นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทมีความพร้อมที่จะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD)ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเภท Solar Farm ที่จังหวัดฟูเยี้ยน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จำนวน 2 โครงการ ได้ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 โดยโครงการดังกล่าวมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 110.03 เมกะวัตต์ สัญญาซื้อขายไฟฟ้า มีระยะเวลาขายไฟฟ้าให้กับ Electricity of Vietnam ("EVN") เป็นเวลา 20 ปีในอัตรารับซื้อไฟฟ้า (Feed in Tariffหรือ FIT) ที่ 0.0935 ดอลลาร์ต่อหน่วย
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการคูริฮาร่า 2 ดำเนินการโดย Kurihara GK ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EPCO ถือหุ้น 98% เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 17.25 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่เขตพื้นที่คูริฮาร่า จังหวัดมิยากิ ประเทศญี่ปุ่น โดยได้รับหนังสือแจ้งผลการพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจาก Tokoku โดยมีระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปีในระบบFit ซึ่งราคาขายไฟฟ้าอยู่ที่ 36 เยนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงคงที่ตลอดอายุสัญญา และคาดว่าจะCOD ภายในเดือนตุลาคม 2562
ประธานกรรมการกล่าวว่า ในส่วนของรายได้จากธุรกิจโรงพิมพ์ และบรรจุภัณฑ์มีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากได้เข้าไปลงทุนซื้อหุ้นของ บริษัทดับบลิวพีเอส (WPS) ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงพิมพ์ และที่ผ่านมา ยังคงมีการเติบโตสามารถสร้างรายได้ดี ขณะที่บริษัทฯอยู่ระหว่างเพิ่มศักยภาพของธุรกิจการพิมพ์ โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตกล่องลูกฟูกได้ตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2562 เป็นต้นไป ดังนั้นจะช่วยให้บริษัทมีรายได้ธุรกิจโรงพิมพ์เพิ่มขึ้นเท่าตัว
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมั่นใจว่าภาพรวมการเติบโตปีนี้ ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่ารายได้รวมทั้งปีจะเติบโตแตะระดับ 50%ทุบสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง เนื่องจากธุรกิจสิ่งพิมพ์และธุรกิจโรงไฟฟ้ามีแนวโน้มที่ดี ขณะเดียวกันล่าสุดบริษัทฯรายงานผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส1/62 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 46.78 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 302.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.23%จากงวดเดียวกันปีก่อน 241.93 ล้านบาท เนื่องจากบริษัท ดับบลิวพีเอส(ประเทศไทย) หรือ WPS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่EPCOถือหุ้น 84.50%มีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit