียนอาชีวศึกษา การเรียนวิชาชีพระยะสั้น การเรียนการสอนวิชาชีพผ่านระบบทางไกล เป็นต้น อีกทั้ง การเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบัน ย้ำให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจกับการเป็นผู้ประกอบการมากขึ้น การสร้างผลงาน หรือนวัตกรรมมีมากขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยีและสารสนเทศเข้ามามีความสำคัญต่อชีวิต มากขึ้น กิจกรรมในวันนี้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการจัดการอาชีวศึกษาของประเทศไทยในการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการดำเนินงานที่ตอบโจทย์ของประเทศอย่างแท้จริง ด้วยความหวังเป็นอย่างยิ่งว่านวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และผลงานนักเรียน นักศึกษา จะก้าวไปสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น
การจัดงานสัปดาห์ของขวัญ ผลิตภัณฑ์อาชีวะ "อาชีวะทั่วไทย ร่วมใจส่งความสุข" นี้จัดเป็นธีมรถไฟ ส่งความสุข เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่ส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา ได้มีเวทีในการฝึกฝนทักษะ แสดงความสามารถในสาขาที่เรียนมานำสู่การปฏิบัติ ถ่ายทอดผ่านชิ้นงาน ผลิตภัณฑ์ หรือการแสดงที่สร้างสรรค์ผ่านกระบวนการความคิดของผู้เรียน รวมไปถึงการถ่ายทอดความรู้ของนักเรียน นักศึกษา ผ่านการฝึกอาชีพระยะสั้นให้กับประชาชน ผู้มาร่วมงาน นำไปสู่การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ทั้งยังเปิดโอกาสให้สถานศึกษาและผู้เรียน ได้ร่วมกันเผยแพร่ผลงานให้เป็นที่รู้จัก และหวังว่าจะได้เห็นกิจกรรมดีๆ ในรูปแบบต่างๆ ต่อไปอีกในอนาคต
พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรม "อาชีวะอาสา เทศกาลปีใหม่2563" ภายใต้คำขวัญ "ขับรถ มีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร"ซึ่งเป็นโครงการ ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวในตอนหนึ่งว่ากระทรวงศึกษาธิการมิได้มีภารกิจในการที่จะผลิตกำลังคน ที่มีความรู้ความสามารถเท่านั้น แต่ยังผลิตกำลังคนให้มีคุณธรรม จริยธรรมควบคู่กันไปกับด้านวิชาการ ซึ่งถือว่าเป็นการส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษาเป็นผู้ให้ ผู้เสียสละ บริการและช่วยเหลือสังคมในเรื่องที่ ตรงกับสาขาวิชาชีพของตนเอง รวมถึงได้แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมต่อสังคมในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตามนโยบายของรัฐบาล ดังจะเห็นได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรียน นักศึกษา ที่ดำเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดตั้งศูนย์อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน ซึ่งให้บริการจุดพักรถ จุดพักคน ระหว่างการเดินทางของประชาชน และการตรวจเข้มรถโดยสารสาธารณะที่จะให้บริการแก่ประชาชน ทั้งนี้หากผู้ขับขี่ หรือผู้โดยสารเมื่อยล้า ขับรถไม่ไหว สามารถแวะพักได้ที่ศูนย์อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน ซึ่งจะมีครู นักเรียน นักศึกษา คอยให้บริการฟรีตลอดเส้นทาง
ด้านนายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า การดำเนินโครงการอาชีวะอาสา เริ่มให้บริการครั้งแรกในปี พ.ศ.2546 กระทั่ง ปี พ.ศ. 2551 สอศ.และกรมการขนส่งทางบก ได้ร่วมกันดำเนินงานโดยใช้ชื่อ โครงการอาชีวศึกษาร่วมด้วยช่วยประชาชน "ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน" ต่อมาปี พ.ศ. 2558 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น"โครงการอาชีวะอาสา" จนถึงปัจจุบัน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 นี้ สอศ.ได้มีความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก ดำเนินโครงการ "อาชีวะอาสา" โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) กรมการขนส่งทางบก และงบประมาณจาก สอศ. บูรณาการตั้งศูนย์อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชนเพื่อบริการพักรถ ให้บริการตรวจซ่อมรถ พักคน ให้บริการน้ำดื่ม ที่พัก ฯลฯ สำหรับประชาชน ผู้เดินทางท่องเที่ยว หรือกลับภูมิลำเนา ที่ต้องใช้รถในการเดินทางตามเส้นทางถนนสายหลักและถนนสายรองทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 259 จุดบริการ โดยมีทีมครู นักเรียน นักศึกษา สาขาช่างยนต์ ช่างกล สาขาบริหารธุรกิจ การโรงแรมและการท่องเที่ยว คอยให้บริการ ณ จุดบริการ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2562 – 2 มกราคม 2563 รวม 7 วัน โดยมีคำขวัญเรื่องความปลอดภัย คือ "ขับรถ มีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร"
ทั้งนี้ ในช่วงก่อนเทศกาลและช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 สอศ.ยังดำเนินกิจกรรมความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก คือ กิจกรรมโครงการปฏิบัติการตรวจเข้มรถโดยสาร ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร ในพื้นที่ 48 จังหวัด ระหว่างวันที่วันที่ 27ธันวาคม 2562 – 5 มกราคม 2563 จำนวน 10 วัน โดยมีทีมครู นักเรียน นักศึกษา ช่วยผู้ตรวจการขนส่งจังหวัดดูแลผู้โดยสารให้เดินทางอย่างปลอดภัย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit