โรงงานอัจฉริยะ 2 แห่งของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับการยอมรับจากสภาเศรษฐกิจโลก ว่าเป็นประภาคารแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4

          - โรงงาน เลอ โฟเดรเยอ ในประเทศฝรั่งเศส ได้รับรางวัลให้เป็นหนึ่งในท็อป 9 โรงงานที่เปรียบเป็น "ประภาคาร" ซึ่งมีความล้ำหน้ามากที่สุด และนำไปสู่ความสำเร็จในการติดตั้งเทคโนโลยีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 อันยิ่งใหญ่
          - โรงงาน วูฮาน ในประเทศจีน ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นการพัฒนาไปสู่ "ประภาคาร" ที่ใช้กำหนดเป็นมาตรฐานสำหรับโรงงานอัจฉริยะทั้งในประเทศจีนและประเทศอื่นๆทั่วโลกได้
          - ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายอันทรงเกียรติของ "ประภาคารแห่งภาคการผลิต" ที่แบ่งปันความรู้และแนวทางปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพที่สุดให้กับอุตสาหกรรม

          ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่น เผยว่าโรงงาน เลอ โฟเดรเยอ ในประเทศฝรั่งเศส ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในท็อป 9 โรงงานซึ่งมีความล้ำหน้าเปรียบเสมือนเป็น "ประภาคาร" ของโลกซึ่งมีการฝังเทคโนโลยีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ไว้ในส่วนการผลิตอันทันสมัย ณ การประชุม Meeting of the New Champions ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีเกี่ยวกับนวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดโดยสภาเศรษฐกิจโลกที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน
          โรงงานเหล่านี้ ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็น "ประภาคาร" โดยได้มีการนำเทคโนโลยีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 มาใช้อย่างสมบูรณ์และเป็นการใช้งานในขนาดใหญ่ อีกทั้งยังยึดเอาผู้คนและความยั่งยืนเป็นหัวใจหลักของกลยุทธ์ด้านนวัตกรรม โดยโรงงาน เลอ โฟเดรเยอ ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นโรงงานอัจฉริยะแบบบูรณาการที่ได้มีการนำเครื่องมือระบบดิจิทัล เช่น AR (augmented reality) มาช่วยเสริมศักยภาพให้กับผู้ดำเนินงาน เพื่อเพิ่มความสามารถและลดเวลาการทำงานสำหรับส่วนงานปฏิบัติการและการซ่อมบำรุง รวมถึงการใช้พลังงานในไซต์งานทั้งหมด จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงได้มากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอุปกรณ์และเพิ่มผลิตผลได้สูงถึง 7 เปอร์เซ็นต์
โรงงานอัจฉริยะ 2 แห่งของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับการยอมรับจากสภาเศรษฐกิจโลก ว่าเป็นประภาคารแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4
          ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการติดตั้งเทคโนโลยีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 อันนำไปสู่การเป็นโรงงานอัจฉริยะแห่งอนาคต
          งานอีเวนต์ "ซัมเมอร์ ดาวอส" หรือ งานประชุมประจำปีของสภาเศรษฐกิจโลกครั้งที่ 12 Annual Meeting of the New Champions เป็นงานที่รวบรวมบรรดาผู้นำธุรกิจ ผู้กำหนดนโยบาย และผู้เชี่ยวชาญกว่า 2,000 ราย จากกว่า 80 ประเทศ เพื่อเข้าร่วมการอภิปรายในระดับสูง ภายใต้ธีมในปีนี้ซึ่งคือการปรับแต่งสังคมแห่งนวัตกรรมในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หรือ Shaping Innovative Societies in the Fourth Industrial Revolution โดยมีการประเมินว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 นี้จะสร้างเม็ดเงินให้กับเศรษฐกิจโลกได้ถึง 3,700 ล้านเหรียญสหรัฐจากการยกระดับประสิทธิผลให้ดียิ่งขึ้น
          การได้รับการคัดเลือกจากรายชื่อบริษัทด้านการผลิตกว่า 1,000 แห่ง ทำให้โรงงานอัจฉริยะแห่งอนาคตชั้นนำของโลกแห่งนี้ได้รับรางวัลจากการเป็นไซต์งานที่เปรียบเสมือน "ประภาคาร" จากความสำเร็จในการติดตั้งเทคโนโลยีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ในแง่ของการขับเคลื่อนให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีทั้งด้านการเงินและการดำเนินงาน
          โรงงาน เลอ โฟเดรเยอ ของชไนเดอร์ อิเล็คทริคได้รับรางวัลในฐานะที่เป็นหนึ่งในท็อป 9 ของโลกที่เป็นไซต์งานซึ่งเปรียบเสมือนเป็น "ประภาคาร" ที่มีความล้ำหน้าที่สุดของโลก โดยมีการนำเทคโนโลยีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 มาใช้ได้อย่างครอบคลุม โรงงานดังกล่าวได้มีการติดตั้งเครื่องมือระบบดิจิทัลรุ่นใหม่ล่าสุด เช่น EcoStruxureTM Augmented Operator Advisor ซึ่งช่วยให้ผู้ดำเนินงานสามารถนำเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) มาช่วยเร่งการดำเนินงานให้เร็วขึ้น รวมถึงการซ่อมบำรุงและยังช่วยเพิ่มผลิตผลได้ระหว่าง 2 ถึง 7 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ในการติดตั้งครั้งแรก ระบบสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้มากถึง30 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาหลายปี
          โรงงาน วูฮาน ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังได้รับการยกย่องจากชุมชนผู้เชี่ยวชาญในการประชุมดังกล่าวในแง่ของการเป็น "ประภาคาร" สำหรับการบุกเบิกในการนำเทคโนโลยีโรงงานอัจฉริยะมาใช้ในประเทศจีน วูฮาน ได้รับเลือกให้เป็นไซต์งานแรกที่นำระบบดิจิทัลมาใช้ สำหรับการเดินทางในการปฏิรูปสู่ดิจิทัลของชไนเดอร์ อิเล็คทริคเมื่อสองปีที่ผ่านมา ด้วยการนำสถาปัตยกรรม EcoStruxureTM สำหรับอุตสาหกรรมของชไนเดอร์ อิเล็คทริค มากำหนดเป็นมาตรฐานสำหรับโรงงานอัจฉริยะในประเทศจีนและประเทศอื่นๆ โดยไซต์งานดังกล่าวได้มีการติดตั้งระบบบริหารสินทรัพย์และความน่าเชื่อถือ ผ่านโซลูชันคลาวด์และ IIoT ซึ่งสามารถคืนผลตอบแทนจากการลงทุนได้ภายใน 6 เดือน
          อเลน เดอดิเออ รองประธานอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์ ส่วนธุรกิจอุตสาหกรรม ได้เป็นตัวแทนในนามชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในหัวข้อประชุมเรื่อง การสร้างโรงงานแห่งอนาคต (Building Factories of the Future) มาให้ภาพเกี่ยวกับการติดตั้งเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในโรงงานของชไนเดอร์ อิเล็คทริคเอง เพื่อสาธิตให้เห็นว่าโลกดิจิทัลที่เชื่อมต่อถึงกันในปัจจุบันนำผลิตภัณฑ์และความเป็นเลิศในการดำเนินงานมาใช้อย่างไร นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบทางธุรกิจในการแข่งขันผ่านประสบการณ์ยอดเยี่ยมที่ลูกค้าได้รับ โดยอเลน ยังเน้นให้เห็นถึงแนวทางการปฏิบัติระดับโลกของชไนเดอร์ อิเล็คทริคในเรื่องซัพพลายเชนที่มีส่วนช่วยเร่งไปสู่อุตสาหกรรมสีเขียวที่ยั่งยืน

          จากการสาธิต สู่การปฏิรูป ของเครือข่าย "ประภาคาร" เพื่อภาคการผลิต
          กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ของธุรกิจที่ลงทุนในเทคโนโลยี เช่น ระบบวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า ปัญญาประดิษฐ์ หรือการพิมพ์แบบ 3 มิติ ไม่สามารถนำโครงการนำร่องไปสู่เฟสต่อไปได้ ซึงประเด็นคือภาคอุตสาหกรรมต้องเผชิญทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจเกิดใหม่และเศรษฐกิจแบบก้าวหน้า เมื่อถึงเวลาที่ต้องลงทุนในเทคโนโลยีล้ำหน้า สภาเศรษฐกิจโลกจึงได้เปิดตัวเครือข่าย "ประภาคารเพื่อภาคการผลิต" หรือ "manufacturing lighthouses" เพื่อสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ โดย "ประภาคาร" ได้นำประโยชน์ที่เก็บเกี่ยวและเรียนรู้มาช่วยนำทางระบบนิเวศด้านการผลิตที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่เป็นบริษัทข้ามชาติ องค์กรขนาดกลางและเล็ก สตาร์ท-อัพ ภาครัฐบาล และภาคการศึกษา
          ปัจจุบัน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอันทรงเกียรติของบรรดาผู้นำในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ที่เห็นพ้องในเรื่องของการเปิดประตู เพื่อแบ่งปันความรู้และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ร่วมกับอุตสาหกรรมอื่นๆ (เช่น อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อิเล็คทรอนิกส์ ฯลฯ) พร้อมทั้งพัฒนาระบบนิเวศของผู้สร้างนวัตกรรม ซึ่งยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีโรงงานอัจฉริยะมาใช้ต่อไปในภายภาคหน้า
          โรงงาน เลอ โฟเดรเยอ ได้รับเครื่องหมายการเป็นโชว์เคสอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หรือ Vitrine Industrie du Futur ("Future Industry Showcase") จาก Alliance Industrie du Futur ในประเทศฝรั่งเศส โดยเมื่อต้นปีนี้ โรงงานดิจิทัลแห่งนี้ ได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2018 ซึ่งได้รับเกียรติจาก Sebastien Lecornu เลขาธิการรัฐของฝรั่งเศสและเป็นรัฐมนตรี Ecological and Inclusive Transition พร้อมด้วย ฌอง ปาสคาล ตริคัวร์ ประธานและซีอีโอ ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เข้าร่วมในพิธี
โรงงานอัจฉริยะ 2 แห่งของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับการยอมรับจากสภาเศรษฐกิจโลก ว่าเป็นประภาคารแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4
 
โรงงานอัจฉริยะ 2 แห่งของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับการยอมรับจากสภาเศรษฐกิจโลก ว่าเป็นประภาคารแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4
          เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค
          ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น ตั้งแต่ บ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยการยืนหยัดอยู่ในเวทีระดับโลกในกว่า 100 ประเทศ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นผู้นำที่โดดเด่นในด้านการจัดการพลังงาน ทั้งแรงดันไฟฟ้าขนาดกลาง-ต่ำ และระบบสำรองไฟฟ้า รวมถึงระบบออโตเมชั่นต่างๆ เรานำเสนอโซลูชั่นแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการผสานการทำงานร่วมกันทั้งในส่วนของพลังงาน ระบบออโตเมชั่น และซอฟต์แวร์ เรามีระบบนิเวศทั่วโลก ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือกับคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด รวมถึงชุมชนนักพัฒนาและผู้วางระบบบนแพลตฟอร์มเปิด เพื่อมอบประสิทธิภาพด้านการดำเนินงาน และการควบคุมในแบบเรียลไทม์ เราเชื่อว่าด้วยผู้คนที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ และพันธมิตรของเรา จะช่วยให้ชไนเดอร์ อิเล็คทริคเป็นบริษัทที่เยี่ยมยอด พร้อมกับคำมั่นสัญญาของเราที่มุ่งมั่นในเรื่องการสร้างนวัตกรรม ความหลากหลาย และความยั่งยืนช่วยให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า "Life is On" ในทุกที่สำหรับทุกคน และทุกช่วงเวลา www.schneider-electric.co.th
 
 

ข่าวชไนเดอร์ อิเล็คทริค+ชไนเดอร์อิเล็คทริควันนี้

ทรู ไอดีซี คว้า 'Sustainability Impact Award 2024' จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค ตอกย้ำผู้นำดาต้าเซ็นเตอร์รักษ์โลก

ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ (ทรู ไอดีซี) ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ สร้างชื่อเสียงในระดับประเทศ คว้ารางวัล Sustainability Impact Award 2024 จากการประกวดโครงการด้านความยั่งยืนของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำระดับโลกด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน รางวัลนี้มีเป้าหมายเพื่อยกย่ององค์กรที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์โลกที่ยั่งยืน ผ่านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งมีบริษัทชั้นนำหลากหลายแห่งทั่วโลกร่วมส่งผลงานเข้าประกวด และ

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส... ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ — ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดก...

ในอุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่ เป้าหมายเรื่อ... ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เน้น 3 การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจ CPG เติบโตอย่างยั่งยืนและมีกำไร — ในอุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่ เป้าหมายเรื่องการลดคาร์บอนยัง...

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส... ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จับมือ ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ ร่วมพัฒนาขีดความสามารถการบริหารจัดการน้ำ — ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจั...

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำทีมโดย นายอรรถกฤต จ... ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ร่วมงาน IEEE PES GTD Asia 2025 นำโซลูชั่นช่วยชาติลดคาร์บอนปลายปีนี้ — ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำทีมโดย นายอรรถกฤต จำปา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุ...

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว EcoStruxure B... ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว โซลูชั่นสำหรับอาคารขนาดเล็ก และขนาดกลาง — ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว EcoStruxure Building Activate โซลูชั่นอัจฉริยะที่ช่วยพลิ...