ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้มีความร่วมมือกับ National Institute of Technology (สถาบันโคเซ็น) ประเทศญี่ปุ่น โดยได้ลงนามความร่วมมือมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 และปี พ.ศ. 2559 สอศ.และสถาบันโคเซ็น ได้ร่วมกันจัดตั้ง สถาบันเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ไทย – ญี่ปุ่นโคเซ็น (Japanese – Thai KOSEN Institute of Engineering and Technology) ณ สอศ.กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนประเภทวิชาอุตสาหกรรม ในการสร้างกำลังคนคุณภาพรองรับผู้ประกอบการญี่ปุ่นในประเทศไทย โดยในปีการศึกษา 2562นี้ ได้เปิดรับสมัครนักเรียนในหลักสูตรตามมาตรฐานโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่นใน 2 สถานศึกษา 2 สาขาวิชา ได้แก่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี)ในสาขาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และวิทยาลัยเทคนิคสุรนารี ในสาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ โดยผู้สมัครเรียนจะต้องจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม.3) มีเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป ซึ่งมีนักเรียนให้ความสนใจและสมัครเข้าสอบคัดเลือกเป็นจำนวนมาก โดยเกณฑ์การสอบคัดเลือกแบ่งเป็นการสอบข้อเขียน 70 % ประกอบด้วยวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์) และภาษาอังกฤษ ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน KOSEN และการสอบสัมภาษณ์ 30% ประกอบด้วย การนำเสนอแฟ้มสะสมผลงาน การวัดทักษะทางวิศวกรรมและเทคโนโลยี และบุคลิกภาพ ดำเนินการโดยสถานศึกษา โดยนักเรียนที่สอบผ่านจะต้องมีความรู้ความสามารถตรงกับคุณสมบัติมาตรฐานของโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในปีการศึกษา 2562 นี้ มีนักเรียนที่สอบผ่านและรายงานตัวเข้าศึกษาแล้ว จำนวน 31 คน แบ่งเป็น วิทยาลัยเทคนิคสุรนารี จำนวน 15 คน และวิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี) จำนวน 16 คน ทั้งนี้ สอศ.และสถาบันโคเซ็น ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ได้แก่ การประชุมวางแผนการจัดการเรียนการสอนตามมาตรฐานญี่ปุ่น การอบรมพัฒนาครูตามมาตรฐานญี่ปุ่น และการอบรมนักเรียนเพื่อปรับพื้นฐานวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่น เป็นวิทยากรทั้งหมด
ดร.เคนจิ ฮิกะชิดะ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร National Institute of Technology สถาบัน KOSEN ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า มีความยินดีและภูมิใจที่ได้มาร่วมพิธีเปิดหลักสูตรอาชีวะพรีเมี่ยม ปวส.ต่อเนื่อง 5 ปี สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์และวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ในนามของสถาบันโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง ปีนี้เป็นปีที่ 2 ขอต้อนรับนักศึกษาใหม่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะได้รับความรู้และทักษะตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมไทย และขอย้ำว่าหลังจบการศึกษา สถาบันโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่น จะพยายามให้นักเรียนได้มีงานทำเท่าๆกับโอกาสในการฝึกงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากบริษัทญี่ปุ่นซึ่งมีความร่วมมือกับสอศ. และสถานศึกษา และขอแนะนำให้นักเรียนตั้งใจเรียนตามหลักสูตร และควรฝึกภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติมด้วย ซึ่งทักษะการสื่อสารภาษาญี่ปุ่น จะเป็นจุดสนใจที่บริษัทญี่ปุ่นต้องการจ้างงานด้วย
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า สอศ. มีความพร้อมอย่างยิ่งใน การจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ต่อเนื่อง 5 ปี) สาขาวิชาวิศวกรรม เมคคาทรอนิกส์และสาขาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานโคเซ็น ประเทศญี่ปุ่นโดยตั้งเป้าหมายว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า สอศ.จะมีช่างฝีมือคุณภาพมีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และมีสมรรถนะสูง ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และตอบสนองนโยบาย Thailand 4.0
นางสาวชนากานต์ ซื้อสุวรรณ นักศึกษาชั้นปีที 2 หลักสูตรปวส.ต่อเนื่อง 5 ปี สาขาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สาขางานหุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโลยีฐานวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า ตนเลือกเรียนสาขาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์นี้เพราะว่าชอบวิชาคณิตศาสตร์ และฟิสิกส์ ประกอบกับมองว่าตลาดแรงงานหรือในอนาคตจะใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรม แทนการใช้แรงงานคน คนก็จะตกงานมากขึ้น แต่ถ้าเรามีความรู้ความสามารถในการควบคุมหุ่นยนต์ เราก็จะมีโอกาสในอนาคตมากกว่าคนอื่นๆ และสาขาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์นี้ก็สามารถพัฒนาต่อยอดได้ในหลาย ๆ ด้าน เป็นสาขาที่ไปเรียนต่อในสาขาอื่นได้อีกด้วย ทั้งนี้ เป้าหมายในอนาคตหลังเรียนจบ วางแผนไว้ 2 ทาง คือ อยากเป็นวิศวกรการบิน เนื่องจากชอบเครื่องบิน และวิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี)ได้นำสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ จึงเป็นแรงจูงใจทำให้อยากไปทำงาน แต่หากไม่ได้เป็นวิศวกรการบิน ก็จะเป็นวิศวกรอิเล็กทรอนิกส์ ทำงานเกี่ยวกับการควบคุมหุ่นยนต์ตามโรงงานอุตสาหกรรม