กสอ. โชว์ศักยภาพคลัสเตอร์เครื่องสำอาง เน้นพัฒนาอย่างครบวงจร หวังสร้างแบรนด์ไทยติดลมบนตลาดสากล

30 Apr 2019
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โชว์ศักยภาพการส่งเสริม และพัฒนาผู้ประกอบการกลุ่มคลัสเตอร์เครื่องสำอาง ต้นแบบการรวมกลุ่มอย่างเข้มแข็ง เน้นสร้างแบรนด์ ของตนเองและการพัฒนาอย่างครบวงจร หวังเป็นที่ยอมรับในตลาดสากล พร้อมชี้มูลค่าส่งออกเครื่องสำอางไทย ปี 61 สูงกว่า 94,200 ล้านบาท เล็งพัฒนาต่อเนื่องรองรับการเติบโตตลาดโลก
กสอ. โชว์ศักยภาพคลัสเตอร์เครื่องสำอาง เน้นพัฒนาอย่างครบวงจร หวังสร้างแบรนด์ไทยติดลมบนตลาดสากล

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า การพัฒนาผู้ประกอบการ ให้มีศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันมีหลายวิธี ซึ่งการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมในรูปแบบคลัสเตอร์ นับเป็นเครื่องมือที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถเพิ่มผลิตภาพและนวัตกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรมซึ่งที่ผ่านมา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) มีการพัฒนาการรวมกลุ่มมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2549 จนเกิดเป็นคลัสเตอร์ในสาขาอุตสาหกรรมต่าง ๆ แล้วมากกว่า 90 กลุ่ม โดยคลัสเตอร์เครื่องสำอาง นับเป็นอีกหนึ่งต้นแบบของการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง ทั้งนี้ จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ พบว่ามูลค่าการส่งออกเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิวของประเทศไทยไปต่างประเทศ ในปี พ.ศ. 2561 มีมูลค่าสูงกว่า 94,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2560 เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนหลักจากพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่ให้ความใส่ใจเกี่ยวกับสุขภาพ ความงาม และผิวพรรณ ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าปี พ.ศ. 2562 ธุรกิจดังกล่าวยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงนับเป็นโอกาสของผู้ประกอบการเครื่องสำอางไทยที่จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดสากลได้มากขึ้น

"กสอ. จึงได้ขับเคลื่อนให้เกิดการสร้างและพัฒนาคลัสเตอร์ครื่องสำอางไทย ด้วยการส่งเสริมกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาการรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม มาตั้งแต่ปี 2558 ปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้น มากกว่า 30 ราย โดยมีการส่งเสริมและพัฒนาอย่างครบวงจร ทั้งในด้านกระบวนการผลิต การตลาด การจัดทำมาตรฐาน รวมถึงการขยายช่องทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสมาชิกกลุ่มคลัสเตอร์ดังกล่าว แม้จะเป็น SMEs แต่ก็สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกันในปี 2561 ได้กว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ สมาชิกของกลุ่มฯ ยังมีการเชื่อมโยงกับองค์กรภายนอก ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเชื่อมโยงทางการค้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเชื่อมโยงกับ ช็อปแชแนล (SHOP Channel) ภายใต้เครือสหพัฒน์ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดโดยตรงสู่ผู้บริโภค การร่วมกับมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดหลักสูตรการพัฒนาผู้ประกอบการเครื่องสำอางโดยเฉพาะ และการจัดงานประกวดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไทย (THAILAND Cosmetic Contest) รวมถึงการสร้างแบรนด์ TCOSภายใต้กลุ่มฯ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น จนสามารถผลิตสินค้าได้อย่างสร้างสรรค์ มีมาตรฐาน และมีแบรนด์เป็นของตนเอง อีกทั้งยังสามารถสร้างชื่อเสียง สร้างความเชื่อมั่น และการยอมรับในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของไทยในตลาดสากลมากขึ้น

สำหรับกิจกรรมแสดงสินค้าเครื่องสำอางไทย "DIP Best Beauty 2019" ในวันนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 29 เมษายน - 3 พฤษภาคม 2562 เพื่อแสดงศักยภาพของคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย และผู้ประกอบการสมาชิกกลุ่มคลัสเตอร์เครื่องสำอางที่ได้รับการพัฒนาผ่านโครงการของ กสอ. ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และการสร้างตราสินค้า นำมาจำหน่ายในราคาพิเศษ รวมทั้งสิ้น 50 ราย อันจะส่งผลดีต่อการสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของไทยให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับ

ตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการให้บริการเสริมความงามด้านต่าง ๆ อาทิ การตกแต่งทรงผม นวดหน้า ต่อขนตา และทำเล็บ ตลอดจนการสอนเทคนิคการแต่งหน้า และการดูแลสุขภาพความงาม โดยกูรูผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านตลอดงาน อีกทั้งบริเวณด้านนอกอาคารยังได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายธุรกิจ Food Truck นำอาหารนานาชนิดมาจำหน่ายหมุนเวียนตลอดการจัดงานทั้ง 5 วัน ทั้งนี้ คาดว่าจะมีเงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท และมียอดคำสั่งซื้อตามมาอีกไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท นายกอบชัย กล่าวทิ้งท้าย

กสอ. โชว์ศักยภาพคลัสเตอร์เครื่องสำอาง เน้นพัฒนาอย่างครบวงจร หวังสร้างแบรนด์ไทยติดลมบนตลาดสากล กสอ. โชว์ศักยภาพคลัสเตอร์เครื่องสำอาง เน้นพัฒนาอย่างครบวงจร หวังสร้างแบรนด์ไทยติดลมบนตลาดสากล กสอ. โชว์ศักยภาพคลัสเตอร์เครื่องสำอาง เน้นพัฒนาอย่างครบวงจร หวังสร้างแบรนด์ไทยติดลมบนตลาดสากล