นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดี กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า งาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 64 มีผู้เข้าชมงานตลอดระยะเวลา 5 วัน จำนวน 15,188 คน จาก 110 ประเทศ โดยเป็นผู้ซื้อจากต่างประเทศถึง 7,237 คน สูงกว่าการจัดงานในเดือนกันยายนปี 2561 ถึงร้อยละ 13 แสดงให้เห็นถึงความสนใจในสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย ตลอดทั้งแสดงถึงความมั่นใจของผู้ซื้อต่างชาติต่อความปลอดภัยในการจัดงานบางกอกเจมส์ ท่ามกลางสถานการณ์การค้าที่แปรปรวนทั่วโลก โดยในงานครั้งนี้ เกิดมูลค่าทางการค้ากว่า 2,115 ล้านบาท เป็นมูลค่าสั่งซื้อทันทีภายในงานเกือบ 500 ล้านบาท สินค้าที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ อัญมณี มีมูลค่าสั่งซื้อรวม 726 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 34.3) รองลงมาคือ เครื่องประดับเงิน มีมูลค่าสั่งซื้อ 485 ล้านบาท (ร้อยละ 22.9) ตามด้วยเครื่องประดับแท้ 442 ล้านบาท (ร้อยละ 20.9) เครื่องจักร 186 ล้านบาท (ร้อยละ 8.8) และเพชร 88 ล้านบาท (ร้อยละ 4.2) ตามลำดับ
ทั้งนี้ ในพิธีเปิดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 64 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวว่า "การจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 64 นี้ เป็นการนำเสนอการสร้างสรรค์ อัญมณีและเครื่องประดับของผู้ผลิต นักออกแบบ และช่างฝีมือไทย ความสามารถในการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ซึ่งจะช่วยเน้นย้ำจุดเด่นภาพลักษณ์สำคัญของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตและการซื้อขายอัญมณีและเครื่องประดับของผู้ค้าในระดับนานาชาติ หรือ Jewelry Hub ที่ได้การยอมรับในเรื่องความมีเอกลักษณ์ คุณภาพอันเป็นเลิศ การออกแบบที่สร้างสรรค์ และการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาผนวกกับทักษะการผลิตอันวิจิตรบรรจงของช่างฝีมือไทยจนเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติมาอย่างยาวนาน"
โดยงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair เป็นเวทีการค้าอัญมณีและเครื่องประดับระดับนานาชาติ และเป็นช่องทางแสดง สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่เร่งรัดการส่งออกทุกกลุ่มอุตสาหกรรมหลักอย่างเข้มข้น เน้นการรักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ และเร่งรัดฟื้นฟูตลาดที่หายไป ซึ่งอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้เข้าประเทศในปี 2561 ราว 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตลอดทั้งสร้างงานและเพิ่มรายได้ให้กับท้องถิ่น มีแรงงานในอุตสาหกรรมนี้ จำนวนรวม 1.2 ล้านคนทั่วประเทศ นับได้ว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเสาหลักของการพัฒนาประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง
ในงาน ผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้เยี่ยมชมได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการค้า ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรม Networking Reception กระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย กิจกรรมสัมมนาในหัวข้อต่างๆ กิจกรรมเวิร์คช้อปที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องประดับ และกิจกรรมสาธิตเทคนิคการผลิตเครื่องประดับ โดยผู้เข้าร่วมงานได้แสดงความสนใจในโซนพิเศษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น The New Faces ที่มีผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้าร่วมจากทุกภูมิภาคในประเทศ The Jewellers และ Innovation and Design Zone (IDZ) ที่แสดงสินค้าที่มีการออกแบบที่โดดเด่นและสินค้านวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ได้เข้าร่วมงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair ต่างแสดงความประทับใจในงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติครั้งนี้ที่เปิดโอกาสทางการค้าให้กับธุรกิจในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ตลอดทั้ง ชูความสามารถของช่างฝีมือและผู้ผลิตชาวไทยสู่สายตาโลก
คุณNils Johan Helander, Senior Vice President, Manufacturing & Managing Director, Thailand – PANDORA บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องประดับชั้นนำของโลก กล่าวว่า บริษัทของเราชื่นชมในความสามารถของช่างฝีมือไทย เราจึงเลือกที่นี่เป็นฐานการผลิตและวางแผนที่จะขยายเพิ่มไปในจุดต่างๆ ของประเทศ เพราะจุดเด่นของประเทศไทยอยู่ในทำเลที่เป็นยุทธศาสตร์ของการทำธุรกิจ
ในขณะที่คุณ Igor Kadzhala จาก Jewellery Russia Magazine กล่าวว่า งานเครื่องประดับของไทยมีดีไซน์ ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร เป็นเรื่องที่ดีมากที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศให้การสนับสนุนนักออกแบบรุ่นใหม่ให้มีโอกาสเข้าร่วมในงานสำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องประดับระดับนานาชาติอย่างงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair นี้
งานแสดงสินค้า Bangkok Gems & Jewelry Fair ครั้งที่ 65 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-29 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.bkkgems.com หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit