AIRA ส่องการลงทุน เม.ย.ยังคงผันผวน วอลุ่มซื้อขายเบาบาง แนะ 7 หุ้นเด่น BGRIM - BCH – STEC - PTTEP - CBG - ADVANC – TSR น่าลงทุน

           บล.ไอร่า ประเมินทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ช่วงเดือนเมษายนนี้ ยังคงมีความผัวผวน เนื่องจากติดวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ อาจส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเบาบาง-อาจชะลอการลงทุนบ้างเล็กน้อย แต่ในทางกลับกันยังมีปัจจัยบวกหนุน ที่อาจจะมีการเข้ามาเก็งกำไร ผลประกอบการQผลประกอบการ/ตลาดหุ้นไทย56ตลาดหุ้นไทย ของกลุ่มบริษัทจดทะเบียน พร้อมส่งซิก แนะ 7 หุ้นน่าลงทุน BGRIM - BCH – STEC - PTTEP - CBG - ADVANC – TSR 
          ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA ประเมินแนวโน้มการลงทุน ในช่วงเดือนเมษายนนี้ ว่า ทิศทางการลงทุนตลาดหุ้นไทย ยังมีความผันผวน ต้องยอมรับว่ามูลค่าการซื้อขายในเดือนนี้ อาจเบาบาง และมีโอกาสชะลอลงทุน เพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากช่วงวันหยุดยาวกลางเม.ย. แต่ในขณะเดียวกันยังคงมีปัจจัยบวก ที่ยังคงน่าจับตาเช่นเดียวกัน เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาสผลประกอบการ/ตลาดหุ้นไทย56ตลาดหุ้นไทย ที่คาดว่า ภาพรวมจะออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับทิศทางราคาน้ำมัน ยังได้รับปัจจัยหนุนจากแผนลดการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน และ เวเนซูเอลา ทำให้ภาวะตลาดน้ำมันตึงตัว ทำให้ส่งผลดีต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน
          นอกจากนี้ ยังให้น้ำหนักประเด็นกรณีการทางการเมือง โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งคาดชัดเจนหลังประกาศผลเลือกตั้ง อย่างเป็นทางการ ภายในวันที่ 9 พฤษภาคม ตลาดหุ้นไทย56ตลาดหุ้นไทย ดังนั้น มองว่า หากมีความชัดเจนในกรณีดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อ Sentiment ตลาด ด้านตลาดทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากจะมีเสถียรภาพทางการเมือง ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งก็จะส่งผลให้ Fund Flow มีโอกาสไหลกลับอย่างชัดเจนอีกครั้ง 
          "กรอบสัญญาทางเทคนิค ทางวิจัยมองว่า หลังเดือนมีนาคม SET เคลื่อนไหว Sideway ระหว่าง ผลประกอบการ,6ผลประกอบการ5 – ผลประกอบการ,646 จุด และได้ทำ Double Bottom เมื่อดัชนีหลุด ผลประกอบการ,6ตลาดหุ้นไทยบริษัทหลักทรัพย์ จุด ถึง ตลาดหุ้นไทย ครั้ง และสามารถดีดกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นที่บริเวณ ผลประกอบการ,6ผลประกอบการ5 จุด จะมีนัยสำคัญมาก เพราะหากหลุดไปจะเป็นสัญญาณขาย ที่มี Target ถัดไปที่ผลประกอบการ,58บริษัทหลักทรัพย์ จุด เป็นอย่างน้อย แต่หาก Break ผลประกอบการ,646 จุด จะมีแนวต้าน Double Top ถัดไปที่ ผลประกอบการ,68บริษัทหลักทรัพย์ จุด ซึ่งเป็นจุดที่มีนัยสำคัญมากเช่นกัน เพราะหาก Break ได้จะเป็นสัญญาณซื้อขนาดใหญ่ที่มี Target ถึง ผลประกอบการ,75บริษัทหลักทรัพย์ จุดเป็นอย่างน้อย"
          พร้อมกันนี้ ทางฝ่ายวิจัย ยังคงแนะนำกลยุทธ์ลงทุน ในหุ้นที่น่าลงทุน โดยให้น้ำหนักไปยังกลุ่มโรงไฟฟ้า แนะนำ BGRIM และกลุ่มโรงพยาบาล แนะนำ BCH เนื่องจากมองว่าหุ้นในกลุ่มดังกล่าวมีผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตสม่ำเสมอ แม้เศรษฐกิจมีความผันผวน 
          นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากโครงการต่างๆ ที่ทยอยเปิดประมูล พร้อมคาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากแผนการลงทุนต่อเนื่องใน ตลาดหุ้นไทยH/6ตลาดหุ้นไทย ของรัฐบาลชุดใหม่ เช่น STEC เป็นต้น ในขณะที่กลุ่มพลังงาน แนะนำ PTTEP โดยคาดว่ายังได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการ ผลประกอบการQ/6ตลาดหุ้นไทย มีแนวโน้มดีขึ้น qoq คาดไม่มี Stock loss เช่นเดียวกับ 4Q/6ผลประกอบการ หลังราคาน้ำมันเฉลี่ยเพิ่มขึ้น และกลุ่มที่มีความน่าสนใจทั้งจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มกลับมาเติบโต อาทิ CBG และหุ้นที่มีการจ่ายปันผลเป็นประจำ เช่น ADVANC (Div.Yield ประมาณ 4.บริษัทหลักทรัพย์%) และ TSR (Div.Yield ประมาณ 8.บริษัทหลักทรัพย์%) เป็นต้น
          อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายวิจัย ยังแนะนำให้นักลงทุน จับตาปัจจัยต่างประเทศที่คาดว่าจะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวแปรด้านการลงทุน โดยเฉพาะความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจ ทั้งจากตัวเลขเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศ และติดตาม Inverted yield curve ที่เป็น ผลประกอบการ สัญญาณแสดงถึงแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในอีก ผลประกอบการตลาดหุ้นไทย หรือ ตลาดหุ้นไทย4 เดือนข้างหน้า ขณะที่คาดยังมีความไม่แน่นอนทั้งต่อ ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และ ประเด็น Brexit ขณะที่การประชุมเฟด ที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 3บริษัทหลักทรัพย์/4/6ตลาดหุ้นไทย – ผลประกอบการ/5/6ตลาดหุ้นไทย ที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นไปตามการส่งสัญญาณก่อนหน้าชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้