ทีเส็บเผยแผนปี 63 ดันไทยขึ้นแท่น ศูนย์กลางจัดงานแสดงสินค้านานาชาติระดับโลก

08 Nov 2019
ทีเส็บปลื้มสมาคมการแสดงสินค้าโลก UFI ระดมสมาชิกทั่วโลกประชุมในไทย มั่นใจจะยกระดับไทยเป็นผู้นำการจัดแสดงสินค้าของโลก และแนวการตลาด "Exhibition Redefined; 360๐ Exhibition Success" จะบรรลุเป้ารายได้โดยตรงจากการแสดงสินค้า 2.1 หมื่นล้านบาทในปี 2563

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติของไทยในปีพ.ศ. 2563 ภายใต้แนวทาง "Exhibition Redefined; 360๐ Exhibition Success" ของ ทีเส็บ กับการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสมาคมอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าระดับโลก หรือ The 86th UFI Global Congress ใน กทม. จะเป็นสองส่วนสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าของไทยในเวทีโลก

"จากรายงานอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าของเอเชีย ประจำปี 2561 โดยสมาคมการแสดงสินค้าโลก หรือ UFI ระบุว่ารายได้จากการจัดงานแสดงสินค้าของประเทศไทยอยู่ในอันดับสูงสุดในอาเซียน หรือคิดเป็นเงิน 232.71 ล้านเหรียญสหรัฐ จากจำนวน 104 งาน ไทยจึงเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติของอาเซียน และเรามีเป้าหมายที่จะไปสู่ผู้นำในเอเซียต่อไป"แนวทาง "Exhibition Redefined; 360๐ Exhibition Success" นี้แบ่งกลยุทธ์ออกเป็น 5 ด้าน คือ 1) การดึงงานใหม่เข้ามาจัดในประเทศไทย โดยมุ่งเน้น 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย S curve อาทิ การบินและโลจิสติกส์ ดิจิทัล บริการสุขภาพแบบองค์รวม ยานยนต์แห่งอนาคต ฯลฯ 2) การเตรียมความพร้อมสู่การเป็นเจ้าภาพการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติด้านการบิน โดยมุ่งเน้นการดึงงานไมซ์ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และการบินเข้ามาจัดในประเทศไทย 3) การเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทยในการจัดงานแสดงสินค้าให้มีมาตรฐาน ร่วมมือกับสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) 4) การบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และการสร้างเครือข่ายพันธมิตรระดับโลก อาทิ การเจาะกลุ่มเป้าหมายผ่านกิจกรรม UFI Asia Pacific Conference Site Trip และ ASEAN Association Meeting และ 5) การสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าแบบครบวงจร ยกระดับมาตรฐานการจัดงานสู่สากล เพิ่มจำนวนผู้ร่วมแสดงงานมุ่งเน้นกลุ่มประเทศจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน และเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมงานชาวต่างชาติจากกลุ่มประเทศ ASEAN+6 และ CLMV

จากสถิติอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติของประเทศไทย ปีงบประมาณ 2562 พบว่ามีสัดส่วนประมาณ 20% ของอุตสาหกรรมไมซ์ โดยมีจำนวนนักเดินทางไมซ์กลุ่มตลาดงานแสดงสินค้านานาชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย 264,005 คน เพิ่มขึ้น 13.20% สร้างรายได้ให้เศรษฐกิจ 20,292 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.93% ทั้งนี้ ในปี 2563 คาดการณ์เป้าหมายว่าจะมีนักเดินทางไมซ์ตลาดงานแสดงสินค้านานาชาติ จำนวน 277,000 คน สร้างรายได้ 21,100 ล้านบาท

ผู้อำนวยการทีเส็บ กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพจัดประชุม The 86th UFI Global Congress ที่จัดในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 6-9 พฤศจิกายน ในกรุงเทพมหานคร ครั้งนี้ นับเป็นการประชุมสำคัญที่ใหญ่ที่สุดของ UFI ซึ่งรวบรวมผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติจากทั่วโลกมาร่วมประชุมหารือ แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ สร้างเครือข่าย และรับทราบทิศทางรวมถึงเทรนด์ใหม่ของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ โดยทีเส็บร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) หรือ TEA สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ TICA สมาคมโรงแรมไทย และกลุ่มบางกอก ริเวอร์ พาร์ทเนอร์ส ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้

ในงานดังกล่าว ทีเส็บ จัดโซนประเทศไทย (Thai Town) เป็นโซนพิเศษสำหรับแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของไทยและไมซ์ซิตี้ พร้อมกับการมีสัมมนาเชิงธุรกิจ หัวข้อ "ประเทศไทย" จุดหมายใหม่แห่งอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าของโลก (Focus on Thailand) ซึ่งเป็นเวทีสร้างความเชื่อมั่นในด้านต่างๆ ต่อผู้จัดงานต่างประเทศเพื่อนำงานแสดงสินค้าให้เข้ามาจัดในประเทศไทย พร้อมกับให้มีเวทีเจราจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมฯไทยและต่างประเทศ (Speed Dating) โดยมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมเจรจาธุรกิจกว่า 20 ราย รวมทั้งสิ้นกว่า 400 นัดหมาย

การเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุม The 86th UFI Global Congress นอกจากจะส่งผลทางด้านเศรษฐกิจ โดยประมาณการผู้เข้าร่วมงานประชุมครั้งนี้กว่า 550 คน จาก 50 ประเทศทั่วโลก สร้างรายได้กว่า 42 ล้านบาท และคาดว่าจะมีธุรกิจ (Business Lead) เกิดขึ้น 20 งาน สร้างรายได้กว่า 135 ล้านบาท ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ สร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจในประเทศไทย และประกาศความพร้อมของกรุงเทพมหานครและประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพการจัดงานระดับโลก ตอกย้ำไทยในฐานะศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในภูมิภาคอาเซียน" ผู้อำนวยการทีเส็บ กล่าว

มร.ไค ฮัทเทนดอฟ กรรมการผู้จัดการและประธานบริหาร สมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก หรือ UFI กล่าวว่า "จากรายงานสถิติการสำรวจอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติแห่งภูมิภาคเอเชียปี 2562 รายงานว่าประเทศไทยเป็นตลาดงานแสดงสินค้านานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มมากขึ้นในด้านจำนวนงานและพื้นที่การจัดงาน ประเทศไทยยังมีศูนย์การจัดงานแสดงสินค้าที่มีมาตรฐานในระดับโลก มีบริษัทผู้จัดงานที่มีมาตรฐานสากล และหน่วยงานภาครัฐบาลก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ประเทศไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการเป็นเจ้าภาพการจัดงาน The 86th UFI Global Congress ที่สามารถสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นตลาดอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติที่สร้างผลกำไรสูงสุดในภูมิภาคอาเซียน โดยการจัดงานในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนทั้งสิ้น 550 คนจาก 50 ประเทศทั่วโลก และไม่เพียงเท่านี้ยังมีจำนวนการจับคู่ธุรกิจเกิดขึ้นภายในงานเป็นจำนวนมาก สามารถสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติไทยได้เป็นอย่างดี และยังสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของไทยในการร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้ประเทศไทยเป็น 4.0 อีกด้วย"

ด้านนายทาลูน เทง นายกสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) กล่าวว่า "ในส่วนของภาคเอกชนในฐานะสมาคมที่มีบทบาทโดยตรงต่อการพัฒนาและสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจให้กับสมาชิก เน้นสร้างความร่วมมือระหว่างกัน การรวมตัวของบริษัทผู้เชี่ยวชาญ เพราะในการจัดงานแสดงสินค้าแต่ละงานต้องใช้มืออาชีพในแต่ละส่วนทั้งบริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้า ศูนย์การแสดงสินค้า บริษัทขนย้าย บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น ทั้งนี้การเป็นเจ้าภาพการจัดงาน The 86th UFI Global Congress 2019 นับเป็นโอกาสดีสำหรับอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าไทยในการแสดงศักยภาพความพร้อม และความเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้าที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียน ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานซึ่งผู้จัดงานแสดงสินค้าจากทั่วโลกจะได้สัมผัสประสบการณ์จริง เจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยที่เป็นมืออาชีพแบบตัวต่อตัว อีกทั้งจะได้เห็นความพร้อมของบุคลากรมืออาชีพ และเป็นโอกาสหาพันธมิตรระหว่างสมาชิกของเรากับสมาชิกของ UFI ทั่วโลก โดยการจัดงานครั้งนี้มีผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทสมาชิกตอบรับเข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 80 ท่าน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งจากนโยบายความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติไทยของทีเส็บ"

นายพิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐตามนโยบายรัฐบาล กรุงเทพมหานคร ในฐานะเมืองเจ้าภาพมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพงาน The 86th UFI Global Congress 2019 และงานเลี้ยงรับรองผู้เข้าประชุม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือสนับสนุน และศักยภาพความพร้อมของกรุงเทพมหานครในฐานะไมซ์ซิตี้ของประเทศไทย พร้อมทั้งส่งเสริมความร่วมมือในการทำการตลาดระดับนานาชาติ สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติในการให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวธุรกิจ โดยส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและนิทรรศการนานาชาติของโลก และแผนพัฒนากรุงเทพมหานครที่ตั้งเป้าหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองจัดประชุม นิทรรศการในอันดับแรกของภูมิภาคอาเซียน ดังนั้นการเป็นเจ้าภาพร่วมงานประชุมครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวและไมซ์ของกรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน และยังเป็นการประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมไมซ์ของกรุงเทพมหานครให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเป็นไปตามความร่วมมือของกรุงเทพมหานคร และทีเส็บ

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมภายในงาน The 86th UFI Global Congress อาทิ การอำนวยความสะดวกในการจัดงาน ด้านความปลอดภัย และการประชาสัมพันธ์ เป็นต้น เพื่อเป็นการต่อยอด และส่งเสริมภาพลักษณ์ของกรุงเทพมหานครในฐานะที่เป็น Exhibition City of ASEAN อีกด้วย