- หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครและมูลนิธิซันไพรด์ร่วมเปิดนิทรรศการใหญ่ พร้อมการแสดงจากศิลปินหมิง หว่องและอีก 5 ศิลปิน - ไฮไลต์ในงาน ได้แก่ ผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่เพื่อนิทรรศการนี้ โดยศิลปินชื่อดังอาทิ อริญชย์ รุ่งแจ้ง (ไทย), จักกาย ศิริบุตร (ไทย), บัลเบียร์ ครีชัน (อินเดีย), แอนน์ แซมัท (มาเลเซีย), สมัคร์ กอเซ็ม (ไทย) - จ้ดแสดงพร้อมกันคือผลงานเด่นจากศิลปิน อาทิ ดิญ คิว เล (เวียดนาม), ดาวิด เมดาญ่า (ฟิลิปปินส์), ดัน หว่อ (เวียดนาม) และอีกหลายศิลปิน หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับมูลนิธิซันไพรด์ จัดงานเปิดนิทรรศการ สนทนาสัปตสนธิ ๒ - ไตร่ถาม: ความหลากหลายในอุษาคเนย์ (SPECTROSYNTHESIS II– Exposure of Tolerance: LGBTQ in Southeast Asia) ซึ่งจะเปิดให้เข้าชม ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 นี้ นิทรรศการดังกล่าวจะเป็นแหล่งรวมศิลปะร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดจากกว่า 50 ศิลปิน ซึ่งสะท้อนประเด็นเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ - Lesbian Gay Bisexual Transsexual and Queer) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และใกล้เคียง งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการเดินทางหมุนเวียนโดยมูลนิธิซันไพรด์ โดยจะแวะที่กรุงเทพฯ เป็นจุดที่ 2 ต่อเนื่องมาจากนิทรรศการ SPECTROSYNTHESIS – Asian LGBTQ Issues and Art Now อันโด่งดัง ซึ่งเปิดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย (Museum of Contemporary Art) กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน เมื่อปี 2560 จากประเด็นความแตกต่างและหลากหลายทางเพศอาจนำไปสู่ความตึงเครียดในสังคม งานนี้ทีมภัณฑารักษ์ นำโดยคุณฉัตรวิชัย พรหมทัตตเวที จึงได้คัดสรรศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานโดดเด่น เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในประเด็นนี้ผ่านศิลปะร่วมสมัย โดยมุ่งเน้นให้เห็นว่าเส้นแบ่งต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนไป กรอบเกณฑ์ต่าง ๆ กำลังเปิดกว้างมากขึ้น และคนก็กำลังตั้งคำถามกับค่านิยมและบรรทัดฐานต่างๆ ทางสังคม ในนิทรรศการ ผู้ชมจะได้พบกับผลงานของศิลปินจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงศิลปินเชื้อสายจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นสองวัฒนธรรมที่มีอิทธิผลอย่างยิ่งต่อภูมิภาคนี้ผ่านการอพยพย้ายถิ่นฐาน สนทนาสัปตสนธิ ๒ จึงแสดงให้เห็นบริบททางสังคมที่ยอมรับความหลากหลายทางเพศ และสะท้อนลักษณะพิเศษของภูมิภาคนี้ที่เป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรม "ผลงานศิลปะที่จัดแสดงในนิทรรศการ สนทนาสัปตสนธิ ๒ จะเน้นเรื่องการยอมรับความหลากหลายทางเพศ แต่บทสนทนาเรื่องนี้ไม่ได้จำกัดวงอยู่แค่ในกลุ่ม LGBTQ" หัวหน้าทีมภัณฑารักษ์ คุณฉัตรวิฉัย พรหมทัตตเวที อธิบาย "สิ่งที่ทำให้นิทรรศการนี้ทรงพลังและสำคัญมาก คือ ศิลปินส่วนใหญ่มีประสบการณ์ส่วนตัวหรือไม่ก็รู้สึกร่วมไปกับประเด็นนี้ ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น นิทรรศการยังแสดงถึงอิสรภาพที่ศิลปะมอบให้ อิสรภาพที่จะแสดงออกถึงการต่อสู้ของแต่ละคนเพื่อการยอมรับทางเพศ เพื่อให้คนยอมรับว่าเป็นปกติ การต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และการต่อสู้เพื่อให้คนที่ตำแหน่งและสถานะเท่าเทียมกันเคารพกัน" แพทริค ซัน ผู้อำนวยการบริหาร มูลนิธิซันไพรด์ กล่าวว่า"เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้คุณฉัตรวิชัย พรหมทัตตเวที และทีมมาร่วมงานครั้งนี้ ทีมทำงานกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อคัดสรรศิลปินและผลงานศิลปะชั้นยอดมาจัดแสดงในนิทรรศการ สนทนาสัปตสนธิ ๒ ผมหวังว่านิทรรศการนี้จะส่งเสริมให้เกิดการอภิปรายกันในวงกว้าง และสนับสนุนให้เกิดสังคมที่เท่าเทียมมากขึ้นสำหรับชุมชน LGBTQ และมิตรสหาย" ผลงานที่สร้างสรรค์ใหม่เพื่องานนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรม ชนชาติ และความเชื่อที่หลากหลาย ระดับการยอมรับความหลากหลายทางเพศก็แตกต่างกันไปตามแต่ละเมืองและเขตการบริหารพิเศษเช่นกัน ในประเทศไทย ชุมชน LGBTQ ถือว่าได้รับการยอมรับดีเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย และปัจจุบันก็เริ่มมีการเรียกร้องกฎหมายการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน ถึงกระนั้น กฎเกณฑ์และพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความไม่เท่าเทียมก็มิใช่ไม่มีเสียเลย และอคติเหล่านี้ก็ปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสะท้อนประเด็นนี้ จักกาย ศิริบุตร ได้สร้างสรรค์ศิลปะจัดวางขนาดใหญ่ 3 ชิ้น แต่ละชิ้นทำจากผ้าและยาว 2 เมตร เพื่อบันทึกความเจ็บปวดของวัยรุ่น ลวดลายเรขาคณิตใน Quilt Project (2562) ล้อมาจากสามเหลี่ยมสีชมพูที่พรรคนาซีเคยใช้เพื่อระบุตัวและสร้างความอับอายให้แก่ผู้รักเพศเดียวกัน ในบัดนี้ ชุมชนเกย์ได้นำมาเป็นสัญลักษณ์ แสดงถึงความภาคภูมิใจ อริญชย์ รุ่งแจ้ง ศิลปินตัวแทนประเทศไทยในเทศกาล Venice Biennale ครั้งที่ 55 ได้สร้างวิดีโอแบบติดตั้งจัดวาง 5 จอภายใต้ชื่อ Welcome to My World โดยได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์วัยเด็ก ที่รู้สึกตื่นตาตื่นใจที่ได้พบกับบุคคลแปลงเพศ ผลงานชิ้นนี้จะสะท้อนประเด็นความหลากหลายและการยอมรับทางสังคมอย่างชัดเจน ศิลปินชาวมาเลเซีย แอนน์ แซมัท ผู้บุกเบิกศิลปะการทอ นำเสนอผลงานชิ้นพิเศษ Conundrum Ka Sorga (To Heaven) (2562) ซึ่งเป็นผลงานชิ้นล่าสุดในชุดผลงานศิลปะอันโด่งดัง ประติมากรรมรวมเพศที่เป็นเอกลักษณ์ของ แซมัท ทำมาจากสิ่งทอสีรุ้งยาว 3 เมตร จะเผยให้เห็นว่า แซมัท สนใจเรื่อง "รูปร่างในอุดมคติ" และต้องการจะเห็นชุมชน LGBTQ กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งเหมือนนกฟีนิกซ์ ศิลปินชาวอินเดีย บัลเบียร์ ครีชัน ผู้เคยโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างเสีย ๆ หาย ๆ เพราะสร้างผลงานศิลปะเกี่ยวกับเกย์ จัดแสดงภาพวาด 2 ชิ้นที่แสดงถึงความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังการยกเลิกมาตรา 377 ในกฎหมายอินเดียที่กำหนดบทลงโทษสำหรับชายที่มีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน A Stitch in Time ผลงานจัดวางโดยศิลปินชาวฟิลิปปินส์ ดาวิด เมดาญ่า ได้รับแรงบันดาลใจจากความ ทรงจำส่วนตัวที่บังเอิญพบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่ง เสมือนเป็นโชคชะตาที่นำให้เขาได้พบกับชายแปลกหน้า ซึ่งต่อมากลายเป็นหนึ่งในคนรักเก่าของศิลปิน ผู้ชมสามารถร่วมสร้างศิลปะแนวทดลองชิ้นนี้ได้ แล้วจะพบว่างานชิ้นนี้ท้าทายบทบาทของผู้สร้าง - ผู้ชมงานศิลปะ และกระตุ้นให้ทบทวนความเชื่อเรื่อง "โชคชะตา" ซึ่งเป็นประเด็นที่ไม่มีวันตายในอารยธรรมมนุษย์ และบนผลงานชิ้นเดียวกันนี้ เหล่าศิลปินที่ร่วมแสดงผลงานในนิทรรศการ จะได้ฝากรอยเย็บปักไว้ร่วมกัน เป็นการรำลึกถึงเมื่อปี ค.ศ. 1972 เมื่อเหล่าศิลปิน Joseph Beuys, David Hockey, Marcel Duchamp, Gilbert and George และ Yoko Ono ได้ร่วมกันปักผลงานที่จัดแสดงในงาน documenta 5 ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีของกลุ่มคนที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งที่ทีมงานตั้งใจนำเสนอในการจัดงานนิทรรศการ สนทนาสัปตสนธิ ๒ ในครั้งนี้ ไฮไลต์ประจำนิทรรศการ นิทรรศการครั้งนี้ยังจัดแสดงภาพถ่าย 6 ภาพโดย เยิ่น หาง ศิลปินชาวจีนผู้ล่วงลับ เยิ่น หาง เป็นโรคซึมเศร้าและปลิดชีพตนเองไปอย่างน่าเศร้าในปี 2560 ระหว่างที่ผลงานจัดแสดงอยู่ที่สต็อกโฮล์ม ภาพถ่ายของ เยิ่น หาง แสดงออกถึงความเป็นธรรมชาติ ผู้ชมจะได้เห็นนายแบบและนางแบบเปลือย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพื่อนของศิลปินเอง อยู่ในท่วงท่าที่เปิดเผยและดูราวกับเป็นรูปปั้น ภาพถ่ายที่จัดองค์ประกอบอย่างตั้งอกตั้งใจนี้มี ความงามแบบศิลปะเหนือจริง แต่แม้จะเป็นภาพของร่ายกายในวัยหนุ่มสาว กลับให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวและเก็บกด สะท้อนถึงการต่อสู้กับภาวะทางจิตใจของศิลปินเอง ดิญ คิว เล ศิลปินชาวเวียดนาม ได้จัดแสดงผลงานศิลปะ 3 ชิ้น 2 ใน 3 นั้นเป็นผลงานที่ใช้เทคนิคการทอภาพถ่ายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ได้แรงบันดาลใจมาจากเทคนิคการทอพรมจากเส้นใยแบบดั้งเดิม ส่วนผลงานชิ้นที่ 3 เป็นประติมากรรมสูง 5 เมตร เป็นภาพที่โดนยืดและบิดเบี้ยวจนกลายเป็นม้วนกระดาษขนาดใหญ่เกินจริง แขวนลงมาจากเพดาน ภาพถ่ายที่ใช้มาจากหลากหลายแหล่ง สะท้อนถึงความรู้สึกภายในของศิลปิน และชวนให้คิดว่าการเซนเซอร์ภาพทำให้เกิดอคติต่อมุมมองและการรับรู้เรื่องอัตลักษณ์ประจำชาติอย่างไร ผลงานรูปปั้น We The People (detail) (2011–2016) ของศิลปินชาวเวียดนาม ตัน หว่อ จำลองสัญลักษณ์แห่งอิสรภาพอย่างเทพีเสรีภาพ ขนาดเท่าของจริง แต่แยกชิ้นส่วนเป็นกว่า 300 ชิ้น กระจายไปตั้งหลายจุด ผลงานชิ้นนี้จะท้าทายการรับรู้ของผู้ชม และย้ำเตือนว่าทุกคนควรจะโดนตัดสินด้วยบรรทัดฐานเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพส่วนบุคคล กิจกรรมประกอบนิทรรศการ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครและมูลนิธิซันไพรด์มุ่งมั่นที่จะให้ความรู้ต่อสาธารณะเกี่ยวกับ LGBTQ และส่งเสริมให้เกิดการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ผ่านศิลปะ ในงานนี้ นอกจากชิ้นงานศิลปะจำนวนมากแล้ว ยังมีกิจกรรมประกอบนิทรรศการอีกหลายรายการ เริ่มจากวันเปิดนิทรรศการวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2562 จะมีกิจกรรมเสวนาสองรอบ นำโดยภัณฑารักษ์คุณฉัตรวิชัย พรหมทัตตเวที เชื้อเชิญศิลปินมาร่วมบนเวทีเสวนาเกี่ยวกับ LGBTQ และบริบททางสังคมและวัฒนธรรมในแต่ละประเทศของศิลปิน และในวันที่ 18 มกราคม 2563 ขอเชิญชมการแข่งขันเต้น Waack & Vogue ที่สนุกสนานและตื่นตาตื่นใจในงานเต้น Spectro Dance Battle และสำหรับผู้ชมที่ต้องการเข้าใจศิลปะที่จัดแสดงอย่างลึกซึ้ง สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนำชมพร้อมบรรยายพิเศษได้ตลอดนิทรรศการ พร้อมชมสูจิบัตรผลงานได้อีกด้วย (มีจัดจำหน่าย) สามารถติดตามรายละเอียดและกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ http://bacc.or.th/ หรือ https://sunpride.hk/. เกี่ยวกับนิทรรศการ สนทนาสัปตสนธิ ๒ ไตร่ถาม: ความหลากหลายในอุษาคเนย์ SPECTROSYNTHESIS II– Exposure of Tolerance: LGBTQ in Southeast Asia จัดแสดง: 23 พฤศจิกายน 2562 –1 มีนาคม 2563 เวลาเปิดทำการ: 10:00– 21:00 (ยกเว้นวันจันทร์) สถานที่: ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น 7- 8 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) 939 ถนนพระราม 1 วังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ***เข้าชมฟรี ผู้สนใจสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bacc.or.th/ Facebook:@baccpage Instagram:@baccbangkok เกี่ยวกับหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) เป็นศูนย์จัดแสดงศิลปะและวัฒนธรรมขนาด 24,000 ตารางเมตร สูง 12 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เพียบพร้อมด้วยห้องนิทรรศการ พื้นที่จัดการแสดง ห้องสมุด และห้องประชุม โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมสำหรับศิลปะร่วมสมัย และส่งเสริมให้ศิลปะมีบทบาทในชีวิตของชาวเมืองมากขึ้น แนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทยเริ่มมีแนวคิดที่จะสร้างศูนย์ศิลปะร่วมสมัยตั้งแต่ปี 2537 และได้รณรงค์เรื่องนี้เรื่อยมา จนกรุงเทพมหานครเป็นผู้ก่อสร้าง และปัจจุบัน บริหารงานอย่างอิสระโดยมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตลอด 10 นับตั้งแต่เปิดทำการวันแรกในปี 2551 ศูนย์ศิลปะกลางเมืองแห่งนี้ได้ต้อนรับกลุ่มผู้ชมที่หลากหลาย ทั้งนักอนุรักษ์นิยมและผู้ชื่นชอบศิลปะร่วมสมัย ตลอดจนคนรุ่นใหม่ที่แสวงหาไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ศิลปะในพื้นที่นี้ไม่ได้จำกัดเพียงทัศนศิลป์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงศิลปะการแสดง ภาพยนตร์ ดนตรี และวรรณกรรม ด้วยเหตุนี้ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครจึงเป็นพื้นที่แห่งการแลกเปลี่ยน ที่ผู้ชมและศิลปินต่างสาขามาพบกันและเริ่มบทสนทนาเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ เกี่ยวกับมูลนิธิซันไพรด์ มูลนิธิซันไพรด์ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 โดยมีพันธกิจเพื่อโอบรับและสนับสนุนศิลปะของชุมชน LGBTQ มูลนิธิมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้เกิดสังคมที่เท่าเทียมกันมากขึ้น เข้มแข็งขึ้น และมีสุขภาวะที่ดีขึ้นสำหรับชาว LGBTQ และเพื่อน รวมถึงสนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นใหม่ที่จะลงมือสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางบวกให้กับชาว LGBTQ โดยจัดแสดงและอนุรักษ์ผลงานที่สื่อสารไปยังสังคม ผู้สนใจสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://sunpride.hk/. Facebook: https://www.facebook.com/sunpridefoundation/ Instagram: @SunprideFoundation WeChat: @SunprideFoundation
Rhom Bho Property Public Company Limited, also known as "TITLE," continues to build on its success by launching a new condominium project, "Adora Rawai," under the concept "Adorable lifestyle beside the Ocean." Strategically located near Rawai Beach, this THB 1.4 billion development is designed to attract homeowners, investors, and international buyers. It features meticulous design and extensive shared spaces, including both outdoor and indoor amenities across three levels, offering up to 27
17 เมษายน 2568 16:43 น.