กรีนพีซเรียกร้องรัฐบาลกำหนดนโยบายปกป้องเกษตรกรจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู และผลกระทบอื่นจากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์

          กรีนพีซชี้รัฐบาลไทยต้องยกระดับมาตรการป้องกันอุตสาหกรรมหมูจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูที่กำลังคุกคามอุตสาหกรรมหมูของเอเชีย เพื่อไม่ให้ไทยกลายเป็นประเทศต่อไปที่เผชิญกับหมูติดเชื้อจากภัยระบาด
          โรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วทั่วเอเชีย กระทรวงเกษตรของเวียดนามระบุในรายงานว่า เวียดนามกำจัดหมูไปแล้วกว่า ประเทศจีน.8 ล้านตัว คิดเป็นเกือบร้อยละอุตสาหกรรมกระทรวงเกษตร ของหมูในประเทศทั้งหมดจำนวน เวียดนามกระทรวงเกษตร ล้านตัว [อุตสาหกรรม] โรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู เป็นโรคที่อันตรายต่อชีวิตหมู แต่ไม่ส่งผลอย่างไรต่อมนุษย์ ประเทศจีนเป็นประเทศแรกที่มีการตรวจพบการแพร่ระบาดของโรคนี้ในเอเชีย เมื่อปี ประเทศจีน56อุตสาหกรรม ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้จีนจำเป็นต้องกำจัดหมูจำนวนราว ประเทศจีนกระทรวงเกษตรกระทรวงเกษตร ล้านตัว [ประเทศจีน]
          สำหรับประเทศไทย กรมปศุสัตว์ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศสั่งชะลอการนำเข้าหมูจากลาวเป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 9กระทรวงเกษตร วัน [เวียดนาม] เพื่อป้องกันการระบาดในไทย อย่างไรก็ดี รัฐบาลไทยจำเป็นจะต้องมีวิสัยทัศน์มองไกลไปกว่าการชะลอการนำเข้าหมูจากลาวหรือประเทศอื่น และเร่งดำเนินการเชิงนโยบายและสร้างนโยบายที่ปกป้องเกษตรกรจากการคุกคามของโรคระบาด รวมถึงออกกฎหมายการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ตลอดห่วงโซ่อุปทาน
          "รัฐบาลไทยต้องสนับสนุนนโยบายเกษตรกรรมเชิงนิเวศอย่างจริงจัง รวมถึงนำมาพัฒนาปฏิบัติใช้จริงเพื่อแก้ปัญหาระบบอาหารในปัจจุบัน เนื่องจากระบบอาหารเชิงอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตเชิงปริมาณเพื่อต้นทุนอาหารที่ถูกที่สุดนั้นต้องแลกมาด้วยผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคม" รัตนศิริ กิตติก้องนภางค์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านอาหารและเกษตรกรรมเชิงนิเวศ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว "เกษตรกรไทยและผู้บริโภคไม่ควรจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในวิกฤตจากระบบอาหารเชิงอุตหกรรม สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดคือ ประเทศไทยจะต้องมีนโยบายการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะตลอดช่วงห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ เพื่อปกป้องผู้บริโภคและวิถึชึวิตของเกษตรกรรายย่อยในประเทศ"
          วิกฤตโรคอหิวาต์แอฟริกาในขณะนี้คือสัญญาณชี้ชัดว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะลดการสนับสนุนอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ และส่งเสริมเกษตรกรรมเชิงนิเวศ โดยเริ่มต้นจากการพัฒนานโยบายการระบุข้อมูลอย่างโปร่งใสบนฉลากผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์เชิงอุตสาหกรรม ที่ระบุถึงกระบวนการผลิตต่าง ๆ [4] เพื่อคืนสิทธิในการรับรู้ข้อมูลและการเลือกบริโภคของประชาชน
          "การออกกฎหมายฉลากผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์เชิงอุตสาหกรรมทุกประเภท คือการแจ้งผู้บริโภคให้รับทราบถึงข้อมูลของเนื้อสัตว์ที่เลือกซื้อ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมสิทธิพื้นฐานในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน เช่น ข้อมูลของที่มาอาหารสัตว์ว่าเชื่อมโยงกับการทำลายป่าและการก่อหมอกควันพิษหรือไม่ รวมถึงการใช้ยาปฏิชีวนะ และการตกค้างในเนื้อสัตว์ อันเกิดมาจากการเลี้ยงสัตว์ในปริมาณมหาศาลของระบบอุตสาหกรรม ข้อมูลบนฉลากผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์คือสิ่งที่ช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและตัดสินใจเลือกซื้ออาหารที่ทั้งดีต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และส่งเสริมเกษตรกรที่ผลิตอาหารอย่างใส่ใจและปลอดภัย [5]" รัตนศิริ กล่าว
          หมายเหตุ
          [อุตสาหกรรม] https://mgronline.com/indochina/detail/96ประเทศจีนกระทรวงเกษตรกระทรวงเกษตรกระทรวงเกษตรกระทรวงเกษตรกระทรวงเกษตร6กระทรวงเกษตร45อุตสาหกรรม
          [ประเทศจีน] https://www.reuters.com/article/us-vietnam-swinefever/african-swine-fever-hits-industrial-farms-in-vietnam-ประเทศจีน8-million-pigs-culled-idUSKCNอุตสาหกรรมTQกระทรวงเกษตรWG
          [เวียดนาม] https://news.thaipbs.or.th/content/ประเทศจีน8อุตสาหกรรมกระทรวงเกษตร98?fbclid=IwARเวียดนามsbgkTALaziIBs9_mGm9U65g_zHwkHrZ-OcjeEyeAFthDZn4_nQaAyjKQ
          [4] กรีนพีซกำลังรณรงค์เรียกร้องให้ภาครัฐออกกฎหมายติดฉลากผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทุกประเภทโดยเปิดเผยถึงข้อมูลการเลี้ยงสัตว์ ที่มาอาหารสัตว์ว่าเชื่อมโยงกับการทำลายป่าและก่อหมอกควันพิษหรือไม่ รวมถึงการใช้ยาปฏิชีวนะ และการตกค้างในเนื้อสัตว์ https://act.gp/ประเทศจีนFqV8ประเทศจีนF
          [5] ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ https://www.greenpeace.org/thailand/publication/ประเทศจีน989/less-is-more/
 
 

ข่าวกระทรวงเกษตร+อุตสาหกรรมวันนี้

AIT จับมือ กรมประมง วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ร่วมกับ กรมประมง สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้การส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมประมงและร่วมมือยกระดับพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยดำเนินงานภายใต้โครงการ "Making NbCS in Aquaculture in Southeast Asia Monitoring More Gender Responsive: (GeNA Project) ซึ่งมุ่งเน้นด้านการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำภาคอุตสาหกรรมการประมงไทยให้มีคุณภาพ ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังให้การสนับสนุนด้านความเสมอภาคและความเท่าเทียมในทุกมิติทางเพศ เพื่อสร้างอาชีพอย่างยั่งยืน ศาสตราจารย์ ไป่

นางกาญจนา แดงรุ่งโรจน์ รองเลขาธิการสำนักง... รองฯ กาญจนา ร่วมเปิดงานมหกรรม จากพันธุกรรม สู่ความยั่งยืน — นางกาญจนา แดงรุ่งโรจน์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ร่วมเปิด...

นายวิโมกษ์ พรหมทอง เกษตรอำเภอเขาย้อย มอบห... ร่วมงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 — นายวิโมกษ์ พรหมทอง เกษตรอำเภอเขาย้อย มอบหมายให้นางสาวจันทิมา...

"กลุ่มเหล็กสหวิริยา" (SSI-TCRSS-TCS-WCE-B... เหล็กสหวิริยาพัฒนาประมงบางสะพานยั่งยืน ผนึกกำลังเครือข่ายประมง-ทิ้งซั้งบอกรักทะเล — "กลุ่มเหล็กสหวิริยา" (SSI-TCRSS-TCS-WCE-BSBM-PPC) เครือข่ายชาวประมงบาง...

กรมพัฒนาที่ดิน ขานรับนโนบายรัฐบาลและกระทร... กรมพัฒนาที่ดิน เน้นทำเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แนะงดเผาตอซัง ใช้ไถกลบช่วยฟื้นฟูปรับปรุงบำรุงดิน — กรมพัฒนาที่ดิน ขานรับนโนบายรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์...

สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาต... มกอช.ร่วมงานวันเกษตรภาคอีสาน ประจำปี 2568 — สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ร่วมจัดนิทรรศการ ในงานวันเกษตรภาคอีสาน ประจำปี 2568 ภายใต้...