เอ็ม พิคเจอร์ส มั่นใจ
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยปี 256อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย เติบโตสดใส จากภาพรวม 9 เดือนมีภาพยนตร์ทำเงินมากกว่าปี 256เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป คาดถึงสิ้นปีจะมีภาพยนตร์ไทยทำเงินเกิน อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ปเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ล้านหลายเรื่อง อีกทั้ง ได้แรงหนุนจาก "นาคี 2" ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย โดยทำรายได้เปิดตัววันแรกที่เข้าฉายทั่วประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 5เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ล้านบาท แม้จะเข้าฉายในวันธรรมดาก็ตาม พร้อมทั้งได้รับผลดีจาก
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ซึ่งลงทุนขยายตลาดสร้างโรงภาพยนตร์เปิดสาขาเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และกลุ่มประเทศ CLMV อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นช่องทางรองรับให้ภาพยนตร์ไทยมีโอกาสเติบโตเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ พร้อมพัฒนาและผลักดันให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยสามารถส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ เชื่อมั่นโอกาสการเติบโตยังมีอยู่มาก ปีหน้า กลุ่ม เอ็ม พิคเจอร์ส มีภาพยนตร์เข้าฉายรวม อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย3 เรื่อง
พรชัย ว่องศรีอุดมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์สเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในปี 256อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ว่า ในปีนี้การเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเติบโตอย่างเห็นได้ชัด จากภาพรวม 9 เดือน มีภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้เกิน อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ปเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ล้านบาท 4 เรื่อง ได้แก่ น้องพี่ที่รัก ของจีดีเฮช, ไบค์แมน ศักรินทร์ ตูดหมึก ของเอ็ม 39, ขุนพันธ์ 2ของสหมงคลฟิล์ม และ ๙ ศาสตรา ของ เอ็ม พิคเจอร์ส ซึ่งมีจำนวนเรื่องมากกว่าปี 256เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ที่มีภาพยนตร์ไทยทำรายได้เกิน อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ปเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ล้านบาท เพียง 3 เรื่อง คือ ส่ม ภัค เสี้ยน ของเอ็ม พิคเจอร์ส, Bad Genius ฉลาดเกมส์โกง ของจีดีเอช และ มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บ ของ ทรานฟอร์เมชั่น
สำหรับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ถือเป็นช่วงโอกาสทองของภาพยนตร์ไทย มีภาพยนตร์เข้าฉายมากถึง อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย เรื่อง และคาดว่าจะเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำเงินทั้งสิ้น เริ่มตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง "นาคี 2" ซึ่งเข้าฉายไปเมื่อ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย8 ตุลาคม 256อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย และได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย โดยทำรายได้เปิดตัววันแรกที่เข้าฉายทั่วประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 5เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ล้านบาท แม้จะเข้าฉายในวันธรรมดาก็ตาม ทำให้เป็นแรงหนุนให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเติบโตแบบสดใสและกลับมาคึกคักอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังได้รับผลดีจาก เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ซึ่งลงทุนขยายตลาดสร้างโรงภาพยนตร์เปิดสาขาเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และกลุ่มประเทศ CLMV อย่างต่อเนื่อง ปีนี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ถึงสิ้นเดือนตุลาคม รวม 2อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย สาขา 45 โรง โดยเฉพาะการขยายสาขาในต่างจังหวัดที่ลงไปถึงระดับอำเภอ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่ชอบการชมภาพยนตร์ไทย และยังเป็นช่องทางรองรับทำให้
ภาพยนตร์ไทยมีโอกาสเติบโตเพิ่มมากขึ้น จากนั้นตามต่อด้วยเรื่อง "Homestay โฮมสเตย์" ของจีดีเฮช จะเข้าฉายในวันที่ 25 ตุลาคม, "โนราห์" ของ เอ็ม พิคเจอร์ส เข้าฉาย อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย พฤศจิกายน, "ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2" เข้าฉาย 22 พฤศจิกายน , " Gravity of love" และ " สิงสู่ " เข้าฉาย 29 พฤศจิกายน "หอแต๋วแตก แหกต่อไม่รอแล้วนะ" ของกูรู ฟิล์ม เข้าฉาย 5 ธันวาคม และ "ขุนบันลือ" ของ เอ็ม พิคเจอร์ส เข้าฉาย 27 ธันวาคม คาดว่าจะเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำเงินทั้งสิ้น สรุปรวมปี 256อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย มีภาพยนตร์ไทยเข้าฉายรวม 43 เรื่อง แม้จะน้อยกว่าปี 256เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ที่มีภาพยนตร์ไทยเข้าฉายรวม 48 เรื่อง แต่หากสามารถทำรายได้รวมได้มากกว่า
ในปี 256อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย บริษัทฯ นอกจากดำเนินการผลิตภาพยนตร์ไทยแล้ว ยังได้ร่วมกับพันธมิตรที่มีความชำนาญในธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ อย่าง บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมทุนผลิตภาพยนตร์เรื่อง ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก ซึ่งทำรายได้รวมทั่วประเทศกว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย42 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ที่ทางบริษัทฯ ผลิตเองอีก 2 เรื่อง ที่จะเข้าฉายในไตรมาส 4 อีก 2 เรื่อง คือ ภาพยนตร์เรื่อง "โนราห์" กำกับโดย เอกชัย ศรีวิชัย และ "ขุนบันลือ" กำกับโดย หม่ำ เพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา คาดว่าจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดได้อย่างดี ซึ่งเข้าฉายในช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงที่ลูกค้าเริ่มหยุดพักผ่อนและมีเวลาว่างมาชมภาพยนตร์กันจำนวนมาก
ส่วนแผนการผลิตภาพยนตร์ในปี 2562 ในกลุ่มของบริษัทฯ มีแผนที่จะผลิตภาพยนตร์ประมาณ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย2 เรื่อง หลากหลายรสชาติทั้ง โรแมนติก, คอมเมอร์ดี้ ดราม่า และสยองขวัญ เจาะกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม ดังนี้
- รักไม่เป็นภาษา (Romantic Comedy) เรื่องราวที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ กลุ่มนักศึกษาไทยที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงนักกับเรื่องชุลมุนรักหลายคู่ที่มีการสื่อสารเป็นอุปสรรค
- สิ้นสามต่อน (Romantic Comedy) สองหนุ่มเพื่อนรักต้องมาขัดแย้งกันด้วยเรื่องจีบสาวสวยพยาบาลแสนดีที่เพิ่งอกหักจากรักเก่า ใครจะชนะในศึกนี้
- บุษบา (Horror) ปริศนาของวิญญาณที่ตามหลอกหลอนคณะนักแสดงละครโดยมีหญิงสาวนางรำเป็นเหยื่อ หนึ่งหนุ่มที่มาปกป้องเธอแต่เขาลึกลับเสียจนไม่อาจไว้ใจได
- คืนยุติธรรม (Action Thriller) หนึ่งคืนของการล้างแค้น อดีตคนไข้จิตเวชที่วางแผนบุกตะลุยล่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้เขาต้องสูญเสียครอบครัว
- สตอจิ้มแจ่ว (Romatic Comedy) ครูหนุ่มจากปักษ์ใต้เดินทางสู่อีสานเพื่อสอนดนตรีในโรงเรียนบ้านนอกจนได้ชิงแชมป์และได้พบรักกับครูสาวอีกฝั่งที่เป็นหมายเลขหนึ่งของวงการ
- ฟ้าฟื้น (Comedy Fantasy) แก้วเดินทางจากสุพรรณสู่อโยธยาเพื่อสมัครเป็นทหารและได้พบกับรักแรกวัยเด็กคือพิมที่หมั้นหมายกับช้างท่ามกลางสถานการณ์แผ่นดินที่เข้าสู่สงคราม
- Music High School (Music Comedy) ความขัดแย้งของแผนกดนตรีไทยและแผนกดนตรีคลาสิค ที่มีเวทีใหญ่งานโรงเรียนเป็นการดวลเดือด
- แสงกระสือ (Horror) หญิงสาวต้องปกปิดตัวเองว่าเป็นกระสือจนกระทั่งนักล่ากระสือมาถึงหมู่บ้านและเริ่มออกล่าคนที่ต้องสงสัย เธอต้องหลบหนึโดยมี 2 หนุ่มคอยปกป้อง
- โปรเมย์ (Drama) จากชีวิตจริงของนักกอล์ฟหญิงชาวไทยที่มุมานะพยายาม ผ่านอุปสรรคเพื่อเป็นหมายเลยหนึ่งของโลก
- Our Love Forever (Romantic Comedy) การแข่งขันระหว่างหนุ่มนักขายประกันกับสาวบริษัทจับคู่ เพื่อแย่งชิงลูกค้าและพิสูจน์ความเชื่อว่ารักแท้มีจริงหรือไม่
- ขจร-ดาหลา Romantic (Romantic Drama) สาวนักศึกษาที่ตกหลุมรักแฟนเพื่อนจึงต้องยอมเสียสละโดยหารู้ไม่ว่าพรหมลิขิตได้ผูกพันเขาและเธอไว้จากเรื่องราวครั้งอดีต
- Protrait of Beauty (Horror) การเดินทางกลับมาของทายาทศิลปินใหญ่เพื่อขายรูปเขียนมูลค่าหลายสิบล้านโดยหารู้ไม่ว่ามีวิญญาณร้ายที่รอคอยเธออยู่นานแล้ว