คุณชนิสา แก้วเรือน ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้ให้มุมมองและรายละเอียดของการจัดงานครั้งนี้ว่า "ขณะนี้ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตดีมาก ด้วยหลายปัจจัยบวกต่างๆ ที่ส่งสัญญานชัดเจนไม่ว่าจะเป็น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่ส่งผลต่อการวางแผนการลงทุน ให้แก่ผู้ประกอบการภาคเอกชน ความคืบหน้าของการคมนาคมโดยเฉพาะการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า 10 สายที่มีการลงมือก่อสร้างอย่างคึกคัก ทำให้ทำเลโดยรอบสถานีได้รับความนิยมอย่างมาก ส่งผลให้กรมผังเมืองเตรียมกำหนดปรับเปลี่ยนสีผังเมืองฉบับใหม่โดยมีหลายพื้นที่ต้องเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล (ที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก) เปรียบเสมือนการวางทิศทางการขยายตัวของเมือง ซึ่งจะช่วยดันมูลค่าที่ดินให้สูงขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาโครงการต่างๆ ได้มากขึ้นเมื่อรถไฟฟ้ามาถึง
นอกจากนี้การขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์รองรับผู้สูงวัยในประเทศไทยก็ได้รับความสนใจ และขยายการลงทุนไปมากไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท จากความชัดเจนเป็นรูปธรรมในการกำหนดให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางลำดับต้นๆ ของโลกสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยระยะยาว (Long stay) และล่าสุดในการเป็น 1 ใน 14 ประเทศที่ขยายระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักร สำหรับกลุ่มพำนักระยะยาว (Long Stay Visa) ที่อนุญาตให้พำนักในไทยครั้งที่ 1 ไม่เกิน 5 ปี จากเดิมปีต่อปี และสามารถต่ออายุได้อีก 5 ปี จึงคาดว่ากลุ่มชาวต่างชาติจะให้ความสนใจต่อการอยู่อาศัยหลังเกษียณในประเทศไทยกันมากขึ้น เนื่องจากปัจจัยด้านวีซ่าที่เคยเป็นอุปสรรคสำคัญหากเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่งได้หมดไปแล้ว และยังมีประเด็นสำคัญอื่นๆ เอื้อเฟื้อต่อการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เช่น หลักประกันชีวิต ประกันสุขภาพตลอดอายุวีซ่า สวัสดิการที่ครอบคลุมจากประเทศต้นทาง ซึ่งได้รับการพัฒนาขับเคลื่อนให้ทันต่อการรองรับกลุ่มผู้สูงวัย
ภาพรวมตลาดที่ดีสร้างความเชื่อมั่นเหล่านี้ ทำให้ผู้ประกอบการ และดีเวลลอปเปอร์ต่างๆ นำกลยุทธ์การตลาดทุกเครื่องมือออกมาสร้างแรงจูงใจให้ผู้ซื้อเร่งตัดสินใจ อีกทั้งเพิ่มความเข้มข้นในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพื่อกระตุ้นยอดซื้อไม่ว่าจะเป็นการคำนึงศักยภาพของทำเลที่ตั้ง เส้นทางคมนาคม คุณภาพของวัสดุก่อสร้าง การตกแต่งดีไซน์ สิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนการวางกลยุทธ์ในการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อ และการจัดแคมเปญข้อเสนอพิเศษ
ทางฝั่งของผู้ซื้อไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว หรือเพื่ออยู่อาศัย ต่างก็ต้องศึกษารายละเอียดให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้ได้ครอบครองที่พักอาศัยใน อุดมคติที่ตอบสนองความต้องการของตนเองมากที่สุด ภายในงาน "สยามพารากอน ลักส์ชัวรี่ พร็อพเพอร์ตี้ โชว์เคส 2018" ซึ่งจัดต่อเนื่องมาถึงครั้งที่ 12 และประสบความสำเร็จด้วยดีมาโดยตลอด โดยทุกครั้งได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบการ ลูกค้า และนักลงทุนให้เป็นงานแสดงบ้านและคอนโดมีเนียมสุดหรูแห่งปีที่รวบรวมผู้ประกอบการระดับแถวหน้าไว้ในที่เดียวกัน โดยปีนี้มีถึง 11 โครงการเด่นมาให้ลูกค้าและนักลงทุนได้มีโอกาสเลือกชมโครงการฯ ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ใช่ในราคาที่คุ้มค่าและง่ายต่อการตัดสินใจที่สุด"
สำหรับอสังหาริมทรัพย์ระดับมาสเตอร์พีซจากโครงการที่พักอาศัย และบ้านพักตากอากาศระดับแนวหน้า ที่นำมาจัดแสดงภายในงานครั้งนี้ ล้วนเป็นโครงการเหนือระดับบนใจกลางทำเลสุดหรูที่ดีที่สุด ได้แก่ ALTITUDE MASTERY, BAAN KLANG MUANG CLASSE, BANYAN TREE RESIEDNCES RIVERSIDE BANGKOK, BERKELEY, CASSIA RESIDENCES PHUKET, CRAFT PLOENCHIT, PITI EKKAMAI, THE NEST, THE RESIDENCES AT SHERATON PHUKET GRAND BAY, WALDEN ASOKE, WISH SIGNATURE II MIDTOWN SIAM รวมกว่า 3,000 ยูนิต เพื่อให้ได้เลือกจับจองในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4.4 ล้านบาท – 360 ล้านบาท
พบกับโอกาสการลงทุนระดับมาสเตอร์พีซด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ ได้แก่ ต่อที่ 1 ส่วนลดและข้อเสนอแห่งปีจากโครงการที่พักอาศัยเหนือระดับของไทยบนทำเลที่ดีที่สุด ต่อที่ 2 ตั๋วเครื่องบินไป-กลับฟู้โกว๊ก ประเทศเวียดนาม พร้อมแพ็คเก็ตที่พักสุดหรู สำหรับ Top Spenders ต่อที่ 3 สิทธิพิเศษเมื่อชำระค่าจองผ่านบัตรเครดิตชั้นนำ ได้แก่ บัตรเครดิตกสิกรไทย, บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ และบัตรเครดิตธนชาต และเอกสิทธิ์เฉพาะสมาชิกแพลตตินั่ม เอ็ม การ์ด รับ M Point 4,000 คะแนนเมื่อจองภายในงานทุก 10,000 บาท (จำกัด 10 สิทธิ์ตลอดรายการ) โดยงาน "สยามพารากอน ลักซ์ชัวรี่ พร็อพเพอร์ตี้ โชว์เคส 2018" จัดตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 2 กันยายน 2561บริเวณแฟชั่น ฮอลล์ และแฟชั่น แกลเลอรี่ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit