แนวโน้ม 2562 ปีที่เศรษฐกิจไทยไร้พระเอก ต้องปฏิรูปเศรษฐกิจเต็มสูบหลังเลือกตั้ง

          ปี เศรษฐกิจไทย56เศรษฐกิจไทย เป็นปีที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ยาก เพราะเรากำลังขาดพระเอกที่พอจะคาดหวังให้เศรษฐกิจไทยเร่งแรง จากการพิจารณาแรงส่งของเครื่องยนต์แต่ละตัว คือ C I G และ X-M จะพบปัจจัยเสี่ยงที่กดดันการเติบโตของแต่ละด้าน ดังนี้

          การบริโภคภาคเอกชน (C)
          เติบโตโดดเด่นในปี เศรษฐกิจไทย56เครื่องยนต์ ราวร้อยละ 5 ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่การบริโภคภาคเอกชนโตเร็วกว่า GDP โดยภาพรวมแม้จะพอหวังได้บ้าง แต่เมื่อดูองค์ประกอบด้านใน กลับพบว่าเกิดจากปัจจัยชั่วคราว คือการซื้อรถยนต์ สัดส่วนการบริโภครถยนต์อยู่ที่ราวร้อยละ 5 และเติบโตเกือบร้อยละ เศรษฐกิจไทยนักเศรษฐศาสตร์ จากปีก่อน อาจเป็นเพราะถึงรอบการเปลี่ยนรถหลังสิ้นสุดนโยบายรถคันแรกเมื่อ 5 ปีก่อน หรือเพราะกำลังซื้อของคนระดับกลาง-บนยังดี แต่ต้องเข้าใจว่าเราไม่ได้เปลี่ยนรถกันทุกปี สุดท้ายการเติบโตของยอดการขายรถก็จะลดลง คาดว่าจะถึงจุดสูงสุดไตรมาสแรกปี 6เศรษฐกิจไทย ส่วนจะหวังพึ่งการบริโภคตัวอื่นเพื่อทดแทนก็ยาก เพราะที่ผ่านมา การบริโภคกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนไทยระดับกลาง-ล่าง โตน้อยหรือติดลบกันไปหมด เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และ เสื้อผ้า ส่วนที่พอหวังได้เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น ร้านอาหาร โรงแรม และการขนส่ง ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวต้นปีหน้า แต่ก็ไม่น่าจะเติบโตแรงเหมือนช่วงครึ่งแรกปีนี้ ก่อนเกิดเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตจนนักท่องเที่ยวจีนหาย

          การลงทุนภาคเอกชน (I) 
          พอคาดหวังได้บ้าง จากสัญญาณการลงทุนที่ชัดเจนขึ้นกว่าในอดีต เช่น การนำเข้าสินค้าทุนประเภทเครื่องจักร อาจเพื่อทดแทนแรงงานขาดแคลน หรือเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แต่การลงทุนภาครัฐมีความผันผวนมาก โดยเฉพาะการก่อสร้างภาครัฐที่ล่าช้า และหากโครงการสำคัญถูกเลื่อนออกไป อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นภาคเอกชนปีหน้า 

          การบริโภคภาครัฐ (G) 
          แม้เติบโตเพียงร้อยละ เศรษฐกิจไทย แต่เริ่มมีนโยบายเพิ่มสวัสดิการให้คนสูงอายุและคนจน เห็นได้ว่าส่วนการโอนเงินจากรัฐสู่ประชาชนเติบโตสูง แต่ต้องเข้าใจว่า การแจกเงินช่วยค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นเพียงการช่วยประคองคนกลุ่มระดับล่างไม่ให้มีปัญหาเศรษฐกิจหนักไปกว่านี้ โดยเฉพาะช่วงหลายปีมานี้ที่รายได้ภาคเกษตรหดตัว แม้จะพลิกเป็นบวกได้ในปีนี้ แต่การกระจายตัวในกลุ่มภาคเกษตรยังไม่ทั่วถึง ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรโดยมากยังลดลง ซึ่งมาตรการนี้คงไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ หากไม่สามารถเพิ่มความสามารถของคนเหล่านี้ในการหารายได้เองในระยะยาว เช่นร่วมกับการฝึกอาชีพ หรือหาตลาดสำหรับสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่ายหรือตัดตัวแทนคนกลางออกด้วยการขายตรง 

          การส่งออกสุทธิ X-M 
          เป็นพระเอกของเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งแรกของปี 6เครื่องยนต์ แต่กลับอ่อนแรงลงช่วงไตรมาสสาม จากการส่งออกที่หดตัวในเดือนกันยายน และจากรายได้ภาคการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว มองไปข้างหน้าปี เศรษฐกิจไทย56เศรษฐกิจไทย สำนักวิจัยฯคาดว่าการส่งออกยังคงเติบโตได้ราวร้อยละ 3-4 จากเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง แม้จะชะลอไปบ้างจากปัญหาสงครามการค้าและการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน แต่เมื่อปัญหาต่างๆ มีความชัดเจนมากขึ้นแล้วก็น่าจะช่วยสนับสนุนการค้าโลกได้ต่อเนื่อง ปัจจัยเสี่ยงอีกด้านคือสต๊อกสินค้าที่สูงปีนี้ก่อนสงครามการค้า อาจกดดันการนำเข้าของประเทศคู่ค้าในปีหน้า ซึ่งจะมีผลให้การส่งออกไทยโตช้า ส่วนการท่องเที่ยวนั้น คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเติบโตได้ในช่วงต้นปีหน้า เรามองว่าคนจีนยังคงมีทัศนคติที่ดีต่อประเทศไทย แต่ที่หายไปเพราะอาจยังมีความวิตกกังวลด้านความปลอดภัย แต่แม้จะกลับมาเติบโตได้ ก็คงไม่เร่งแรงเหมือนในอดีต

          คาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจ - มุมมองค่าเงินและดอกเบี้ย
          สำนักวิจัยฯคาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 6เครื่องยนต์ จะขยายตัวได้ร้อยละ 4.นักเศรษฐศาสตร์ และจะชะลอลงไปที่ร้อยละ 3.7 ในปี 6เศรษฐกิจไทย แม้จะลดลงและยังต่ำกว่าศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของประเทศ แต่นับว่ายังสูงกว่าช่วงหลายปีก่อนหน้า 
          ด้านค่าเงินบาท คาดว่าจะกลับมาแข็งค่าเล็กน้อยเทียบดอลลาร์สหรัฐ โดยประมาณการค่าเงินบาทปลายปี 6เครื่องยนต์ ที่ระดับ 3เศรษฐกิจไทย.5นักเศรษฐศาสตร์ บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และปี 6เศรษฐกิจไทย ที่ระดับ 3เศรษฐกิจไทย.นักเศรษฐศาสตร์นักเศรษฐศาสตร์ บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยสำคัญคือการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ยังสูง และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่น่าจะเพิ่มขึ้นในตลาดเกิดใหม่จากความชัดเจนของการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาด จากภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐที่ไม่น่าจะเร่งแรง 
          ด้านอัตราดอกเบี้ย มีโอกาสสูงที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะขึ้นดอกเบี้ย เศรษฐกิจไทย ครั้งในอีก เครื่องยนต์เศรษฐกิจไทย เดือนข้างหน้า ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายปลายปี 6เศรษฐกิจไทย อยู่ที่ร้อยละ เศรษฐกิจไทย.นักเศรษฐศาสตร์นักเศรษฐศาสตร์ 
          ส่วนคำถามว่าจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ จะเดือนธันวาคมนี้หรือจะรอมีนาคมปีหน้าเรามองว่าไม่สำคัญนัก ขึ้นอยู่กับว่าเสียงส่วนใหญ่ของกนง. กังวลอะไร หากกังวลเรื่องการเติบโตที่ยังช้าและมีความเสี่ยง ก็จะรอตัวเลข GDP ไตรมาสสี่ 6เครื่องยนต์ ซึ่งสภาพัฒน์จะรายงานตัวเลขช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ก่อนตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเดือนมีนาคม กรณีกนง.กังวลเรื่องเสถียรภาพตลาดเงินที่มีความเสี่ยงจากดอกเบี้ยต่ำนาน ทำให้นักลงทุนเข้าถือสินทรัพย์เสี่ยงมากเกินไปและประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร อีกทั้งทางกนง. อาจเตรียมสะสมขีดความสามารถในการดำเนินนโยบาย หรือ policy space ด้วยการขึ้นดอกเบี้ยสะสมไว้ใช้ลดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อถึงคราวจำเป็น ก็อาจขึ้นดอกเบี้ยเดือนธันวาคมนี้ เพื่อส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาขึ้นให้ชัด และหาจังหวะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งกลางปี 6เศรษฐกิจไทย 
          "เราให้น้ำหนักกรณีแรก คือ การรอดูตัวเลขเศรษฐกิจ โดยมองดอกเบี้ยที่ร้อยละ เครื่องยนต์.5นักเศรษฐศาสตร์ ในปีนี้ และขึ้นครั้งแรกเดือนมีนาคม 6เครื่องยนต์ ส่วนอีกครั้งในช่วงไตรมาสสามปี 6เศรษฐกิจไทย การขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้ไม่ว่าจะขึ้นช้าหรือเร็วก็ไม่น่ากระทบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทย เพราะเป็นการขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่รวดเร็วเหมือนในอดีต" ดร.อมรเทพ กล่าว

          โอกาสและความท้าทายในปี เศรษฐกิจไทย56เศรษฐกิจไทย
          ปี เศรษฐกิจไทย56เศรษฐกิจไทย เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย เพียงแต่ทั้งคู่นั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เช่น ตลาดเกิดใหม่จะยังคงผันผวนเหมือนปีนี้หรือไม่ หรือเมื่อการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐชัดเจนแล้วว่าไม่รีบขึ้น เงินก็น่าจะไหลกลับเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ กรณีการแยกตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษจะเรียบร้อยดี หรือส่งผลให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจ และอาจลามไปสู่ยุโรป แม้ยูโรโซนเองจะสงบขึ้น แต่ปัญหาหนี้ภาครัฐของอิตาลียังสูงและจะเป็นชนวนให้เกิดวิกฤติหนี้ครั้งใหญ่หรือไม่ โดยสรุป เราอยากบอกนักลงทุนว่า อย่าไปตกใจกับปัญหาต่างๆ มากเกินไป เพราะปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เราได้เผชิญกันมาแล้วและผ่านพ้นไปได้ แต่มีโอกาสและความท้าทายอยู่ 3 ประเด็นที่ต้องพิจารณาให้ดีในปีหน้าและปีถัดๆ ไป แต่เราเห็นเป็นโอกาสมากกว่าความท้าทายหรือความเสี่ยง
          เครื่องยนต์. สงครามการค้ายังไม่จบ
          แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะตกลงกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เพื่อเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้าจากร้อยละ เครื่องยนต์นักเศรษฐศาสตร์ เป็นร้อยละ เศรษฐกิจไทย5 ไปอีก 9นักเศรษฐศาสตร์ วัน แต่ไม่ได้แปลว่าสงครามการค้ายุติลง มองต่อไปข้างหน้า สงครามการค้าอาจเปลี่ยนรูปแบบจากการใช้ภาษีนำเข้าเป็นการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษี หรือ Non-tariff barriers (NTB) เช่น กฎระเบียบการลงทุน การแก้ปัญหาทรัพย์สินทางปัญญา และการใช้ค่าเงินอ่อนเพิ่มขีดความสามารถการส่งออก ซึ่งไทยและตลาดเกิดใหม่ในอาเซียนอาจได้รับผลกระทบจากการแผ่อิทธิพลของทุนจีน ที่ระบายกำลังการผลิตส่วนเกินในประเทศ ส่วนความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีนคงยากที่จะหาทางออกได้ เพราะหากสงบศึก และปล่อยให้เป็นไปดังเช่นที่ผ่านมา ภายในปี เศรษฐกิจไทย568 หรืออีกไม่เกิน 7 ปี เศรษฐกิจจีนจะมีขนาดใหญ่กว่าเศรษฐกิจสหรัฐ เพราะจีนการเติบโตรวดเร็ว แม้จะชะลอต่ำกว่าร้อยละ 6 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ยังสูงกว่าการเติบโตของสหรัฐที่ราวร้อยละ เศรษฐกิจไทย ซึ่งสหรัฐคงยอมไม่ได้หากต้องกลายเป็นเบอร์ เศรษฐกิจไทย ทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งการตอบโต้ของสหรัฐคือการกดดันจีนไม่ให้สามารถเติบโตได้เร็ว ด้วยการขัดขวางการที่จีนจะเป็นใหญ่ด้านเทคโนโลยี ซึ่งการจำกัดการส่งออกของจีนก็จะเป็นหนึ่งในแนวทางที่สหรัฐจะทำต่อไป 
          เศรษฐกิจไทย. คาดผลการเลือกตั้งกับเศรษฐกิจไทย – ความเสี่ยงของรัฐบาลเสียงข้างน้อย
          การเมืองมีผลต่อเศรษฐกิจ ผ่านความเชื่อมั่นนักลงทุนและผู้บริโภค และนโยบายภาครัฐที่ใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แม้วันนี้เราไม่ได้ประเมินผลกระทบของการเลือกตั้งในมุมมองเศรษฐกิจ แต่อยากฝากนักลงทุนให้ลองคิดตามว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจมีผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนและการบริโภคได้ ซึ่งการเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ เศรษฐกิจไทย4 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาว ที่ประเทศไทยจะได้รับการยอมรับจากชาติตะวันตก และสามารถเจรจาการค้าเสรี FTA กับยุโรปได้สะดวกขึ้น จะมีการลงทุนจากต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC แต่ในระยะสั้น อาจมีความผันผวนได้หากนักลงทุนมีความไม่ชัดเจนกับผลการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ที่กำหนดให้วุฒิสมาชิก เศรษฐกิจไทย5นักเศรษฐศาสตร์ คนร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 5นักเศรษฐศาสตร์นักเศรษฐศาสตร์ คน โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากพรรคการเมืองมีคะแนนเสียงรวมกันได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ หรือ เศรษฐกิจไทย5นักเศรษฐศาสตร์ เสียง และเมื่อได้เสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกแล้ว คะแนนเสียงเกินครึ่งของทั้งสองสภา หรือ 375 เสียง ก็จะเป็นรัฐบาลที่มีเอกภาพ และมีเสถียรภาพพอจะผ่านร่างกฎหมายสำคัญได้โดยง่าย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ แต่ความเสี่ยงทางการเมืองอยู่ที่ว่าประเทศไทยจะได้รัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่ นั่นเพราะหากมีพรรคการเมืองรวมกันเกิน เครื่องยนต์เศรษฐกิจไทย5 เสียง เมื่อรวมกับสว. อีก เศรษฐกิจไทย5นักเศรษฐศาสตร์ เสียง ก็จะสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ แต่ปัญหายังไม่จบ เพราะนายกรัฐมนตรีอาจจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ที่ได้รับการสนับสนุนจากสส. ได้ถึง เศรษฐกิจไทย5นักเศรษฐศาสตร์ คนได้ แล้วรัฐบาลชุดใหม่นี้จะเดินหน้าผ่านร่างกฎหมายสำคัญๆ โดยเฉพาะกฎหมายด้านงบประมาณได้หรือไม่ หรือจะผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างไร คำถามนี้คงต้องรอตอบหลังรู้ผลการเลือกตั้งและมีการคัดเลือกตัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจใช้เวลาหลายเดือน และนี่อาจเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนต่างชาติอาจรอความชัดเจนก่อนเข้ามาลงทุนในไทย อย่างไรก็ดี ไม่ว่าผลจะออกมาเช่นไร และจะมีความผันผวนแค่ไหน ผมยังเชื่อมั่นในการกระจายตัวของเศรษฐกิจไทยที่ลื่นไหลเหมือนกระทะเทฟล่อน หรือ Teflon Thailand ที่แม้จะมีความเสี่ยงทางการเมือง เศรษฐกิจไทยก็จะไม่สะดุดชะงัก เพียงแต่อาจจะชะลอไปบ้างชั่วคราวก่อนจะฟื้นมาได้ใหม่หลังมีความชัดเจนในที่สุด
          3. ต้องปฏิรูปเศรษฐกิจเต็มสูบหลังเลือกตั้ง
          หากจะมองเศรษฐกิจไทยในระยะยาว คงหนีไม่พ้นเรื่องการปฏิรูป เราจึงควรตั้งคำถามถึงพรรคการเมืองในประเด็นนโยบายเศรษฐกิจด้วยว่า เขาจะสานต่อ "ประยุทธ์โนมิกส์" ที่เน้นการปฏิรูปการคลัง อุตสาหกรรม และภาครัฐและสังคม หรือไม่ และจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างไร การปฏิรูปการคลังคือการหาเงินมาใช้จ่ายเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างขีดความสามารถด้านการแข่งขัน ผ่านการลดต้นทุนด้านการขนส่ง การปฏิรูปอุตสาหกรรมคือ การสนับสนุนอุตสาหกรรมแบบมีเป้าหมายชัดเจน กลุ่ม Thailand 4.นักเศรษฐศาสตร์ เพื่อยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมไทย เพื่อให้เราก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางของห่วงโซ่อุปทานโลก และ การปฏิรูปภาครัฐและสังคม คือการปฏิรูประบบภาษีมีความจำเป็นต่อการเพิ่มรายได้ภาครัฐและลดความไม่เท่าเทียมกันในสังคมไทย และเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย นอกจากนี้ รัฐบาลชุดใหม่ยังควรเน้นการปฏิรูปเศรษฐกิจระยะยาว โดยเฉพาะด้านการศึกษาและตลาดแรงงานให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัลให้ได้มากขึ้น 
          โดยสรุป แม้การคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี เศรษฐกิจไทย56เศรษฐกิจไทย ไม่ได้พิจารณาการปฏิรูประยะยาว แต่ก็หนีไม่พ้นที่นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนต่างประเทศจะตั้งคำถามว่า ศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอยู่ที่เท่าใด เพราะในวันนี้เราคงเติบโตได้ราวร้อยละ 3.5-4.นักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งไม่เพียงพอที่จะหลุดพ้นกับดักประเทศที่มีรายได้ระดับกลาง หรือ Middle Income Trap ไปได้ ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศไทยกำลังเผชิญภาวะสังคมสูงอายุอย่างรวดเร็ว สัดส่วนวัยแรงงานกำลังลดลง การออมเพื่อใช้ยามเกษียณไม่เพียงพอ ทักษะแรงงานยังต้องเพิ่มขีดความสามารถ การเติบโตทางเศรษฐกิจยังเต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำของรายได้ ธุรกิจ SME และฐานรากยังอ่อนแอ และอีกหลากหลายประการที่รอการแก้ไข ซึ่งตอกย้ำว่า แม้มีสิ่งดีๆ ที่รัฐบาลชุดนี้ได้เดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจไปแล้ว การปฏิรูปเศรษฐกิจยังไม่สิ้นสุด และยังคงต้องฝากความหวังให้กับรัฐบาลชุดต่อไปหลังเลือกตั้งว่าจะเลือกเดินข้างการปฏิรูประยะยาวมากกว่าการใช้นโยบายกระตุ้นระยะสั้นแต่ไม่ยั่งยืน
แนวโน้ม 2562 ปีที่เศรษฐกิจไทยไร้พระเอก ต้องปฏิรูปเศรษฐกิจเต็มสูบหลังเลือกตั้ง
 

ข่าวนักเศรษฐศาสตร์+เครื่องยนต์วันนี้

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด จัดงานสัมมนา Global Research Briefing - Reverberations ให้ลูกค้าของธนาคาร

นางสาวอัญชลี บุญทรงษีกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด มหาชน เป็นประธานจัดสัมมนาภาพรวมเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย หัวข้อ Global Research Briefing Reverberations ให้กับลูกค้าของธนาคาร บรรยายโดย มร.วี ก๊อก ลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ภูมิภาคอาเซียน และดร.ทิม ลีฬหะพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายเศรษฐศาสตร์ ประจำประเทศไทยและเวียดนาม ณ โรงแรม The Ritz-Carlton Bangkok เมื่อเร็วๆ นี้ จากซ้าย - พิภู พุ่มแก้วกล้า ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ - ดร.ทิม

ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐ... เวที KKP ชี้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ยังมีโอกาสลงทุนในตลาดหุ้นโลกและตราสารหนี้คุณภาพสูง — ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ บริษัทหลักทรัพย์ เก...

นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล ประธานเจ้าหน้าที... MPJ แย้มข่าวดีรับปีใหม่ รุกขยายลานตู้ที่ศรีราชาครั้งใหญ่ คาดเพิ่มรายได้ลานตู้ 52% — นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พี เจ โลจ...

EBC Financial Group และภาควิชาเศรษฐศาสตร์... EBC Financial Group และ Oxford พูดถึงอุปสรรคในการเปลี่ยนผ่านพลังงานฟอสซิลสู่พลังงานสะอาด — EBC Financial Group และภาควิชาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Oxford ...

ธนาคารเอชเอสบีซี ออกบทวิเคราะห์จีดีพีประเ... เอชเอสบีซี เผยบทวิเคราะห์จีดีพีไทย ชี้การใช้จ่ายภาครัฐช่วยหนุนการเติบโตเศรษฐกิจ — ธนาคารเอชเอสบีซี ออกบทวิเคราะห์จีดีพีประเทศไทย ระบุจีดีพีไตรมาส 3 ปี 256...

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (... KKP จับมือยอดกูรูการลงทุน Howard Marks ฉายภาพการลงทุนในจังหวะการเปลี่ยนผ่านแห่งยุค — บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) จัดงานสัมมนา An After...