อุทยานแห่งชาติลำคลองงู เป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 123 ของประเทศไทย มีพื้นที่ประมาณ 375,000 ไร่ หรือ 600 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาพระฤๅษีบ่อแร่แปลง 2 อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี แม้พื้นที่ของอุทยานฯ ลำคลองงู จะไม่กว้างใหญ่เหมือนอุทยานฯ แก่งกระจาน แต่สภาพป่าไม้ของอุทยานฯ แห่งนี้ก็อุดมสมบูรณ์มาก เพราะตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี ติดกับเขตรักษาพันธุสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ โดยอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ถือเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความเหลากหลายทางพันธุกรรม ทั้งด้านสัตว์ป่าและพรรณพืชจำนวนมาก
สภาพพื้นที่ของอุทยานฯ ลำคลองงูส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน แนวเขาวางตัวในทิศเหนือ-ใต้ เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี ยอดเขาส่วนใหญ่ในพื้นที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100 – 1,000 เมตร มียอดเขาที่สำคัญคือ ยอดเขาบ่องาม นับเป็นยอดเขาต้นน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ ที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามมาก เป็นอีกเส้นทางพิชิตต้นน้ำที่น่าสนใจอีกเช่นกัน
อุทยานแห่งชาติลำคลองงู มีสภาพป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ และยังเป็นป่าผืนเดียวกันกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่สามารถพบป่าเบญจพรรณแล้งสูงผสมไผ่ ป่าเบญจพรรณแล้งต่ำผสมไผ่ และป่าดิบแล้ง ขึ้นปกคุลมทั่วพื้นที่อุทยานฯ ลำคลองงู และยังจะพบสัตว์ป่ามากมาย ทั้งเลียงผา ช้างป่า เก้ง กวางป่า หมูป่า หมีควาย เสือลายเมฆ เสือโคร่ง และอื่นๆ สำหรับนักส่องนกด้วยแล้ว ที่นี่ก็มีนกป่าหลากชนิดให้เฝ้าชมและศึกษาค้นคว้าได้อย่างมากมาย
อย่างที่เอ่ยมาตั้งแต่ต้นเรื่องว่า อุทยานฯ ลำคลองงู ไม่ได้มีเพียงป่าไม้ สัตว์ป่า สายน้ำ และขุนเขาให้นักท่องเที่ยวชื่นชมอย่างตื่นเต้นเท่านั้น ที่นี่ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งถ้ำ มีน้ำตกสวยให้เที่ยว และยังมีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวมาช้านานด้วย นั่นก็คือเสาหินปูนขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในโลกนั่นเอง ถ้ำเสาหินอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 20 กิโลเมตร ภายในถ้ำเสาหินจะมีธารน้ำจากลำห้วยคลองงู ไหลตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวต้องอาศัยการเดินและการว่ายน้ำเข้าไปในถ้ำ ระยะทางประมาณ 700 เมตร บริเวณกลางถ้ำจะพบเสาหินปูนขนาดใหญ่ สูงประมาณ 61 เมตร และยังมีหินงอกหินย้อย และหินลายไม้สวยงามภายในถ้ำให้ชื่นชมด้วย ถ้ำเสาหิน เหมาะกับการเที่ยวในฤดูร้อนเท่านั้น และต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางตลอดด้วย ถ้าต้องการมาเที่ยวอุทยานฯ ลำคลองงูในฤดูฝนหรือฤดูหนาว สามารถเข้าไปเที่ยวใน ถ้ำนกนางแอ่น ได้โดยผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย ชอบการท้าทายได้ทั้งเดินป่า ทั้งล่องลำน้ำ ว่ายน้ำ ไต่เชือกตามระดับความชันของเส้นทาง ขึ้นไปชมความงามภายในถ้ำแบบให้ได้ลุ้น และสร้างความตื่นตาตื่นใจตลอดทั้งทริป และสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทริปนี้ผู้ร่วมเส้นทางต้องเตรียมความฟิตและสุขภาพแข็งแรงเพื่อพิชิตชัยชนะของตัวเองได้สำเร็จตามเป้าหมาย
ถ้ำนกนางแอ่น ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เขาพระอินทร์ประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีธารน้ำจากลำห้วยคลองงูไหลภายในถ้ำเหมือนถ้ำเสาหิน ภายในถ้ำนอกจากจะมีหินงอกหินย้อยที่เต็มไปด้วยผลึกสวยงามแล้ว ยังมีหินคล้ายถ้วยฟุตบอลโลกขนาดใหญ่ (ตามจินตนาการของผู้พบเห็น) และหินปูนคล้ายม่านน้ำตกสวยให้ชมอีกด้วย
ใกล้กับถ้ำนกนางแอ่นยังมี ถ้ำใหญ่ ที่มีขนาดใหญ่สมชื่อ ให้แวะชมด้วย ถ้ำสุดท้ายที่น่าเที่ยวคือ ถ้ำน้ำตก เป็นถ้ำขนาดเล็ก แต่ภายในมีหินงอกหินย้อยสวยงามมาก ด้านในสุดของถ้ำมีน้ำตกธรรมชาติให้คุณได้เล่นน้ำด้วย หลังจากเที่ยวถ้ำจนหนำใจแล้ว ย้อนกลับมาที่ที่ทำการอุทยานฯ ลำคลองงู เดินเท้าไประยะทางประมาณ 700 เมตร ก็มีน้ำตกนางครวญหนึ่งในน้ำตกสวยของอุทยานฯ ให้ชมแล้ว น้ำตกนางครวญมีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นที่สวยที่สุดคือชั้น 3 สายน้ำไหลตกลงมาจากหน้าผาสูง 30 เมตร มีแอ่งน้ำกว้างด้านล่างให้เล่นน้ำได้ แต่ต้องอาศัยการเดินลงเขาไปชมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร แบบครบทุกรสชาติ สัมผัสทุกเส้นทางท่องเที่ยว Adventure กันเลยทีเดียว
ถ้าใช้เวลาในการท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ในเส้นทางข้างต้น หากรวมด้วยแล้ว ใช้เวลาในการเดินทางและท่องเที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืน สามารถบริหารจัดการเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างลงตัว แต่หากท่านใดอยากใส่โปรแกรมสถานที่ท่องเที่ยวในละแวกใกล้เคียง หรือสถานที่ไฮไลท์ในจังหวัดกาญจนบุรีเพิ่มเติมก็คงต้องขยายเวลาการท่องเที่ยวตามสะดวก
สิ่งอำนวยความสะดวก : ในด้านสิ่งอำนวยความสะดวก อุทยานแห่งชาติลำคลองงู มีบ้านพักและลานกางเต็นท์ พร้อมบริการนักท่องเที่ยวอยู่ถึง 2 จุดใหญ่ๆ คือบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ใกล้กับน้ำตกนางครวญ และบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เขาพระอินทร์ โดยนักเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมพักที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เขาพระอินทร์ มากกว่า เพราะไม่ไกลจากถ้ำเสาหิน และถ้ำนกนางแอ่น
สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู
อุทยานแห่งชาติลำคลองงู โทรศัพท์ 084-913-2381 หรือสามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดได้ที่ http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=9127 หรือสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรีhttps://www.facebook.com/tat.kanchanaburi
เส้นทางการเดินทาง : จากตัวเมืองจังหวัดกาญจนบุรี ขับรถตามทางหลวงหมายเลข323 เส้นทางมุ่งหน้าไปอำเภอทองผาภูมิประมาณ 16 กิโลเมตรจะถึงสามแยกพุทโธ ให้เลี้ยวขวาไปประมาณ 12 กิโลเมตร จะเห็นทางแยกเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำคลองงูระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตรแล้ว
โดยรวมใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู (หน่วยพิทักษ์เขาพระอินทร์) ใช้เวลาโดยประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าๆ สำหรับใครที่ต้องการเดินทางมาพิสูจน์ใจในเส้นทางการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ต้องวางแผนและเตรียมพร้อมร่างกายกันมาพอสมควร
ช่วงเวลาท่องเที่ยว ณ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู : นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ยกเว้น ถ้ำเสาหิน เหมาะกับการเที่ยวฤดูร้อนมากที่สุด
นักท่องเที่ยว นักสำรวจเส้นทาง ลำคลองงู ควรแต่งตัวอย่างไร
ควรการแต่งกายให้เหมาะสมกับกิจกรรมและสถานที่ นับได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญส่วนหนึ่งที่จะช่วยการเดินทางของเรามีความปลอดภัยและสะดวกสบายเหมาะกับกิจกรรมในสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ
1 เสื้อที่สวมใส่ต้องรัดกุม (เป็นเสื้อแขนสั้นหรือยาวก็ได้ แต่ทางเราแนะนำเป็นเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว) และไม่อมน้ำ
2. รองเท้าหุ้มส้นหรือหุ้มข้อที่ไม่อมน้าและมีดอกยางยึดเกาะพื้นไม่ให้ลื่นล้มง่ายๆ ไม่ใส่รองเท้าแตะที่มีสายรัดส้นหรือรองเท้าแตะธรรมดา ระหว่างทางเดินแต่ละจุดจะมีความชันและเส้นทางที่ต้องใช้ความระมัดระวังหลาย ๆ จุด รองเท้าจึงสำคัญ
3. ต้องเตรียมไฟฉายคาดศีรษะขนาดพอเหมาะเพราะ ภายในถ้ำเสาหินมืดมาก และมือต้องใช้สาวเชือกว่ายน้ำในบางช่วงของถ้ำ แนะนำไฟฉายที่มีความสว่างตั้งแต่ 80 lumains ขึ้นไป
4. ต้องสวมใส่ชูชีพทุกครั้ง ในระหว่างอยู่ในน้ำ ในถ้ำ และจุดใกล้น้ำ
5. ควรมีเป้สะพายหลังแบบกันน้าได้ขนาดพอเหมาะใส่อุปกรณ์ต่างๆ ทั้งนี้ควรคำนึงถึงความคล่องตัวขณะเดินทางของแต่ละท่านด้วย
เกร็ดรายละเอียดการท่องเที่ยว ลำคลองงู
ควรสอบถามรายละเอียดการจองทริป และการเตรียมพร้อมก่อนเดินทางมาท่องเที่ยว รวมถึงกฎกติกา ในการเข้ามาท่องเที่ยว ณ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ก่อนทุกครั้ง และที่สำคัญใครนำขยะเข้ามาในอุทยานฯ ควรนำกลับไปทิ้งนอกอุทยานฯ หรือหาที่ทิ้งขยะให้เหมาะสม ร่วมกันปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ป่า อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit