KTAMแนะลงทุนทองคำรับมือสงครามการค้ายืดเยื้อ

14 May 2019
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน ) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ สหรัฐปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจาก10% เป็น 25% เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้จีนตอบโต้โดยการพิจารณาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ จำนวนกว่า 5,000 รายการ โดยมูลค่ารวมประมาณ 60,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป นั้น ทางฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ มีความเห็นว่า ในช่วงเวลานี้ การสะสมทองคำควรมีไว้บ้างในพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงที่เฟดยังไม่มีนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยบริษัทขอเสนอกองทุนเปิดเคแทม โกลด์ ฟันด์ ( KT-Gold ) ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของ SPDR Gold Trust เน้นลงทุนในทองคำแท่งเพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ โดยผลการดำเนินงาน กองทุน KT-Gold ณ วันที่ 30 เมษายน 2562 YTD ( 2 ม.ค.-30เม.ย.62) อยู่ที่ -0.66 % ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 3.27 % และ ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -5.48% เทียบกับ Banchmark ( LBMA Gold Price AM USD ( THB ) YTD อยู่ที่ -0.88% 6 เดือนอยู่ที่ 1.31% และ1 ปี อยู่ที่ -1.05%
KTAMแนะลงทุนทองคำรับมือสงครามการค้ายืดเยื้อ

ส่วนอีกกองทุนที่น่าสนใจเกี่ยวข้องกับทองคำเช่นกัน คือกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ โกลด์ แอนด์ เพรเชียส เอคควิตี้ ( KT-Precious ) ลงทุนในกองทุน Franklin Gold and Precious Metals Fund เน้นลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับทองคำ และโลหะมีค่า เช่น แพลทินัม พาลาเดียม และเงิน เป็นหลัก โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 เมษายน 2562 YTD อยู่ที่ 1.02% 6 เดือน อยู่ที่ 5.64% และ1 ปี อยู่ที่ -8.64% เทียบกับ Benchmark ( FTSE Gold Mines Index USD (THB ) YTD อยู่ที่ -0.96% 6 เดือนอยู่ที่ 6.71% และ1 ปี อยู่ที่ -4.59%

อีกหนึ่งกลุ่มที่น่าสนใจ ถึงแม้เผชิญแรงกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว โดยสิ้นวันที่ 13 พฤษภาคม ผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ3เดือน อยู่ที่ 2.41% สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งอยู่ที่ 2.40% ทั้งนี้ คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ น่าจะส่งสัญญาณในเชิงผ่อนคลายออกมาเพื่อประคองตลาด จึงคาดว่าหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์น่าจะปรับตัวขึ้นได้ หากนักลงทุนที่สนใจ สามารถลงทุนผ่านกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ฟันด์ ( KT-Finance ) ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Fidelity Funds- Global Financial Services Fund เน้นลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมการให้บริการทางด้านการเงิน มีนโยบายที่จะสร้างผลตอบแทนระยะยาว จากการลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านการเงินแก่ผู้บริโภค และภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก ผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 เมษายน 2562 YTD อยู่ที่ 8.50% 6 เดือนอยู่ที่ 9.59% และ1 ปี อยู่ที่ -6.69% เมื่อเทียบกับ Benchmark (MSCI South East Asia Index NR USD ( THB ) YTD อยู่ที่ 15.99% 6 เดือน 7.17% และ1 ปี อยู่ที่ 3.81% เมื่อเทียบกับ Benchmark ( MSCI ACWI Financials Net TR USD Index ) YTD อยู่ที่ 14.11 % 6 เดือนอยู่ที่ 3.67% และ1 ปี อยู่ที่ -1.24 %

นอกจากนี้ นักลงทุนบางคนอาจจะกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าว่าจะยืดเยื้อใช้เวลาอีกนาน กว่าจะตกลงกันได้ การลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนก็มีความน่าสนใจ เพราะหลายประเทศในกลุ่มนี้ เป็นเป้าหมายการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ซึ่งประเด็นนี้น่าจะช่วยชดเชยปัจจัยลบจากบรรยากาศสงครามการค้าสหรัฐ-จีน และน่าจะทำให้หุ้นอาเซียน ทนต่อปัจจัยเสี่ยงสงครามการค้า เหนือกว่าหุ้นในตลาดอื่นๆ หากนักลงทุนที่สนใจจะมีกองทุนดังกล่าวไว้ในพอร์ต บริษัทจึงขอแนะนำกองทุนเปิดเคแทม อาเซียน อิควิตี้ ฟันด์ ( KT-ASEAN ) ลงทุนในหน่วยลงทุนของ JP Morgan Funds- ASEAN Equity Fund เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนของบริษัท ที่มีภูมิลำเนา หรือมีผลการดำเนินงานหลักของบริษัทมาจากประเทศที่เป็นสมาชิกในกลุ่มอาเซียน โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 30 เมษายน 2562 YTD อยู่ที่ 8.50% 6 เดือนอยู่ที่ 9.59% 1 ปี อยู่ที่ -6.69% เมื่อเทียบกับ Benchmark (MSCI South East Asia Index NR USD ( THB ) YTD อยู่ที่ 6.52% 6 เดือนอยู่ที่ 6.35% และ1 ปี อยู่ที่ -2.85 %

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : สำนักส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร โทร 0-2686-6206-7