ตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศและการส่งออกไปยังตลาดในภูมิภาคและทั่วโลก พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์และชุมชนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
นิสสัน เดินหน้าบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ จากความสำเร็จในการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกจากฐานการผลิตในประเทศไทยไปยังจุดหมายปลายทางทั่วโลกครบ 1 ล้านคัน ซึ่งรถยนต์คันที่ 1 ล้าน คือ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์ พรีเมียมเอสยูวีแบบตัวถังบนแชสซีส โดยเป็นรถยนต์ที่โรงงานนิสสัน ประเทศไทยดำเนินการผลิตเพื่อส่งออกไปยังทั่วโลก
นิสสัน ประเทศไทย เริ่มทำการส่งออกรถยนต์คุณภาพสูงที่ผลิตขึ้นในประเทศไทยไปสู่ลูกค้าทั่วโลก นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 โดย นิสสัน ฟรอนเทียร์ คือรถยนต์รุ่นแรกที่ถูกส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย นับแต่นั้นเป็นต้นมา ฐานการผลิตของนิสสัน ประเทศไทย ได้มีการขยายตัวเพื่อรองรับการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นจนได้รับการยอมรับให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสำคัญของนิสสันในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ทำหน้าที่สำคัญในการผลิตรถยนต์คุณภาพส่งถึงมือลูกค้า ผู้ขับขี่จากทั่วทุกมุมโลกในปีที่ผ่านมา ตลาดส่งออกสูงสุด 3 อันดับแรกของนิสสัน ประเทศไทย ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ตามด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย แอฟริกาใต้ เวียดนาม นิวซีแลนด์ ดูไบ และโอมาน
ตั้งแต่พ.ศ. 2542 นิสสันได้ขยายการส่งออกรถยนต์จากประเทศไทยไปยังกว่า 115 ประเทศทั่วโลก โดยปัจจุบัน รถยนต์ที่นิสสัน ประเทศไทย ผลิตเพื่อการส่งออก มีจำนวน 6 รุ่น ได้แก่ นิสสัน อัลเมลร่า มาร์ช นาวารา ซิลฟี่ เทียน่า และเทอร์ร่า นอกจากนี้ นิสสันยังได้ทำงานร่วมกับ 250 กว่าบริษัทที่อยู่ภายใต้ซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งก่อให้เกิดการว่าจ้างแรงงานอีกกว่า 170,000 อัตรา และในปี พ.ศ. 2561 นิสสัน ยังมีปริมาณการส่งออกรถยนต์ของไทยสูงสุดเป็นอันดับ 5 โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2560 ถึง 19%ยูตากะ ซานาดะ รองประธานอาวุโสของนิสสันเอเชียและโอเชียเนีย กล่าวว่า "ความสำเร็จของนิสสัน ในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงบทบาทของประเทศไทยที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์แห่งนวัตกรรมนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ ที่เน้นสร้างสรรค์รูปแบบการขับขี่ที่ปลอดภัย ฉลาด และยั่งยืนให้แก่ผู้คน ผู้ใช้รถบนท้องถนนทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็น นิสสัน เทอร์ร่า รถยนต์เพื่อการส่งออกคันที่ 1 ล้าน ได้เดินทางออกจากท่าเรือแหลมฉบังในวันนี้ โดย นิสสัน เทอร์ร่า ซึ่งผลิตขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อภูมิภาคนี้โดยเฉพาะนั้นได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าทั่วทั่งภูมิภาคเป็นอย่างดี" โดยนายยูตากะ ซานาดะ กล่าวเสริมว่า "เราจะยังคงเดินหน้าลงทุนในระบบนิเวศอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ตลอดไปจนถึงการส่งเสริมให้เกิดสร้างงานและกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ พร้อมนำเอาประโยชน์จากอุตสาหกรรม 4.0 มาประยุกต์ใช้ให้เกิดคุณค่ากับประเทศไทย"
ส่วน อันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ได้กล่าวภายในงานนี้ถึงความภาคภูมิใจต่อความสำเร็จของยานยนต์คุณภาพระดับโลกที่ผลิตขึ้น ณ โรงงานนิสสัน ประเทศไทย ว่า "ความสำเร็จในการส่งออกรถยนต์ของนิสสันในครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของเหล่าพนักงานกว่า 5,000 คน พร้อมด้วยการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากลูกค้า ผู้แทนจำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจชาวไทยของเรา" พร้อมทั้งกล่าวเสริมอีกว่า "ปัจจุบัน ฐานการผลิตของนิสสันในจังหวัดสมุทรปราการมีกำลังการผลิตรวมถึง 370,000 คันต่อปี"
ดร. บงกช อนุโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า "ดิฉันขอแสดงความยินดีกับนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ในโอกาสเฉลิมฉลองความสำเร็จในครั้งนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นประวิติศาสตร์การส่งออกครั้งสำคัญของประเทศไทยที่สามารถส่งออกไปไกลถึงทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป ประเทศญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และตลาดสำคัญอื่น ๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เข้มงวด ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ ยังเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกไปยังทั่วโลก พร้อมกันนี้ ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในการผลิตรถยนต์คุณภาพสูงของประเทศไทยในเวทีระดับโลก โดยบีโอไอจะยังคงมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่รวมถึงบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ อย่าง นิสสัน เพื่อส่งเสริมการลงทุนด้านการวิจัย การพัฒนา และสร้างสรรค์นวัตกรรมระบบการผลิตอัจฉริยะ รวมถึงการพัฒนาทักษะแรงงานอีกด้วย"นิสสันเริ่มต้นสายพานการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 และได้ย้ายฐานการผลิตไปยังจังหวัดสมุทรปราการในพ.ศ. 2518 เพื่อรองรับความต้องการรถยนต์นิสสันในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทฯ ได้เดินหน้าลงทุน เพื่อยกระดับเทคโนโลยีการผลิตให้มีความทันสมัย รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
ต่อมาในปี พ.ศ.2557 นิสสันได้เปิดไลน์การผลิต ณ โรงงานแห่งที่ 2 บนถนนบางนา – ตราด กม. 22 เพื่อเป็นฐานการผลิต นิสสัน นาวารา สำหรับจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปยังทั่วโลก นอกจากนี้ ยังได้รับการยอมรับให้เป็นศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศระดับโลก (COE) สำหรับรถกระบะอีกด้วย และในเดือนเมษายน พ.ศ. 2558 นิสสันได้เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์ระดับภูมิภาค ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับโรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ"นิสสันมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพของพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยได้ส่งพนักงานไทย เข้าร่วมฝึกอบรมที่โรงงานผลิตในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 163 คน นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการในพ.ศ. 2559" นายอันตวนกล่าวเพิ่มเติม
พร้อมกันนี้ นิสสัน ยังให้การสนับสนุนชุมชนทั่วประเทศไทยผ่านโครงการฝึกงานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยกว่า 11 แห่ง และโครงการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำสำหรับเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นการร่วมมือกับมูลนิธิรักษ์ไทย และ แคร์ ประเทศญี่ปุ่น โดยคาดการณ์จำนวนนักเรียนมากกว่า 1,000 คนจากโรงเรียน 10แห่งใน 3 จังหวัดที่ร่วมโครงการ ซึ่งรวมถึงจังหวัดสมุทรปราการ จะเข้าร่วมในโครงการผู้นำเยาวชนในครั้งนี้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 190 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด
นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.77 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.9 ล้านล้านเยน ในวันที่ 1 เมษายน2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.O.V.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.6 ล้านคันในปี 2560
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook, Instagram, Twitter , LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่YouTube
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit