ถ้าพูดถึงไขมัน หลายๆ คนคงจะนึกขยาดกับศัตรูตัวร้ายของหุ่นสวย แถมถ้าเกิดมีไขมันสะสมตรงส่วนใดของร่างกายแล้ว พอจะกำจัดออกไปมันช่างยากแสนยากชนิดที่ว่าแค่ควบคุมอาหารกับออกกำลังกายอาจไม่เร็วทันใจคนที่มีเวลาให้กับตัวเองน้อยเช่นคุณ บางคนเลยหันไปพึ่งการศัลยกรรมอย่างการดูดไขมัน ซึ่งก็ได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างว่าสามารถกำจัดไขมันออกไปจากร่างกายได้ผลดี ทว่าผลข้างเคียงก็มีเช่นกัน เช่น เจ็บ ต้องพักฟื้นนาน บริเวณที่ทำการดูดไขมันจะเกิดรอยแผลและรอยช้ำไม่น่ามอง ที่ต้องใช้เวลาสักระยะจึงจะหายสนิท ซึ่งปัจจุบันก็มีนวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย ที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันโดยไม่ทำให้เกิดบาดแผล และสองตัวเลือกที่กำลังเป็นที่นิยม ทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การกาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S.FDA) ว่าสามารถกำจัดไขมันได้ผลจริง นั่นก็คือ การ “กำจัดไขมันด้วยความร้อน” และ “การกำจัดไขมันด้วยความเย็น” แต่ทั้งสองแบบจะมีวิธีการอย่างไร และผลลัพธ์ของแบบไหนจะดีกว่ากัน ต้องมาติดตามกันต่อเลยค่ะ
การกำจัดไขมันด้วยความร้อน (Thermolipolysis)
การกำจัดไขมันด้วยความร้อน หรือเครื่อง “SculpSure” เป็นการใช้แสงเลเซอร์ส่งพลังงานความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 42–47 ?C นอกจากจะโดดเด่นด้วยความสามารถในการกำจัดไขมันแบบเฉพาะเจาะจงในส่วนต่างๆ ที่มีไขมันสะสมแล้ว ยังผ่านการรับรองประสิทธิภาพจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาว่า เป็นการ “ฆ่า” ไขมันได้ลึกถึงระดับเซลล์ และเป็นลำแสงแรกที่สามารถกำจัดเซลล์ไขมันได้ถึงครั้งละ 24% วิธีการทำงานจะเป็นการปล่อยพลังงานความร้อนผ่านหัว Applicator ซึ่งมีความปลอดภัยสูงและจะทำงานเมื่อทุกส่วนสัมผัสแนบไปกับผิวเท่านั้น โดยความร้อนจะเข้าไปทำปฏิกริยากับเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันค่อยๆ ตายและจะถูกขับออกมาตามกระบวนการขับของเสียตามปกติของร่างกาย ในระหว่างที่ทำการกำจัดไขมันด้วยเครื่อง SculpSure จะมีการปล่อยความร้อนสลับเย็นเพื่อเป็นการผ่อนคลาย ซึ่งจะอาจมีรู้สึกเจ็บเล็กน้อยร่วมกับรู้สึกอุ่นๆ ในบริเวณที่ทำการรักษา
หลังการกำจัดไขมัน บริเวณที่ทำการรักษาจะมีเพียงรอยแดงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจะหายไปภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทำให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้นหรืองดกิจกรรมออกกำลังกาย ในส่วนของผลการรักษา จะสามารถสังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลงภายใน 6 สัปดาห์ และเห็นผลเต็มที่ใน 12 สัปดาห์ จึงทำให้สามารถกล่าวได้ว่า การกำจัดไขมันด้วยความร้อน หรือเครื่อง SculpSure เป็นวิธีการกำจัดไขมันที่เห็นผลได้จริง เพราะจะไม่เพียงเข้าไปลดขนาดเซลล์ไขมัน แต่เป็นการทำลายและขับออกไปนอกร่างกาย ทำให้เซลล์ไขมันที่ถูกกำจัดออกไปโดยไม่ต้องผ่าตัด นอกจากนั้นยังไม่มีผลข้างเคียงใดๆ อีกด้วย
การกำจัดไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis)
การกำจัดไขมันด้วยความเย็นที่ว่านั้น ไม่ใช่ความเย็นแค่ระดับห้องแอร์หรือตู้เย็นธรรมดา แต่เป็นความเย็นระดับจุดเยือกแข็ง ที่อุณหภูมิ -11 ถึง – 13 ?C หรือจะกล่าวให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการฆ่าไขมันด้วยการแช่แข็งนั่นเอง โดยได้รับการรับรองว่าสามารถกำจัดไขมันได้ครั้งละประมาณ 20% หลักการทำงานก็จะเป็นการส่งความเย็นผ่านหัวดูดสูญญากาศ (Vacuum) โดยจะมีการวางแผ่นเจลเพื่อปกป้องผิวลงไปก่อนเริ่มการกำจัดไขมันด้วยความเย็น โดยตัวหัวดูดสูญญากาศ จะทำการดูดบริเวณผิวหนังที่มีไขมันสะสม ก่อนจะปล่อยพลังงานลงลึกไปในชั้นไขมัน เพื่อทำลายเซลล์ไขมันด้วยความเย็นระดับจุดเยือกแข็ง ซึ่งในช่วง 5-7 นาทีแรกจะรู้สึกเย็นร่วมกับความเจ็บเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอาการชา ทำให้สามารถนอนผ่อนคลายได้ตลอดระยะเวลาที่ทำการรักษา และเมื่อครบระยะเวลาก็จะมีการนวดวนบริเวณที่ทำการกำจัดไขมัน เพื่อให้ความนูนแดงบริเวณผิวลดลง
หลังการกำจัดไขมันด้วยความเย็นจะส่งผลให้บริเวณที่ทำการรักษาเจ็บระบมบ้างเล็กน้อย แต่ยังคงสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้นและออกกำลังกายได้เช่นเดียวกับการกำจัดไขมันด้วยความร้อน แต่ด้วยการรักษาที่ใช้ตัวหัวดูดสูญญากาศ (Vacuum) อาจส่งผลให้เกิดรอยช้ำในบริเวณที่ทำการกำจัดไขมันอยู่บ้าง รวมถึงมีอาการชา และปวดระบมร่วมด้วย แต่อาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายภายใน 2-3 สัปดาห์ ในส่วนของผลการรักษาการกำจัดไขมันด้วยความเย็นก็ได้รับการรับรองว่าเห็นผลจริงเช่นกัน หลังทำการรักษาสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 6 และจะเห็นผลเต็มที่ในช่วงสัปดาห์ที่16 ซึ่งผลลัพธ์ก็มีความคล้ายกับการกำจัดไขมันด้วยความร้อน เพราะเป็นการกำจัดไขมันโดยการทำลายเซลล์ไขมันให้ตาย และขับออกไปตามกระบวนการกำจัดของเสีย โดยไม่ต้องเจ็บตัวจากการดูดไขมันและไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้นเช่นกัน เพราะปัญหาผิวพรรณและความงามทั่วเรือนร่างเป็นสิ่งสำคัญ ปรึกษา Sinota Clinic เพื่อมาร่วมเติมแต่งเอกลักษณ์ความงามของคุณให้เป็นที่จดจำ
การดูดไขมัน เป็นหนึ่งในวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นผลชัดเจน โดยในบทความนี้เราจะมาไขข้อสงสัยในเรื่องของการดูดไขมันที่แต่ละบริเวณของร่างกายมีเทคนิคและการดูแลที่แตกต่างกัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันได้เลย การดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง หน้าท้องเป็นบริเวณที่มีการสะสมของไขมันมากที่สุด และเป็นจุดที่ได้รับความนิยมในการดูดไขมันมากที่สุด โดยเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องที่ไม่สามารถกำจัดด้วยการออกกำลังกาย และสามารถดูดไขมัน
ชีวิตแอคทีฟต้องมีดีไซน์ที่ใช่! 5 นวัตกรรมจาก HUAWEI FreeArc ที่ให้คุณเคลื่อนไหวคล่องตัว มั่นใจ ไม่มีสะดุด ตลอดวัน
—
หัวเว่ยยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรม...
TM แนะนำห่วงเจลออกกำลังกาย Health & Shape
—
บริษัท เทคโนเมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ TM โดย ดร.สุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แนะนำ Health &...
เมื่อกอล์ฟกับแฟชั่นเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด สร้างตัวตนบนแฟร์เวย์ ด้วยรองเท้ากอล์ฟนิยามใหม่จาก G/FORE
—
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ กอล์ฟไม่ใด้เป็นเพียง...
เฮอร์บาไลฟ์ ประเทศไทย ส่งเสริมสุขภาพคนไทย ร่วมกิจกรรมงานเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ FDA Running 2025
—
เฮอร์บาไลฟ์ ประเทศไทย เข้าร่วมกิจกรรม FDA Running 2025 งา...
ห้องดีลักซ์ราคาพิเศษพร้อมอัพเกรดในวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ที่โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น
—
สงกรานต์นี้คุ้มกว่าใคร! จองห้องพักวันนี้รับฟ...
รวม 5 วิธีทำให้ตัวเองสวยขึ้น แบบง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้
—
ความสวยไม่ใช่แค่พรสวรรค์ แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนพัฒนาได้ด้วยการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการดู...
29 มี.ค. พาราไดซ์ พาร์ค ชวนสุขภาพดี ด้วยการร้องเพลง กับงาน Paradise Park Health & Wellness Melody Of Breath #ฝึกลมหายใจด้วยเสียงเพลง
—
ต่อเนื่องกับกิจ...