นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรช่วงไตรมาส กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร563 (มกราคม - มีนาคม ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร563) หดตัวร้อยละ 4.8 เมื่อเทียบกับไตรมาส กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของปี ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร56ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร โดยสาขาพืช สาขาประมง สาขาบริการทางการเกษตร หดตัวลง ขณะที่สาขาปศุสัตว์และสาขาป่าไม้ยังคงขยายตัว สาเหตุหลักมาจากสถานการณ์ภัยแล้งที่รุนแรง ผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-กระทรวงเกษตรและสหกรณ์9 โดยเมื่อพิจารณาแต่ละสาขา พบว่า สาขาพืช หดตัวร้อยละ 7.3 เป็นผลจากผลผลิตข้าวนาปรัง อ้อยโรงงาน และมันสำปะหลัง ลดลง เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งที่รุนแรง ทำให้ผลผลิตเสียหาย และมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอสำหรับการเพาะปลูกและการเติบโตของพืช ส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่ลดลง โดยผลผลิตพืชที่สำคัญของไตรมาส กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ ข้าวนาปรัง มีเนื้อที่เพาะปลูกลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 4กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร ผลผลิตลดลงร้อยละ 4กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.6 อ้อยโรงงาน ผลผลิตลดลงร้อยละ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร.7 และมันสำปะหลัง มีผลผลิตลดลงร้อย 5.4 นอกจากนี้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สับปะรดโรงงาน ปาล์มน้ำมัน และลำไย มีผลผลิตลดลงเช่นกัน เนื่องจากภาวะภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วง ส่งผลให้ต้นพืชไม่สมบูรณ์ ผลผลิตน้อย และคุณภาพลดลง
สาขาปศุสัตว์ ขยายตัวร้อยละ 3.8 เป็นผลจากปริมาณความต้องการบริโภคทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกษตรกรขยายการผลิต ประกอบกับประเทศไทยมีการเฝ้าระวัง ควบคุมโรคระบาดอย่างเข้มงวด ตลาดต่างประเทศ มีความเชื่อมั่น โดยเฉพาะผลผลิตไก่เนื้อที่ตลาดส่งออกหลัก เช่น ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และจีน มีความต้องการนำเข้าเพิ่มขึ้น ผลผลิตสุกร มีความต้องการบริโภคในประเทศและการส่งออกเพิ่มขึ้น โดยราคาสุกรที่ปรับตัวสูงขึ้น จูงใจให้เกษตรกรขยายการผลิต ผลผลิตไข่ไก่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเกษตรกรมีการจัดการฟาร์มที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลดีต่อการออกไข่ของแม่ไก่ และน้ำนมดิบเพิ่มขึ้น เนื่องจากการบริหารจัดการฟาร์มที่ดี และมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
สาขาประมง หดตัวร้อยละ 2.2 ประมงทะเล ปริมาณสัตว์น้ำที่นำขึ้นท่าเทียบเรือในภาคใต้ลดลง เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน ส่วนปริมาณกุ้งทะเล (เพาะเลี้ยง) ลดลง เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้ง และการเฝ้าระวังโรคระบาด ทำให้เกษตรกรปรับลดพื้นที่เลี้ยง ลดจำนวนลูกพันธุ์ และชะลอการลงลูกกุ้ง ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ส่วนประมงน้ำจืดมีผลผลิตลดลง โดยเฉพาะปลานิลและปลาดุก เนื่องจากภาวะภัยแล้งที่เกิดขึ้นในแหล่งผลิตสำคัญ ประกอบกับปริมาณน้ำในเขื่อนและแหล่งน้ำตามธรรมชาติไม่เพียงพอต่อการเลี้ยง ทำให้ผู้เลี้ยงปลาน้ำจืดทั้งในบ่อดินและในกระชังตามแหล่งน้ำธรรมชาติลดเนื้อที่เลี้ยงปลาลง มีการปล่อยลูกปลาในอัตราน้อยกว่าปกติ หรือชะลอการเลี้ยงออกไป ส่งผลให้ผลผลิตประมงน้ำจืดลดลง
สาขาบริการทางการเกษตร หดตัวร้อยละ 1.3 เนื่องจากไตรมาส 1 เป็นช่วงการจ้างบริการเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ทางการเกษตรในการเก็บเกี่ยวข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และอ้อยโรงงาน โดยมีพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลังลดลง ถึงแม้อ้อยโรงงานจะมีการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรใช้เครื่องจักรกลในการเก็บเกี่ยวอ้อยเพิ่มขึ้น เพื่อลดปัญหา PM 2.5 แต่ในภาพรวมสาขาบริการทางการเกษตรก็ยังคงหดตัว
สาขาป่าไม้ ขยายตัวร้อยละ 1.0 ไม้ยูคาลิปตัส เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประเทศจีน ในการนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษและแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (Wood Pellet) ไม้ยางพารา ขยายตัวตามพื้นที่การตัดโค่นสวนยางพาราเก่า ประกอบกับตลาดต่างประเทศ เช่น จีน และญี่ปุ่น มีความต้องการไม้ยางพาราเพื่อนำไปผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์และเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (Wood Pellet) ถ่านไม้ มีความต้องการจากประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในการประกอบอาหาร
สำหรับภาวะเศรษฐกิจการเกษตรปี 2563 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.3 (อยู่ในช่วงร้อยละ (–0.2) – 0.8) โดยสาขาปศุสัตว์ สาขาประมง สาขาบริการทางการเกษตร และสาขาป่าไม้ ยังขยายตัวได้ มีการบริหารจัดการทั้งในด้านการผลิตและการตลาดที่ดี สำหรับสาขาพืชมีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าจะสามารถทำการเพาะปลูกได้ตามฤถูกาลปกติ อย่างไรก็ตาม จากการหดตัวลงมากในช่วงไตรมาส 1 ทำให้สาขาพืชในภาพรวมยังมีแนวโน้มหดตัว เนื่องจากผลผลิตพืชสำคัญในปี 2563 มีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะข้าว อ้อยโรงงาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และสับปะรดโรงงาน ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ภาคเกษตรขยายตัว คือ ความต้องการสินค้าเกษตรมีโอกาสเพิ่มมากขึ้น หลังจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่คาดว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะทำให้มีความต้องการสินค้าอาหารเพิ่มมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากเริ่มมีคำสั่งซื้อข้าวไทยและสินค้าที่เป็นอาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหารพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) เนื่องจากสะดวกในการบริโภคและสามารถเก็บรักษาได้นาน นอกจากนี้ ในส่วนของมันสำปะหลังก็มีความต้องการมันเส้นเพิ่มมากขึ้นเพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบผลิตแอลกอฮอล์ 75% และใช้ผสมทำเจลล้างมือเพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้แนวโน้มการส่งออกสินค้าเกษตรกลุ่มดังกล่าวมีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงถุงมือทางการแพทย์ ถุงมือยาง อาหารสุขภาพหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร เป็นต้น ขณะที่ยังมีปัจจัยลบจากสถานการณ์ COVID-19 เช่นกัน โดยอาจทำให้ภาวะการค้า การเดินทาง และการขนส่งกระจายสินค้า ได้รับผลกระทบในช่วงแรก และการที่ราคาน้ำมันลดลง จะส่งผลให้ราคายางพาราและราคาพืชพลังงานทดแทนไม่สามารถปรับสูงขึ้นได้มาก รวมทั้งอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่ผันผวน อาจทำให้ความสามารถในการแข่งขันทางการค้าลดลง และส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตรในประเทศ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ได้มีมาตรการรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์ COVID-19 อาทิ การส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคผลไม้ภายในประเทศให้เพิ่มขึ้นภายใต้แนวคิด Eat Thai First การหาตลาดใหม่เพิ่มเติมจากเดิม และส่งเสริมการแปรรูปและการกระจายสินค้าเกษตรอย่างรวดเร็วผ่านระบบออนไลน์ นอกจากนี้ ได้เตรียมการรองรับแรงงานที่จะไหลกลับไปสู่ภาคเกษตร (Labor Migration) ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์พระราชา โดยมีโครงการสำคัญที่แรงงานไหลกลับเข้าสู่ภาคเกษตร สามารถเข้าไปเรียนรู้และปฏิบัติตาม ได้แก่
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ นายหานจื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (H.E. Mr. Han Zhiqiang) โดยมี ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมกรมวิชาการเกษตร นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ผู้
กระทรวงเกษตรฯ บูรณาการทุกภาคส่วน มุ่งสร้างความมั่นคงและยั่งยืนทางรายได้ให้เกษตรกรด้วยโรงไฟฟ้าชีวมวล
—
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกร...
ครม. อนุมัติ ขยายระยะเวลาการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร ถึงกันยายน 2563 รัฐมนตรีเกษตรฯ กำชับทุกหน่วย เร่งติดตามเกษตรกรให้มาแจ้งเลขบัญชีรับโอนเงินเยียวยา
—
ดร.เฉลิมชัย...
มติ ครม. ไฟเขียว ขยายเวลา 3 เดือน ประกันรายได้ชาวสวนปาล์ม พร้อมเยียวยาชาวสวนลำไย 2 แสนครัวเรือน
—
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ...
กระทรวงเกษตรฯ ลงนาม MOU ธนาคารแห่งประเทศไทย ยกระดับความร่วมมือวิถีใหม่ ดึง Big Data และ AI ตอบโจทย์เศรษฐกิจการเกษตรยุคดิจิทัล
—
กระทรวงเกษตรฯ โดยสำนักงา...
สศก. เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สืบสาน รักษา ต่อยอดเศรษฐกิจพอเพียง เปิดโครงการแรงงานคืนถิ่นฯ
—
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐ...
ม.หอการค้าไทย ลงนามบันทึกข้อตกร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
—
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ทางวิชาการระหว่างสำนักงานเศร...
สศก. ผนึก ม.หอการค้าไทย MOU พัฒนาขีดความสามารถวิชาการ และฐานข้อมูล Big Data เปิดมุมมองโอกาสในวิกฤตที่ท้าทาย สู่การพัฒนาเศรษฐกิจการเกษตรไทย
—
สศก. จับมือ ม...
เกษตรฯ เร่งสกัดโรคใบด่างมันฯ เตรียมชง ครม. เห็นชอบกรอบชดเชยและมาตรการฟื้นฟู ภายในกลางเดือน ส.ค.
—
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ ลุยแก้ปัญหาโรคใบด่างม...
รมว.เกษตรฯ สั่งการใช้กล้วยไม้ในประเทศ ชวนทุกฝ่ายรณรงค์ อุดหนุนกล้วยไม้ไทย มอบเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ
—
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ สั่งการ เร่งขยายการใ...