ปลัดวธ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับการเดินทางไปร่วมงานครั้งนี้นอกจากจะผลักดันให้สื่อบันเทิงไทยให้ได้รับความนิยมสินค้าทางวัฒนธรรมไทยออกไปสู่ตลาดโลก ต่อยอดความสำเร็จและส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมของประเทศไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) แล้ว ยังเป็นการผลักดันให้มีการเจรจาความร่วมมือเพื่อการร่วมลงทุนผลิตภาพยนตร์และวีดิทัศน์ระดับทวิภาคีกับรัฐบาลจีนอย่างต่อเนื่องในโอกาสครบรอบ ๔๕ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่สำคัญเป็นการเตรียมความพร้อมการจัดเทศกาลภาพยนตร์เอเชีย ประจำปี ๒๕๖๓ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร ในเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อนำเสนอผลงานภาพยนตร์ชั้นนำของเอเชียสู่เวทีโลก ส่งเสริมความร่วมมือของผู้ผลิตภาพยนตร์ในเอเชีย เป็นเวทีในการพัฒนาคุณภาพของภาพยนตร์และศักยภาพของบุคลากรในวงการภาพยนตร์เอเชีย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทย-จีน มีความร่วมมือ การเจรจาแลกเปลี่ยนกันอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เห็นชอบแผนปฏิบัติการส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมบูรณาการดำเนินกิจกรรม/โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว ทั้งสิ้นจำนวน ๑๓ กิจกรรม โดยมีการเจรจาธุรกิจ ๑,๖๖๓ ครั้ง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า ๙,๒๐๐ ล้านบาท