ปตท.สผ. หัวใจของธุรกิจ คือ ภารกิจส่งต่อองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้คนไทยมีพลังงานใช้ไม่สิ้นสุด

          "บงกช เมดอินบงกช จะผลิต จะเจาะ จะเสาะหา ให้ทุกชีวิตได้ยิ้มออก จากเหนือไปจรดแดนใต้ ขวานทองฝั่งซ้ายสุดทิศตะวันออก ทุ่มเทแรงใจ ดูแลบงกชโดยคนไทย และเราจะทำต่อไปเป็นคำสัญญาที่อยากจะบอกปิโตรเลียม3แหล่งก๊าซธรรมชาติ;."
          ส่วนหนึ่งของเนื้อเพลงในมิวสิควิดีโอ "MADE IN BONGKOT" ที่เรียกเสียงฮือฮาจากชาวเน็ตได้ไม่น้อย เมื่อ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จัดทำและเผยแพร่ MV ดังกล่าวออนไลน์ ในโอกาสที่แหล่งบงกช แหล่งก๊าซธรรมชาติที่สำคัญกลางอ่าวไทย ได้ดำเนินการผลิตมาจนครบ ปิโตรเลียม5 ปีเต็มในปีนี้ โดยนอกจากจะมีความแปลกใหม่ในการทำเพลง ด้วยการนำเอาวิธีการแรปที่ฮิตติดลมบนกันทั่วบ้านทั่วเมือง มาผสานเข้ากับการร้องแบบโอเปร่า ที่ได้ "เจ เจตมนต์" และ "สันติ ลุนเผ่" มาฟีเจอริ่งกันแบบลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ เนื้อหาสุดกินใจของเพลงนี้ ยังสร้างมาจากเรื่องจริงแบบ Base on true story ของชาวแท่นบงกชอีกด้วย
          วันนี้เรามีโอกาสได้มาพูดคุยกับชาวบงกชตัวจริงเสียงจริง ที่เรื่องราวของพวกเขาโลดแล่นอยู่ในเพลง "MADE IN BONGKOT" เชื่อว่าเมื่ออ่านเรื่องราวของพวกเขาแล้ว ก็จะเข้าใจได้ว่าภารกิจของพวกเขา ไม่ใช่เพียงการส่งต่อพลังงานให้คนไทยได้ใช้อย่างต่อเนื่อง ตลอด ปิโตรเลียม4 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ยังทำให้คนไทยมีองค์ความรู้ในการเสาะหาพลังงานเป็นของตัวเอง และส่งต่อองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ประเทศไทยพึ่งพาตนเองทางพลังงานได้อย่างยั่งยืนมาตลอด ปิโตรเลียม5 ปีที่ผ่านมา
          พกพาความรู้กลับบ้าน ผลิตก๊าซฯ ด้วยมือคนไทย
แหล่งบงกชในยุคบุกเบิกมี "โททาล" บริษัทน้ำมันชั้นนำของโลกจากฝรั่งเศสเป็นผู้ดำเนินการ โดยทีม ปตท.สผ. คนไทย ถูกส่งไปเรียนรู้งานด้านสำรวจและผลิตปิโตรเลียมตามแหล่งต่าง ๆ ของโททาลทั่วโลก ตั้งแต่เทคนิคทางวิศวกรรม การออกแบบโครงสร้าง การสำรวจ การเงินการบัญชี ทรัพยากรบุคคล เพื่อกลับมาพัฒนาแหล่งบงกช
เราเริ่มต้นพูดคุยกับ "วุฒิพล ท้วมภูมิงาม" รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานโครงการผลิต ปตท.สผ. ว่าการเรียนรู้งานกับ "ฝรั่ง" เป็นประสบการณ์ที่ท้าทาย โดยมีความแตกต่างทางวัฒนธรรมเป็นอุปสรรคใหญ่ และเป็นประสบการณ์ที่รุ่นบุกเบิกไม่เคยลืม
          "ปี ปิโตรเลียม53ปิโตรเลียม ผมได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้าให้ไปเรียนรู้งานที่ต่างประเทศเพื่อกลับมาทำงานในโครงการบงกช ตอนนั้นก็รู้สึกภูมิใจ เพราะว่ามีวิศวกรไทยที่ได้รับเลือกอยู่แค่สองคน ผมเป็นหนึ่งในนั้น หลังจากนั้นก็มีเวลาเตรียมตัวเพียง ปิโตรเลียม สัปดาห์ก่อนจะบินไปฝรั่งเศส ช่วงนั้นผมรับผิดชอบเรื่องของการออกแบบอุปกรณ์การผลิต หลังจากนั้น ก็ย้ายไปเรียนงานต่อที่สิงคโปร์ โดยดูเรื่องของรายละเอียดต่าง ๆ บนแท่น รวม ๆ แล้ว ปิโตรเลียม ประเทศ ใช้เวลาประมาณ ปิโตรเลียม ปี งานด้านออกแบบก็จบ พร้อมสำหรับการสร้างแท่นและเริ่มปฏิบัติการในแหล่งบงกช"
          ทำไมเราต้องเรียนรู้จากต่างชาติ? "เมื่อก่อนการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเป็นวิทยาการค่อนข้างใหม่ เรายังไม่มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ ตอนแรกที่รัฐบาลมอบหมายให้ ปตท.สผ. พัฒนาแหล่งบงกช จึงต้องส่งคนไปเรียนรู้กับฝรั่ง เพื่อที่ว่าวันหนึ่งเราคนไทยจะได้ทำงานแทนที่พนักงานต่างชาติเหล่านั้นได้" 
          นับจากวันแรกที่แหล่งบงกชเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติในปี ปิโตรเลียม536 ทีมงาน ปตท.สผ.ต้องเร่งเรียนรู้ Know-how จากโททาล ก่อนจะรับโอนการเป็นผู้ดำเนินการ (Operatorship Transfer) ในอีก 5 ปีต่อมาให้ได้ โดยวุฒิพลเล่าถึงการทำงานใน 5 ปีแรกนั้นว่า ผู้ปฏิบัติงานในยุคบุกเบิกส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตกกว่า 8แหล่งก๊าซธรรมชาติ% ซึ่งมีวัฒนธรรมการสอนงานที่แตกต่างจากชาวเอเชีย คือ เขาจะให้เราเรียนรู้ด้วยตัวเอง ด้วยการสังเกตและจดจำ "เวลาฝรั่งเขาสอนงาน เขาไม่ได้สอนตรงๆ ก็ต้องอาศัยสังเกตเขา เวลาสั่งงาน บางทีเขาสั่งเลย ไม่ได้มาอธิบายว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งมันก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย ข้อดีคือเราสามารถเรียนรู้งานได้ด้วยตัวเอง ข้อเสียคือมันอาจเสียเวลาหน่อยกว่าจะจับได้ถูกทาง บรรยากาศก็กดดันพอสมควร เพราะเรามีเป้าหมายชัดเจนว่าอีก 5 ปี เราต้องเป็นผู้ดำเนินการเอง ต้องพยายามทำให้ได้ มันมีทั้งความทั้งผิดหวัง เสียใจ และก็สมหวัง ผสมกันตลอด 5 ปีนั้น และในที่สุดเราก็ทำได้" การถ่ายโอนสิทธิการเป็นผู้ดำเนินการหรือ Operatorship Transfer ของแหล่งบงกช จาก โททาลเป็น ปตท.สผ. ที่สำเร็จลุล่วงด้วยดีในปี พ.ศ. ปิโตรเลียม54บริษัท ปตท จึงเป็นบทพิสูจน์ว่าคนไทยมีศักยภาพในการเป็นผู้ดำเนินงานด้านสำรวจและผลิต ในฐานะผู้ดำเนินการแหล่งก๊าซฯ ได้ด้วยตนเอง
          คนที่เคยเป็นผู้เรียนรู้ จะกลายเป็นครูให้รุ่นน้อง
          จากจุดเริ่มต้นที่เรียนรู้จากโททาล เมื่อได้มาเป็นผู้ดำเนินการเอง เราได้มีการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ ซึ่งตลอด ปิโตรเลียม5 ปี แหล่งบงกชทำหน้าที่เป็นสถาบันแห่งการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของไทย และผลิต "นักเรียน" ไปแล้วหลายรุ่น ผสมผสานความรู้จากคนต่างยุคสมัยเข้าด้วยกัน ดังนั้นนอกจากจะเป็นสถาบันแห่งการเรียนรู้แล้ว ที่แห่งนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นในการ "ส่งต่อ" องค์ความรู้อีกด้วย
          "ประทีป มหาสวัสดิ์" ผู้จัดการแท่นผลิตบงกชเหนือ ปตท.สผ. เขาใช้เวลา ปิโตรเลียมบริษัท ปตท วันไปกับการทำงานเพื่อบริหารจัดการแท่นบงกชให้สามารถเดินหน้าผลิตก๊าซธรรมชาติได้อย่างต่อเนื่อง กับอีก ปิโตรเลียมบริษัท ปตท วัน ที่เขาจะได้กลับบ้านอยู่กับครอบครัวที่เขารัก ในวันนี้ที่คนรุ่นก่อนได้เติบโตก้าวสู่ระดับผู้บริหาร พร้อม ๆ กับการเข้ามาแทนที่ด้วยคนรุ่นใหม่ ๆ คนที่เคยเป็นผู้เรียนรู้ในอดีต วันนี้ จึงกลายเป็นผู้ที่สอนงานให้กับคนรุ่นต่อ ๆ ไป ซึ่งดูเหมือนว่าประทีป จะต้องรับมือกับความแตกต่างในจุดนี้เป็นเรื่องสำคัญ "กว่าจะได้เริ่มทำงานที่แท่นบงกช ผมต้องไปอบรมที่อาบูดาบีอยู่ บริษัท ปตทปิโตรเลียม-บริษัท ปตท3 เดือนกับอุปกรณ์จริง ๆ เพื่อจะได้ลงมือทำจริง ตอนนั้น ระดับหัวหน้าขึ้นไปเป็นชาวต่างชาติทั้งหมดเลย แรก ๆ ก็มีปัญหาเรื่องภาษาบ้าง เราก็กัดฟันสู้ เพราะเรารู้ว่า เราจะได้กลับบ้าน เราจะได้กลับไปทำงานให้ชาติ" เขาเปิดบทสนทนา
          เมื่อเราถามถึงการรับมือกับคนรุ่นใหม่ ๆ ประทีปตอบว่า "พอเรากลับมาทำงานกับคนไทยด้วยกัน ก็มีความสนิทใจกันมากขึ้น การรับมือกับเด็กรุ่นใหม่ ๆ ตอนแรกก็ยาก เพราะเวลาที่เราสั่งงาน น้อง ๆ ก็มักจะมีคำถามกลับมาเสมอว่าทำไปทำไม แต่พอเริ่มจับทางถูก เราก็เข้าใจว่าการที่เขาถามอย่างนั้น ก็เพราะว่าตัวเขาเองจะได้ลองคิดหาวิธีการใหม่ ๆ ที่อาจจะได้ประสิทธิภาพมากกว่าเดิม หรือผลลัพธ์ดีขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น การทำงานกับคนรุ่นใหม่ เราต้องชัดเจนว่าต้องการอะไร เพราะอะไร และให้โอกาสเขาลองผิดลองถูก โดยเราคอยดูอยู่ห่าง ๆ และเป็นที่พึ่งเวลาเขาเจอปัญหา"
          มีแนวทางการผสานคนหลายร้อยให้ทำงานร่วมกันอย่างไร "เราอยู่กันแบบพี่น้อง ไม่แบ่งแยกกัน ต้องยอมรับว่าการทำงานของเรายากขึ้นทุกวัน เพราะเรามีเครื่องไม้เครื่องมือเยอะขึ้น แต่ว่ามีคนเท่าเดิม การบริหารคนให้มีประสิทธิภาพเป็นเรื่องสำคัญมาก และต้องอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยสูงสุด สิ่งหนึ่งที่ผมสอนทุกคนเสมอ ก็คือต้องเรียนรู้สิ่งใหม่เสมอ การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น" ประทีปกล่าว
          บงกชไม่ใช่แค่ที่ทำงาน แต่มันคือบ้านหลังที่สอง
          สุภาพสตรีที่นั่งอยู่ข้างหน้าเราคือสาวแกร่งที่ปฏิบัติงานบนแท่นบงกช ทว่ามีท่าทางกริยาอ่อนหวาน เราจึงเปิดประเด็นกับ "กนกพร สินธวารยัน" วิศวกรกระบวนการผลิต ฝ่ายวิศวกรรมอุปกรณ์การผลิต ปตท.สผ. เรื่องการปรับตัวในบ้านหลังที่สองของเธอว่า "แรกๆ ไม่รู้จักใครเลย ผู้ชายแต่ละคนก็หน้าตาน่ากลัวกันทั้งนั้น (หัวเราะ) ช่วงแรกเขาก็จะทำหน้านิ่งๆ แต่พอลองพูดคุยด้วยเรื่องต่าง ๆ นานา สักประมาณ 3 เดือน ก็เริ่มรู้จักกัน และค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากัน" 
          ผู้หญิงบนแท่นมีน้อย? "ใช่ค่ะ มีภาวะเกิร์ลแก๊ง ผู้หญิงก็จะนอนห้องเดียวกัน รอบการทำงานบนแท่นฯ ก็มีผู้หญิงสัก ปิโตรเลียม-3 คน ก็จะเริ่มจับกลุ่มกันบ้าง" ปกติผู้หญิงทำอะไรบนแท่นยามว่าง "Tปิโตรเลียม5 ค่ะ (หัวเราะ) ก็มีฟิตเนสบ้าง บางทีก็ลงไปวิ่ง แต่ไม่ได้ถึงกับลงไปเตะบอลกับพี่ๆ เขา บางทีก็มีร้องเพลง เขามีเล่นดนตรี ก็ไปร้องเพลง ซ้อมดนตรีบ้าง"
          เมื่อเราพูดคุยถึงการทำงานบนแท่งบงกช กนกพรเล่าว่า "พี่ๆ เขาค่อนข้างให้ความใส่ใจดี แต่ที่สำคัญกว่าคือการเปิดใจและรับฟังความคิดเห็นของเรา บางทีเราเห็นในสิ่งที่เขาไม่เห็น เราก็เสนอไอเดียได้ ถ้าสามารถพิสูจน์ว่าไอเดียนั้นสามารถทำได้จริง และเพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลของการทำงานด้วยแล้ว พี่ๆ เขาก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน เรารู้สึกว่าเขาเห็นคุณค่าของพลังเล็กๆ อย่างเรา การที่เรามีการส่งต่อองค์ความรู้ มันไม่ใช่แค่เรียนรู้มา แต่มันต่อยอดไปได้เรื่อยๆ จุดนี้เป็นจุดที่รู้สึกว่าการทำงานกลายเป็นเรื่องสนุกสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่สำคัญอีกอย่างคือที่ ปตท.สผ. ให้โอกาสได้เรียนรู้งานหลากหลายมาก การได้เข้าไปอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติงานจริงทำให้เราเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นหน้างานมากขึ้น เวลาจะปรับเปลี่ยนอะไร พัฒนาอะไร ก็จะอิงกับความเป็นจริงว่ามันจะต้องสะดวกต่อคนที่ใช้งานเครื่องมืออุปกรณ์นั้นจริง ๆ"
          เมื่อเราถามถึงสิ่งที่กนกพรได้เรียนรู้จากแท่นบงกชนอกเหนือจากการทำงาน เธอยิ้มแล้วเล่าว่า "อย่างแรกคือความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เราได้เห็นฉลามวาฬมาว่ายน้ำรอบแท่นหลายครั้ง ทำให้รู้สึกว่าเรายิ่งต้องเข้มงวดกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ อย่างที่สองคือเรื่องความรักครอบครัว ส่วนใหญ่คนที่อยู่บนนั้นรักครอบครัวนะ อย่างตอนเย็นก็จะเห็นคนเป็นพ่อเฟสไทม์คุยกับลูก ได้เห็นด้านอ่อนโยนที่ปกติตอนทำงานไม่เห็น ซึ่งถ้าเป็นการทำงานในออฟฟิศ ถ้าเลิกงาน ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ก็คงไม่เห็นด้านอ่อนโยนแบบนี้"
          การจัดการความสัมพันธ์กับครอบครัวของจึงเป็นเรื่องสุดท้ายที่เราขอให้กนกพรเล่าถึง "ที่บ้านค่อนข้างชินกับการที่เราต้องเดินทางบ่อยๆ เพราะตั้งแต่ทำงานก็เดินทางบ่อยมาตลอด ช่วงแรกที่เข้ามาทำงานก็จะอยู่ที่แหล่งสิริกิติ์ พิษณุโลก ตอนนั้นก็ต้องเดินทางทุกสัปดาห์เลย มีบินไปต่างประเทศเดือนสองเดือน ครอบครัวก็เข้าใจดีค่ะ ถ้าพูดถึงการทำงานบนแท่น เขาก็ห่วงนะ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นไม่ให้ไป เพราะเขาไว้ใจกับมาตรฐานความปลอดภัยของบริษัท"
          ภารกิจของพวกเขาทั้งสามคนในวันนี้คือการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้ประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่แค่ให้คนไทยมีพลังงานจากปิโตรเลียมใช้ แต่ต้องมีองค์ความรู้ในการแสวงหาพลังงานที่เป็นของคนไทย โดยคนไทย เพื่อคนไทย อย่างแท้จริง... 
          ส่วนใครที่อยากดู MADE IN BONGKOT ฉบับเต็มๆ เข้าไปรับชมกันได้ที่ YouTube PTTEP Official ได้เลย https://youtu.be/X6MvZแหล่งก๊าซธรรมชาติHQlG4 

          เกี่ยวกับแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกช
          แหล่งก๊าซธรรมชาติบงกชเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติสำคัญที่ตั้งอยู่ในอ่าวไทย โดยมี ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการและถือสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 66.6667 และมีบริษัท โททาล บริษัทน้ำมันชั้นนำจากฝรั่งเศสเป็นผู้ร่วมทุนในสัดส่วนร้อยละ 33.3333 โดยก๊าซธรรมชาติจากแหล่งบงกชนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าของประเทศไทย ช่วยทดแทนการนำเข้า และลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ ซึ่งก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้จากแหล่งบงกช คิดเป็นร้อยละ 3แหล่งก๊าซธรรมชาติ ของการผลิตก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ภายในประเทศ
แหล่งบงกชยังเป็นแหล่งก๊าซฯ แห่งแรกที่บริษัทคนไทยเป็นผู้ดำเนินการ โดยครบรอบการผลิต ปิโตรเลียม5 ปีในเดือนกรกฎาคม ปิโตรเลียม56บริษัท ปตท ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของคนไทยในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมได้อย่างมีประสิทธิภาพทัดเทียมบริษัทน้ำมันนานาชาติ
นอกจากนี้ ก๊าซธรรมชาติจากแหล่งบงกชยังช่วยผลักดันอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของไทยและเศรษฐกิจไทย เนื่องจากเป็นวัตถุดิบตั้งต้นที่สำคัญของปิโตรเคมี รวมถึง ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือนและอุตสาหกรรมต่างๆ ของประเทศ
ปตท.สผ. หัวใจของธุรกิจ คือ ภารกิจส่งต่อองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้คนไทยมีพลังงานใช้ไม่สิ้นสุด
 
ปตท.สผ. หัวใจของธุรกิจ คือ ภารกิจส่งต่อองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้คนไทยมีพลังงานใช้ไม่สิ้นสุด
 
ปตท.สผ. หัวใจของธุรกิจ คือ ภารกิจส่งต่อองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้คนไทยมีพลังงานใช้ไม่สิ้นสุด
ปตท.สผ. หัวใจของธุรกิจ คือ ภารกิจส่งต่อองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้คนไทยมีพลังงานใช้ไม่สิ้นสุด
 
 
 

ข่าวแหล่งก๊าซธรรมชาติ+ก๊าซธรรมชาติวันนี้

ปตท.สผ. สำรวจพบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอีก 3 แหล่งใหม่ในมาเลเซีย วางแผนเร่งรัดการพัฒนาร่วมกัน สร้างการเติบโตตามแผนกลยุทธ์

ปตท.สผ. ประสบความสำเร็จในการค้นพบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอย่างต่อเนื่องอีก 3 แหล่งในประเทศมาเลเซีย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่อีกแหล่งหนึ่งที่ ปตท.สผ. ค้นพบในมาเลเซีย โดยบริษัทมีแผนเร่งรัดพัฒนาแหล่งทั้งหมดร่วมกันเป็นกลุ่ม เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า บริษัท พีทีทีอีพี เอชเค ออฟชอร์ จำกัด และบริษัท พีทีทีอีพี ซาราวัก ออยล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ในมาเล

แหล่งก๊าซธรรมชาติจากชั้นหินดินดานฉีเจียง ... ซิโนเปคพบแหล่งปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติจากชั้นหินดินดานที่แอ่งเสฉวน — แหล่งก๊าซธรรมชาติจากชั้นหินดินดานฉีเจียง เพิ่มปริมาณสำรองทางธรณีวิทยาอีก 1.459 แสนล้าน...

ซิโนเปค เซาธ์เวสต์ ออยล์ แอนด์ ก๊าซ คอมปะ... ซิโนเปคค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติแหล่งใหญ่ในแอ่งเสฉวน ความคืบหน้าแรกในหมวดหินฉงจูซี — ซิโนเปค เซาธ์เวสต์ ออยล์ แอนด์ ก๊าซ คอมปะนี ออฟ ไชนา ปิโตรเลียม ("ซิโนเป...

พีทีทีอีพี มีนา และ อีเอ็นไอ อาบูดาบี เผย... ปตท.สผ. เจาะสำรวจพบแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ — พีทีทีอีพี มีนา และ อีเอ็นไอ อาบูดาบี เผยความสำเร็จจากการเจาะหลุมสำรวจหลุมแรกในโครงกา...

แหล่งก๊าซธรรมชาติจากหินดินดานในเขตฝูหลิงข... แหล่งก๊าซหินดินดานในเขตฝูหลิงของ Sinopec สร้างสถิติใหม่โดยผลิตก๊าซได้ 4 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร — แหล่งก๊าซธรรมชาติจากหินดินดานในเขตฝูหลิงของบริษัท China Pe...