นางกัญญา งามสงวน ผู้ช่วยผู้จัดการสหกรณ์วัดจันทร์ จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จในการส่งเสริมอาชีพปลูกเมล่อนอินทรีย์ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมของผู้บริโภค ว่า สหกรณ์ได้ส่งเสริมสมาชิกหันมาปลูก เมล่อนอินทรีย์ ในลักษณะปลูกในโดม ซึ่งสหกรณ์มีเป้าหมายที่จะสร้างอาชีพสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับสมาชิกและเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดสารพิษให้กับผู้บริโภค ที่ผ่านมา สหกรณ์ได้เริ่มต้นส่งเสริมสมาชิกปลูกผักบุ้งอินทรีย์ปลอดสาร เป็นเวลา 1 ปี แต่เจอกับอุปสรรคเรื่องราคาผักบุ้งตกต่ำ ไม่มีตลาดรองรับและไม่คุ้มค่าแรง จึงได้หาความรู้เพิ่มเติม โดยเข้าอบรมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดพิษณุโลก และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก ที่ได้มาสนับสนุนโครงการปลูกพืชทางเลือกและผักปลอดภัยเพื่อเพิ่มรายได้เสริมให้กับกลุ่มสมาชิก ได้เรียนรู้วิธีการปลูกเมล่อนตามนโยบายยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรและสร้างมูลค้า เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และพัฒนาให้เป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกร
"สหกรณ์ได้รับคำแนะนำจากสำนักงานเกษตรจังหวัดในการเรียนรู้วิธีการปลูกเมล่อน ใช้เวลาเพียง 60 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตนำไปขายได้ และได้เตรียมตลาดไว้รองรับผลผลิตของสมาชิก เพื่อช่วยกระจายไปสู่ผู้บริโภค จากนั้นสหกรณ์จึงลงทุนสร้างโรงเรือนกลางของสหกรณ์ใช้งบประมาณ 600,000 บาท เนื่องจากเห็นว่าเมล่อน เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่กำลังมาแรงที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุน อีกทั้งกำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคจำนวนมาก หากมีตลาดรองรับชัดเจน ก็จะขยายพื้นที่ปลูกเพิ่ม เชื่อว่าในอนาคตเมล่อนจะทำเงินให้กับเกษตรกรได้อย่างงดงาม ต่อมาสหกรณ์ได้หันมาปลูกเมล่อนอินทรีย์ตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี โดยซื้อเมล็ดพันธุ์เมล่อนพันธุ์กรีนเน็ตมาปลูก ซึ่งทำให้ผลผลิตมีรสชาติดี เนื้อนุ่ม หวาน หอม มีทั้งสีส้มและเขียว ปัจจุบันขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท ถ้าซื้อเหมาถึงฟาร์มขายราคากิโลกรัมละ 80 บาท ซึ่งถูกกว่าตามห้างทั่วไปและยังปลอดสารด้วย เพราะ อยากให้ผู้บริโภคได้กินเมล่อนปลอดสารและราคาที่ไม่แพง"นางกัญญา กล่าว
ปัจจุบันสหกรณ์มีโรงเรือนสำหรับปลูกเมล่อน 2 โรงเรือน เป็นโรงเรือนแบบปิดที่สามารถควบคุมการผลิตได้ โดยจะควบคุมความหนาแน่นของจำนวนต้น การให้น้ำ การดูแลรักษาซึ่งปลอดจากสารเคมี สารกำจัดแมลง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ผลิตและผู้บริโภคอย่างแท้จริง นอกจากนี้ การปลูกเมล่อน ยังมีต้นทุนต่ำ ดูแลรักษาง่าย ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก เพราะเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยใช้เพียงการทำแบบระบบน้ำหยด เปิดปิดเป็นเวลา จากที่เงินลงทุน ครั้งแรก 6 แสนบาท สหกรณ์ได้เริ่มเก็บผลผลิตและจำหน่ายเมล่อนรุ่นแรก ทำกำไรถึง 80,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกร ปัจจุบันสหกรณ์ขายเมล่อนตามยอดสั่งซื้อของลูกค้า ที่สั่งผ่านชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด และโครงการธงฟ้าประชารัฐ นอกจากนี้ ยังได้เชิญหอการค้าจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด กรมการค้าภายใน มาเยี่ยมชมและชิมรสชาติเมล่อนจากฟาร์มของสหกรณ์ แล้วก็ประทับใจ และช่วยประชาสัมพันธ์หาช่องทางในการจำหน่ายเมล่อนให้กับสหกรณ์ ทำให้ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ซื้อกลับไปชิมครั้งแรก ก็จะกลับมาซื้ออีกเพราะติดใจในรสชาติ จากที่ตอนแรกลูกค้าไม่มั่นใจในรสชาติเมล่อน เพราะไม่เคยทานและมองว่าเป็นผลไม้ที่ราคาแพง แต่เมื่อได้ลองทานแล้วก็ชื่นชอบกลับมาซื้อเพราะเห็นว่าราคาถูกกว่าในห้างแถมหวานอร่อยกว่าด้วย
ขณะนี้สหกรณ์กำลังจะขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มอีก 2 โรงเรือน เพื่อกระจายผลผลิตออกสู่ตลาดให้มากขึ้น โดยจะให้สมาชิกนำความรู้ไปต่อยอด หากจะทดลองปลูกที่บ้านของตัวเอง สหกรณ์ก็จะไปรับซื้อถึงที่เพื่อช่วยสร้างรายได้ให้แก่สมาชิก ขณะเดียวกันสหกรณ์จะประชุมกับทางสำนักงานเกษตรจังหวัด เพื่อนำเสนอเมล่อนอินทรีย์ของสหกรณ์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถช่วยกระจายสินค้าได้ดีและมีตลาดรองรับเพิ่ม โดยสหกรณ์มองเห็นโอกาสจากการปลูกเมล่อนจำหน่าย หากสมาชิกได้เรียนรู้และสนใจจะทำอาชีพนี้จริงจัง ก็น่าจะสร้างรายได้ให้กับสมาชิกได้มากกว่าการปลูกพืชชนิดอื่น และทำให้มีรายได้อย่างต่อเนื่องทั้งปี ขณะนี้มี ห้างสรรพสินค้าติดต่อมารับซื้อเยอะ แต่สหกรณ์ต้องการทำให้ผลผลิตมีคุณภาพคงที่เสียก่อน แล้วจะขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นเพื่อรวบรวมผลผลิตส่งขายให้กับทางห้าง ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเรียนรู้ แต่คาดว่าในอนาคตสหกรณ์จะสามารถผลิตเมล่อนอินทรีย์ ส่งจำหน่ายให้กับผู้บริโภคได้เพิ่มมากขึ้น หากสนใจจะสั่งซื้อเมล่อนจากสหกรณ์วัดจันทร์ จำกัด จังหวัดพิษณุโลก ติดต่อสอบถามได้ที่ 055-258449 หรือ 086-9374904
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit