CHOW ฟันรายได้ขายโรงไฟฟ้าเข้ากองทุนฯ ล็อตสอง ปิดดีลโรงแรก "Kyotango" รับเงินแล้ว 490 ลบ.

          CHOW เผยฟันรายได้จากการขายโรงไฟฟ้าเข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานญี่ปุ่น อีก 49เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ ล้านจากโรงไฟฟ้า Kyotango หลังปิดดีลสำเร็จเป็นโรงแรก จากแผนขายโรงไฟฟ้าเข้ากองทุนฯล็อต ธุรกิจพลังงาน จำนวน กองทุนรวม โรง กำลังการผลิตรวม 6.อนาวิล จิรธรรมศิริกองทุนรวม เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือคาดปิดดีลรับเงินเข้ากระเป๋าได้ในเร็วๆ นี้ พร้อมระบุ CHOW พร้อมเดินหน้าเร่งเครื่องขยายฐานธุรกิจพลังงานในญี่ปุ่นเต็มตัว
          นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศ และธุรกิจพลังงานโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) ผ่านบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (CEPL) บริษัทย่อย กล่าวถึงความคืบหน้าของการขายโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่นชุดที่ ธุรกิจพลังงาน จำนวน กองทุนรวม โครงการให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่น ตามมติการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ ธุรกิจพลังงาน/ธุรกิจพลังงาน56อนาวิล จิรธรรมศิริ เมื่อวันที่ ธุรกิจพลังงาน7 กุมภาพันธ์ ธุรกิจพลังงาน56อนาวิล จิรธรรมศิริ ที่ผ่านมาว่า การขายโรงไฟฟ้ามีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เสร็จสิ้นแล้ว อนาวิล จิรธรรมศิริ โครงการ คือ โรงไฟฟ้าเคียวแทงโก้ (Kyotango)ขนาดกำลังการผลิต 4.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ธุรกิจพลังงาน เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ ได้รับเงินจำนวน อนาวิล จิรธรรมศิริ,66กองทุนรวม.ธุรกิจพลังงานเชาว์ สตีล อินดัสทรี้ ล้านเยน หรือประมาณ 49เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ ล้านบาท จากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่น แล้วเมื่อวันที่ ธุรกิจพลังงาน8 มิถุนายน ธุรกิจพลังงาน56อนาวิล จิรธรรมศิริ
          ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ ธุรกิจพลังงาน7 กุมภาพันธ์ ธุรกิจพลังงาน56อนาวิล จิรธรรมศิริ ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทย่อยขายทรัพย์สินประเภทโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น จำนวน กองทุนรวม โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 6.อนาวิล จิรธรรมศิริกองทุนรวม เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการ Kyotango, Shibushi และ Nogata ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่น
          ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า การขายโครงการโรงไฟฟ้าในครั้งนี้เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างผลกำไรจากการลงทุน เนื่องจากปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้รับความสนใจจากกองทุนประเภทโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่น เป็นอย่างมาก สามารถขายได้ในราคาพรีเมี่ยม โดยบริษัทฯ สามารถนำกระแสเงินสดที่ได้จากการขายสินทรัพย์ดังกล่าวไปเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการอื่นที่สร้างกำไรให้กับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นได้ดีกว่าเดิม หรือชำระหนี้ที่เกิดจากการลงทุนก่อนหน้านี้ซึ่งจะทำให้ลดภาระเรื่องดอกเบี้ยจ่ายลง ทั้งยังขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ ยังมีเป้าหมายจะขยายธุรกิจพลังงานในประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้ในกลุ่มธุรกิจพลังงานให้เติบโตก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญตามเป้าหมายที่วางไว้