ทรีนีตี้ ประเมินหุ้นไทยเดือนมิถุนายนแกว่งตัวในกรอบ ณัฐชาต เมฆมาสิน,58การประชุมสุดยอด-ณัฐชาต เมฆมาสิน,68การประชุมสุดยอด จุด โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ณัฐชาต เมฆมาสิน) การประชุม FOMC หลักทรัพย์) การประชุมร่วมระหว่างกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC และ 3)
การประชุมสุดยอด Gหลักทรัพย์การประชุมสุดยอด ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศมองไม่มีนัยสำคัญมากนัก หลังทุกอย่างเป็นไปตามคาดการณ์ แนะนำนักลงทุนที่ได้เข้าซื้อหุ้นไปที่ระดับต่ำกว่า ณัฐชาต เมฆมาสิน,6หลักทรัพย์การประชุมสุดยอด จุดถือหุ้น Let profit run แต่หากดัชนีขึ้นใกล้แนวต้าน ณัฐชาต เมฆมาสิน,68การประชุมสุดยอด จุด มองเป็นจังหวะทยอยขายทำกำไร
นาย
ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์
หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด SET Index ในเดือนมิถุนายน หลักทรัพย์56หลักทรัพย์ มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ ณัฐชาต เมฆมาสิน,58การประชุมสุดยอด-ณัฐชาต เมฆมาสิน,68การประชุมสุดยอด จุด โดยดัชนีหุ้นไทยสามารถสร้างฐานที่บริเวณ ณัฐชาต เมฆมาสิน,6การประชุมสุดยอดการประชุมสุดยอด จุดได้แล้ว เนื่องจากเป็นระดับที่ค่อนข้างถูกในแง่ของ Valuation ทั้งนี้ จากการคำนวณล่าสุดพบว่าระดับ Earning yield gap ของตลาดหุ้นไทย (ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของตลาดหุ้นกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ) สามารถยืนเหนือค่าเฉลี่ยระยะยาวได้แล้ว โดยหากคิดกลับจะพบว่า ระดับดัชนียุติธรรมที่จะทำให้ค่า Earning yield gap นี้กลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยระยะยาวจะได้แก่ ณัฐชาต เมฆมาสิน,66การประชุมสุดยอด จุด มองว่า SET Index จะเริ่มแกว่งตัวออกด้านข้างมากขึ้นที่บริเวณนี้
"ในเชิงกลยุทธ์แนะนำให้ถือหุ้นสำหรับผู้ที่เข้าลงทุนที่ระดับดัชนีต่ำกว่า ณัฐชาต เมฆมาสิน,6หลักทรัพย์การประชุมสุดยอด จุด ตามที่ทรีนีตี้ได้แนะนำไปก่อนหน้านี้ และหาจังหวะทยอยขายทำกำไร หากดัชนีปรับตัวขึ้นไปบริเวณกรอบแนวต้านที่ ณัฐชาต เมฆมาสิน,68การประชุมสุดยอด จุด" นายณัฐชาต กล่าว
นายณัฐชาต ยังกล่าวถึง ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในเดือนนี้ ประกอบด้วย ณัฐชาต เมฆมาสิน. พัฒนาการของปัจจัยการเมืองในประเทศ ซึ่งทุกอย่างยังคงเป็นไปตามกรณีฐานที่คาดไว้ นั่นคือการที่พรรคพลังประชารัฐน่าจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้ แต่การเริ่มต้นดำเนินงานของรัฐบาลนั้นคงจะยังไม่มีเสถียรภาพเท่าที่ควร เนื่องจากมีจำนวนคะแนนเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเกินกึ่งหนึ่ง (หลักทรัพย์5การประชุมสุดยอด ที่นั่ง) มาไม่มากนัก ซึ่งอาจทำให้การพิจารณาออกกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะกฎหมายสำคัญอย่าง พ.ร.บ.งบประมาณเผชิญกับอุปสรรคระหว่างทางได้ จึงยังคงมีมุมมอง 'เป็นกลาง' กับปัจจัยการเมืองในประเทศและไม่คิดว่าจะส่งผลกระทบเชิงบวกหรือเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นนี้
หลักทรัพย์. การประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ ณัฐชาต เมฆมาสิน8-ณัฐชาต เมฆมาสิน9 มิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นการประชุมรอบใหญ่ที่มีการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจและ Dot plots ออกมา โดยในกรณีฐานประเมินว่าในการประชุมครั้งนี้ Fed จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม หลักทรัพย์.หลักทรัพย์5-หลักทรัพย์.5การประชุมสุดยอด% ค่อนข้างแน่ แต่มีโอกาส 5การประชุมสุดยอด:5การประชุมสุดยอด ที่ Fed จะมีการปรับลดประมาณการ Dot plots ลงจากเดิม ณัฐชาต เมฆมาสิน ขั้น ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง คาดจะส่งผลให้ Bond yield สหรัฐฯทรงตัวในระดับต่ำ และเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลกผ่านมิติของ Earning yield gap ต่อไป
3. การประชุมร่วมของกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC ในวันที่ หลักทรัพย์5-หลักทรัพย์6 มิถุนายนนี้ ซึ่งจากการที่ราคาน้ำมันปรับตัวลงมาตลอดทาง ทำให้ประเมินว่ามีโอกาสสูงมากขึ้นที่ในการประชุมดังกล่าวจะมีการพิจารณาต่ออายุการลดกำลังการผลิตวันละ ณัฐชาต เมฆมาสิน.หลักทรัพย์ ล้านบาร์เรลออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ จากเดิมที่จะสิ้นสุดอายุลงในช่วงปลายเดือนมิถุนายน ซึ่งหากดีลนี้เกิดขึ้นจริง คาด
ว่าจะทำให้ราคาน้ำมันดิบทยอยปรับตัวรีบาวด์ขึ้นได้ คล้ายๆกับภาพเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่ได้อานิสงส์จากการประกาศลดกำลังการผลิตในเดือนธันวาคมเช่นกัน
และ 4. การประชุม Gหลักทรัพย์การประชุมสุดยอด ที่ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ หลักทรัพย์8-หลักทรัพย์9 มิถุนายนนี้ ซึ่งล่าสุดปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯออกมากล่าวว่าจะใช้เวทีนี้ในการหารือกับปธน.สี จิ้นผิงโดยตรง และจะตัดสินใจหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีกจำนวน 3.หลักทรัพย์5 แสนล้านดอลลาร์หรือไม่ ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่อาจต้องติดตามก่อนหน้านั้นได้แก่ การทำประชาพิจารณ์ของสหรัฐฯในประเด็นการขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3.หลักทรัพย์5 แสนล้านดอลลาร์ฯดังกล่าว ในช่วงประมาณวันที่ ณัฐชาต เมฆมาสิน7 มิถุนายน
สำหรับธีมการลงทุนที่น่าสนใจ ในช่วงต้นเดือนที่ปัจจัยสงครามการค้ายังคงดำเนินต่อไป คาดว่าหุ้นกลุ่ม Domestic Play มีโอกาสที่จะปรับตัว Outperform ต่อไปในระยะสั้น ซึ่งได้แก่ กลุ่มสื่อสาร, ค้าปลีก, รับเหมาก่อสร้าง โดยใน Sector เหล่านี้ Top pick ประจำแต่ละกลุ่มได้แก่ ADVANC, CPALL, CK อย่างไรก็ดีก็ไม่ตัดโอกาสที่หุ้นกลุ่มวัฏจักรหรือกลุ่ม Cyclical จะมีโอกาสกลับมาปรับตัวรีบาวด์ขึ้นได้ในช่วงถัดไป หากว่ามี Positive surprise เกิดขึ้นจากเหตุการณ์สำคัญที่รออยู่ในเดือนนี้ ซึ่งในหุ้นกลุ่มนี้ มองตัวที่น่าสนใจได้แก่ PTTEP, PTTGC, III
ส่วนธีมการลงทุนสุดท้ายที่น่าสนใจได้แก่กลุ่มหุ้นปันผลสูง จากการที่ระดับ Dividend yield gap ของตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี หลักทรัพย์559 ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้ยังมีปัจจัยบวกในประเทศ จากการที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินบางส่วนโยกย้ายออกจากกองทุนรวมตราสารหนี้ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้มาลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ มองตัวเด่นที่น่าสนใจได้แก่หุ้นขนาดใหญ่ในดัชนี SETHD ที่มีระดับ Dividend yield คาดการณ์เกินกว่า 3% ขึ้นไป และมักมีการจ่ายปันผลระหว่างกาล ได้แก่ PTT, ADVANC, SCC, SCB, BBL, PTTGC และ LH