แกะกล่องสินค้าเกษตร “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” กับ “ลำไยอบกึ่งแห้งละพูน” นวัตกรรมครั้งแรกในไทย หนุน“ชาวสวนลำไย” โตได้อย่างยั่งยืน

06 Aug 2019
ประเทศไทยขึ้นชื่อในด้านผลผลิตทางการเกษตร และได้รับการยอมรับในฐานะครัวของโลก ผลิตผลทางการเกษตรของไทยถือเป็นหนึ่งในหัวใจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของคนไทย ปัญหาสำคัญของผลผลิตทางการเกษตร คือ การรักษาความสดใหม่ของผลผลิตจนถึงมือผู้บริโภคให้คงสภาพใกล้เคียงของเดิม เนื่องด้วยสภาพปัจจัยที่แตกต่างกัน อาทิ ช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวผลผลิตการดูแลรักษาระหว่างและหลังเก็บเกี่ยว เป็นต้น และด้วยสภาพแวดล้อมที่คาดเดาได้ยาก ทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ล้วนส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพในการผลิตของผลิตผลทางการเกษตร สิ่งสำคัญที่จะเข้ามาช่วยป้องกันปัญหาและประกันคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรคือ การพัฒนานวัตกรรมเพื่อรักษาความสดของผลผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เสมือนรับประทานสดใหม่และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในฐานะหน่วยงานขนส่งและโลจิสติกส์ของรัฐที่อยู่เคียงคู่สังคมและเศรษฐกิจไทยมาตลอด 136 ปี ได้เล็งเห็นว่า การพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรนับเป็นรากฐานสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ แต่ยังมีข้อจำกัดบางประการในด้านการวิจัยและพัฒนาผลผลิตทางการเกษตร สู่การแปรรูปให้คงรสสัมผัสแบบรับประทานสด จึงจับมือกับอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STeP) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสู่การปลดล็อคปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายตลาดต่างประเทศ และป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาด ผ่านผลิตภัณฑ์ "ลำไยอบกึ่งแห้งสีทองละพูน" ครั้งแรกในไทย ภายใต้แบรนด์ "ไปรษณีย์เพิ่มสุข" ด้วยการดำเนินโครงการ "ไปรษณีย์ไทย เพื่อแผ่นดินธรรม...แผ่นดินทอง" ที่สนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรม ที่สร้างรายได้กลับสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน "ลำพูน" ถือเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีพื้นที่เพาะปลูกลำไยมากเป็นลำดับ 2 ของประเทศถึง 270,245 ไร่ และมีผลผลิตเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 250,000 ตันต่อปี ด้วยผลผลิตที่ได้จะมีผลที่โต เนื้อหนา รสชาติหวาน ฉ่ำน้ำ และกรอบจึงอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนรับรองลำไยพันธุ์อีดอเป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดลำพูน
แกะกล่องสินค้าเกษตร “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” กับ “ลำไยอบกึ่งแห้งละพูน” นวัตกรรมครั้งแรกในไทย หนุน“ชาวสวนลำไย” โตได้อย่างยั่งยืน

นางมาลี เปรมมณี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรบ้านล่ามช้าง จ.ลำพูน กล่าวว่า ในฐานะประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรบ้านล่ามช้าง จังหวัดลำพูน ขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่เข้ามาพูดคุยรับทราบถึงปัญหาของชุมชน เสนอแนะแผนการวิจัยและพัฒนาต่างๆ ซึ่งแม้ชุมชนแห่งนี้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของจังหวัด แต่กลับได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ในการคิดหาทางออกให้ตั้งแต่กระบวนการแปรรูปต้นน้ำ ไปจนถึงช่องทางการกระจายผลผลิตในขั้นปลายน้ำ โดยผสานจุดแข็งโครงข่ายการขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยของไปรษณีย์ไทย องค์ความรู้และนวัตกรรมจาก อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STeP) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในด้านเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์การอาหารจึงก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ลำไยอบกึ่งแห้ง แบรนด์ "ละพูน" บรรจุถุงสูญญากาศ ที่เปี่ยมด้วยลำไยพันธุ์อีดอคัดเกรดคุณภาพ ทั้งเกรด A และ AA ที่แม้จะนำไปผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยวิธีการ "อบกึ่งแห้ง" แล้วแต่ยังคงความสด เนื้อสีทอง หอมนุ่ม มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว อันเป็นเอกลักษณ์ให้รสสัมผัสเหมือนการรับประทานลำไยสด โดยที่สามารถเก็บได้นานถึง 6 เดือน การันตีคุณภาพด้วยมาตรฐาน อย. ทั้งนี้ ลำไยอบกึ่งแห้ง "ละพูน" ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้นวัตกรรมการแปรรูปด้วยการอบกึ่งแห้งครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีแผนจำหน่ายในประเทศ ผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ ร้านกาแฟบริเวณหน้าโรงงานผลิต กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรบ้านล่ามช้าง ร้านขายของที่ระลึกและโรงแรมในจังหวัดลำพูน จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดชลบุรี บริษัท 24 shopping เครือบริษัท CP ซึ่งเป็นสินค้าออนไลน์ ที่ทำการไปรษณีย์ รวมถึงเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท ของไปรษณีย์ไทย (www.thailandpostmart.com) และในอนาคตจะขยายช่องทางการตลาดไปยังประเทศจีนอีกด้วย

ด้าน นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทย มีกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่หลักด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ด้วยการมอบหมายให้เครือข่ายไปรษณีย์ที่มีศักยภาพแต่ละเขตพื้นที่ทำหน้าที่เหมือน One Stop Service กลมกลืนกับความเป็นอยู่ของชุมชน ลงพื้นที่รับฟังปัญหา ให้คำปรึกษาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ สนับสนุนช่องทางจำหน่าย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ อาทิ เว็บไซต์ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท (Thailandpostmart.com) ที่ทำการไปรษณีย์ไทย และ THP Contact Center 1545 อันจะเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างรายได้เพิ่มแก่ชุมชนได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ตลอดจนสร้างภาพจำให้วิสาหกิจชุมชนและคนไทยนึกถึง "ไปรษณีย์ไทย" เป็นลำดับแรก ในฐานะ "เครือข่ายชีวิตและเศรษฐกิจไทย"

ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์ลำไยอบกึ่งแห้ง "ละพูน" ภายใต้แบรนด์ "ไปรษณีย์เพิ่มสุข" จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเป็นโมเดลต้นแบบในการแก้ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ของประเทศได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เป็นหนึ่งในตัวอย่างผลิตภัณฑ์ภายใต้การดำเนินโครงการ "ไปรษณีย์ไทย เพื่อแผ่นดินธรรรม...แผ่นดินทอง" เท่านั้น หากแต่ไปรษณีย์ไทย ยังคงเดินหน้าสังเกตการณ์วิถีชีวิตของทุกพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงศักยภาพของแต่ละชุมชน มาพัฒนาและผลักดันให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ หรือแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ชุมชนได้อย่างน่าสนใจ พร้อมดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้ามมาเรียนรู้ หรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กลับไปเป็นของฝากครอบครัวอันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชนและภาพรวมประเทศในอนาคต

ผู้สนใจสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ลำไยอบกึ่งแห้ง "ละพูน"ภายใต้แบรนด์ "ไปรษณีย์เพิ่มสุข" บรรจุใน ซองฟลอยด์สีขาว (ปริมาณ 50 กรัม) ในราคา 65 บาท ได้ที่ร้านกาแฟหน้าโรงงานผลิตกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรบ้านล่ามช้าง ร้านขายของที่ระลึกและโรงแรมในจังหวัดลำพูน จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดชลบุรี ได้แก่ dutch farm, ไทยริชเช่อร์ทัวร์, สวัสดีเชียงใหม่, มินิ อตก. บริษัท 24 shopping เครือบริษัท CP เป็นสินค้าออนไลน์ หน้าที่ทำการไปรษณีย์ในเขต ปข.5 และเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสต์มาร์ทThailandpostmart.com) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545

HTML::image( HTML::image( HTML::image(