จากเหตุการณ์ดังกล่าว กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ทำการตรวจสอบและสอบสวนตามระเบียบกรมฝนหลวงและการบินเกษตรว่าด้วยการบิน พ.ศ. 2558 โดยได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง คือ คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุด้านนิรภัยการบิน ซึ่งคณะกรรมการฯ พิจารณาดำเนินการตรวจสอบอุบัติการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากอุปกรณ์ Mode Selector Switch (สวิทช์ควบคุมการเลือกหน้าที่การทำงานการจ่ายไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าในการติดเครื่องยนต์) ที่แผง Engine Start ซึ่งอยู่บริเวณแผงควบคุม เหนือศีรษะ (Overhead panel) ชำรุดไม่ทำงาน ซึ่งเป็นตัวเลือกแหล่งกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ไปสู่ระบบไฟฟ้าภายในเครื่องบิน โดยใช้งานมาเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดความเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ดังกล่าว
ร้อยโท บัญชา พาลี ผู้ควบคุมหน่วยการบิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนทำการบินในแต่ละครั้ง นักบินจะต้องมีการตรวจสอบความพร้อมการใช้งานระบบต่างๆ ของเครื่องบินตามคู่มือการปฏิบัติการบิน โดยจะตรวจความเรียบร้อยภายนอกเครื่องบิน ได้แก่ อุปกรณ์ตรวจวัดข้อมูล เสาอากาศ พื้นผิวลำตัว พื้นบังคับหลักและรอง ฐานล้อ กระจก ดวงไฟ และประตู ตรวจเตรียมความพร้อมภายในห้องโดยสาร ตรวจและเตรียมความพร้อมการใช้งานในห้องนักบิน และตรวจระบบต่างๆ เช่น อุปกรณ์ฉุกเฉิน ระบบไฟฟ้าวิทยุสื่อสารและนำร่อง ระบบวัดปริมาณเชื้อเพลิง ระบบสวิทช์ควบคุมการเลือกหน้าที่การทำงานการจ่ายไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าในการติดเครื่องยนต์ ระบบปรับความดัน และระบบสนับสนุนอื่นๆ เป็นต้น
สำหรับอุปกรณ์ Mode Selector Switch เป็นสวิทช์ควบคุมการเลือกหน้าที่การทำงาน การจ่ายไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าในการติดเครื่องยนต์ มีหน้าที่ในการเลือกที่มาของแหล่งไฟฟ้าเพื่อนำไปใช้งาน และป้องกันไม่ให้ไฟฟ้าที่ไม่ได้เลือกเข้ามาในระบบ ซึ่งการเสียจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การลัดวงจร วงจรขาด ขั้วหรือขาในการเลือกตำแหน่งของสวิทช์ชำรุด โดยในกรณีของเครื่องบิน CN 235 เกิดจากสาเหตุ ขั้วหรือขาในการเลือกตำแหน่งของสวิทช์ชำรุด และเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จึงทำให้กระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแหล่งกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ไม่สามารถนำไปใช้งานได้ และไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ ทำให้อุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าในเครื่องบินทั้งหมดใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว ซึ่งสามารถใช้ได้ในเวลาที่จำกัด ทำให้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่หมด เป็นเหตุให้อุปกรณ์ที่ใช้ระบบไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ เช่น ระบบวิทยุสื่อสารจอแสดงผล แผ่นเพิ่มแรงยก (Flap) ระบบป้องกันล้อล็อค (Anti-skid) และระบบฐานล้อ (Landing gear) นักบินจึงต้องนำเครื่องบินลงจอดด้วยความเร็วมากกว่าปกติ และต้องทำการกางล้อ-ห้ามล้อด้วยระบบฉุกเฉิน ทำให้ล้อล็อค เป็นสาเหตุทำให้ยางล้อระเบิด ทั้งนี้ เรื่องอายุการใช้งานของเครื่องบินไม่ได้เป็นปัจจัยให้เกิดเหตุ เพราะมีการตรวจซ่อมตามวงรอบ และหลังจากนี้จะมีการเพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบระบบไฟฟ้าขณะทำการบิน ทุกๆ 30 นาที ลงในคู่มือปฏิบัติการบิน และทำการตรวจเช็คอุปกรณ์ดังกล่าวทุกการตรวจซ่อม 100 ชั่วโมง เป็นมาตรการป้องกันเพิ่มเติมต่อไป
อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ดำเนินการซ่อมบำรุง เปลี่ยนอุปกรณ์ Mode Selector Switch และรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทราบแล้ว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำชับให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร หมั่นตรวจเช็คอากาศยานอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากต้องทำงานเกี่ยวข้องกับสารเคมี ทั้งนี้ เครื่องบิน CN 235 สามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยหลังจากนี้ จะนำเครื่องบินไปเสริมการปฏิบัติการฝนหลวงที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่กำลังประสบกับปัญหาภัยแล้งในด้านการเกษตรและความต้องการน้ำในเขื่อนสำคัญ ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2562 เป็นต้นไปอีกด้วย นายสุรสีห์ กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit