การกระจายหุ้นสามัญดาวได้เสร็จสมบูรณ์หลังจากปิดตลาด โดยผู้ที่ถือหุ้นสามัญดาวดูปองท์จำนวนสามหุ้นได้รับหุ้นสามัญดาวจำนวนหนึ่งหุ้น ซึ่งยึดตามวันปิดสมุดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 นอกจากนี้ ผู้ที่ถือหุ้นดาวดูปองท์ไม่เต็มจำนวนก็จะได้รับเงินสดตามมูลค่าหุ้นดาวเช่นกัน ทั้งนี้ ในวันที่ 2 เมษายน 2562 จะเริ่มทำการซื้อขายหุ้นสามัญดาวในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ภายใต้ชื่อ "DOW" และจะเข้าร่วมดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA)
นายจิม ฟิทเทอร์ลิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดาว เปิดเผยว่า "การปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ถือเป็นปฐมบทที่น่าตื่นเต้นสำหรับ ดาว การเปลี่ยนแปลงพอร์ตโฟลิโอ โครงสร้างต้นทุน และแนวความคิด ถือเป็นสิ่งสำคัญ ดาวในรูปโฉมใหม่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจให้มีความคล่องตัวมากขึ้นและมีแบบแผนที่ชัดเจน เพื่อสร้างการเติบโตของผลกำไรในระยะยาวและสร้างมูลค่าให้กับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทีมงานดาวมีส่วนสำคัญที่จะร่วมขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทด้านวัสดุศาสตร์ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม การเอาใจใส่ต่อลูกค้า ให้ความสำคัญกับความแตกต่าง และดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน เรามีเครื่องมือที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และคำนึงถึงการลงทุนที่เหมาะสม ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างการเติบโต มูลค่าผลตอบแทน และมูลค่าผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้น"
นายโฮเวิร์ด อันเกอร์ไลด์เดอร์ ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน กล่าวว่า "ความสำเร็จในครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างลูกค้า ชุมชน นักลงทุน และทีมงานดาว ด้วยโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ที่ชัดเจน โครงสร้างต้นทุน วินัยในการจัดสรรเงินทุน และกรอบการทำงานที่เน้นผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นดาว ดาว จึงมีความพร้อมในการขับเคลื่อนผลการดำเนินงานทั้งด้านการผลิตและทางการเงินที่ดีที่สุด"
ทั้งนี้ บริษัทใหม่ยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ "Dow" (ดาว) ซึ่งดำเนินงานมาอย่างยาวนานและจะยังคงพัฒนาโซลูชั่นในฐานะผู้นำด้านวัสดุศาสตร์ ดาว ได้นำเสนอแบรนด์ไลน์ "Seek Together" (ก้าวไปด้วยกัน) ที่เน้นถึงการสร้างคุณค่าในการทำงานร่วมกันเพื่อส่งมอบนวัตกรรมและโซลูชั่นให้กับลูกค้าและทุกฝ่ายในห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งสื่อถึงแนวทางที่ ดาว มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่มเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ สัญลักษณ์ ดาว ไดมอนด์ ซึ่งอยู่คู่บริษัท มายาวนานกว่า 120 ปี จะไม่เปลี่ยนแปลงและจะยังคงเป็นองค์ประกอบหลักของแบรนด์ต่อไป
ดาว เริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2510 ปัจจุบันมีพนักงานประมาณ 1,000 คน มีโรงงานดำเนินการผลิต 15 โรงงาน ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย ส่งมอบผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่เน้นเทคโนโลยีสำหรับลูกค้าในตลาดที่มีอัตราเติบโตสูง เช่น บรรจุภัณฑ์ โครงสร้างพื้นฐาน และผลิตภัณฑ์ดูแลผู้บริโภค ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดาว มีฐานการผลิตทั้งสิ้น 21 แห่งใน 10 ประเทศ และมียอดขายสุทธิจำนวน 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ. 2561
"ตลอดระยะเวลา 52 ปีที่ ดาว ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราได้สร้างความสำเร็จทางธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทยผ่านการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมและการดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาชุมชนต่าง ๆ เพื่อให้ทุกภาคส่วนเติบโตไปพร้อม ๆ กันอย่างยั่งยืน และในวันนี้ ดาว กำลังก้าวสู่บทใหม่ที่พร้อมจะร่วมมือกับลูกค้าของเรา พันธมิตรทางการค้า และทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ไม่เพียงตอบสนองความต้องการของตลาดแต่ยังช่วยนำพาสังคมของเราไปสู่ความยั่งยืนอีกด้วย" นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวทิ้งท้าย
เกี่ยวกับ 'ดาว'
บริษัท ดาว (NYSE: DOW) ผสานพลังของเทคโนโลยีที่มีความหลากหลายที่สุดในภาคอุตสาหกรรมเข้ากับการบูรณาการด้านการผลิต นวัตกรรมเฉพาะด้าน และการดำเนินธุรกิจระดับโลก เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจและก้าวสู่การเป็นบริษัทด้านวัสดุศาสตร์ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม การเอาใจใส่ต่อลูกค้า ให้ความสำคัญกับความแตกต่าง และดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน ด้วยพอร์ตโฟลิโอทั้งในด้านวัสดุประสิทธิภาพสูง สารตัวกลางในอุตสาหกรรม และธุรกิจพลาสติกที่ครบวงจรและเน้นการตอบสนองตลาดเป็นหลัก ดาวจึงพร้อมที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่เน้นเทคโนโลยีซึ่งมีให้เลือกหลากหลายสำหรับลูกค้าในตลาดที่มีอัตราเติบโตสูง เช่น บรรจุภัณฑ์ โครงสร้างพื้นฐาน และผลิตภัณฑ์ดูแลผู้บริโภค ดาว มีฐานการผลิต 113 แห่งใน 31 ประเทศ มีพนักงานประมาณ 37,000 คน และมียอดขายประมาณ 50 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ. 2561 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม www.dow.com หรือติดตาม @DowNewsroom บน Twitter
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit