ทีมฮอกกี้น้ำแข็ง พิตต์สเบิร์ก เพนกวินส์ ของลีกเอ็นเอชแอล จับมือสองยักษ์ใหญ่ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับโลก ในแผนริเริ่มสุดท้าทายเพื่อทำให้การเล่นกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งปลอดภัยขึ้นในทุกระดับ
"Rethink The Rink" ถือเป็นโครงการแรกที่จะมาท้าทายเหล่านักศึกษาจากวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน ในการพัฒนาวัสดุที่จะช่วยตอบโจทย์การเพิ่มความปลอดภัยของกีฬาโดยไม่กระทบกับเกมการแข่งขัน โครงการริเริ่มดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การออกแบบแผ่นกันกระแทกและกระจกป้องกันในลานฮอกกี้น้ำแข็ง โดยนักศึกษาจะได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนนำความรู้ทางด้านทฤษฎีและวิชาการไปปรับใช้ ทั้งยังสามารถเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีวัสดุจาก โคเวสโตร (Covestro) ผู้ผลิตพอลิเมอร์ไฮเทคในฐานะที่เป็น "พันธมิตรด้านนวัตกรรมอย่างเป็นทางการของพิตต์สเบิร์ก เพนกวินส์"
"ผู้เล่นตัวใหญ่ขึ้น ว่องไวขึ้นและแข็งแรงมากกว่าที่เคย ดังนั้นความท้าทายของเราคือการหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อให้พวกเขาปลอดภัยยิ่งขึ้น และลดการบาดเจ็บ" เดวิด มอร์เฮาส์ ประธานและซีอีโอของพิตต์สเบิร์ก เพนกวินส์ กล่าว "ความร่วมมือกับโคเวสโตรและมหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอนในครั้งนี้ เจาะจงไปที่การใช้ความก้าวหน้าล่าสุดในด้านวัสดุศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาขอบเขตทางกายภาพรอบลานฮอกกี้น้ำแข็ง เราจะสามารถคิดค้นโซลูชันในด้านวัสดุที่จะช่วยลดการกระแทกของนักกีฬาบริเวณขอบสนามและทำให้การแข่งขันมีความปลอดภัยสำหรับผู้เล่นทุกวัยได้หรือไม่"
สำหรับก้าวแรกที่สำคัญของกระบวนการดังกล่าวคือ "Make-a-thon" ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12-16 มีนาคม ที่วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ โดยกิจกรรมแบบอินเตอร์แอคทีฟนี้จะเปิดโอกาสให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน ได้รวมทีมกันเพื่อออกแบบและพัฒนาต้นแบบสำหรับใช้ทดสอบ
หากประสบความสำเร็จ ต้นแบบดังกล่าวจะถูกส่งไปยังผู้เชี่ยวชาญของเอ็นเอชแอล และสมาคมฮอกกี้นำแข็งสหรัฐ (USA Hockey) เพื่อขอคำแนะนำติชม จากนั้นจะมีการทดสอบวัสดุต้นแบบโดยนักกีฬาสมัครเล่น ที่ลานสเก็ตน้ำแข็ง FedEx Rink ภายใน UPMC Lemieux Sports Complex ในเมืองแครนเบอร์รี
"ผมนึกไม่ออกว่าจะมีพันธมิตรรายใดที่ดีไปกว่า โคเวสโตร และ วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน สองแรงขับเคลื่อนระดับโลกซึ่งเป็นที่ยอมรับในด้านนวัตกรรมวัสดุและวิศวกรรม" มอร์เฮาส์กล่าว "เมื่อประกอบกับข้อมูลเจาะลึกเกี่ยวกับกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งและการจัดการลานสเก็ตน้ำแข็งจากทีมเพนกวินส์และเอ็นเอชแอลแล้ว เราคิดว่านี่คือสุดยอดทีมที่จะมาร่วมกันเสาะแสวงหาวิธีการในการทำให้กีฬาที่ต้องใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วงนั้นมีความปลอดภัยสำหรับผู้เล่นทุกคน และถ้าหากเราบรรลุเป้าหมายได้ นี่อาจเป็นโครงการวิจัยสำคัญที่สร้างผลลัพธ์ในระยะยาวต่อเกมการแข่งขัน"
แนวคิด "Rethink the Rink" เริ่มต้นจากการพูดคุยกันมาอย่างต่อเนื่องระหว่างมอร์เฮาส์และเจอร์รี แมคเคลียร์รี ซีอีโอของโคเวสโตร แอลแอลซี ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคอเมริกาเหนืออยู่ในพิตต์สเบิร์ก
"เราสนใจทำโปรเจกต์นี้ด้วยเหตุผลหลายประการ ไม่ใช่เพราะโปรเจกต์นี้เป็นการผสมผสานระหว่างการแก้ปัญหาซึ่งเป็นสิ่งที่เราหลงใหล และความปลอดภัยซึ่งเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญอย่างมากเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเราเชื่อในศักยภาพระยะยาวของโครงการนี้" แมคเคลียร์รีกล่าว "เราวางแผนการเล่นไปพร้อมกับการเล่น และนั่นทำให้เราผลักดันขอบเขตออกไปได้เรื่อย ๆ และทำให้นวัตกรรมเกิดขึ้น แรงผลักดันของเราจะแข็งแกร่งมากยิ่งกว่าเดิม ด้วยพลังสามประสานที่อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์นี้"
"ที่คาร์เนกี เมลลอน เราท้าทายนักศึกษาให้เอาชนะปัญหาที่ไม่ธรรมดา ให้คิดใหม่ทำใหม่ ให้อยากรู้อยากเห็น และใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากโครงการเรียนรู้ด้วยตนเองสุดท้าทายอย่าง 'Rethink the Rink'" เจมส์ เอช. การ์เรตต์ จูเนียร์ คณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน กล่าว "โครงการนี้เกิดขึ้นจากสามองค์กรชั้นนำระดับโลก อันเป็นการสะท้อนถึงความร่วมมือระดับสูงที่เราลงมือผลักดันเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่"
หากโครงการออกแบบแผ่นกันกระแทกและกระจกป้องกันในลานฮออกกี้น้ำแข็งนี้ประสบความสำเร็จ ทางกลุ่ม "Rethink the Rink" ก็จะทำการสำรวจบทบาทของวัสดุในขอบข่ายอื่น ๆ ของกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งต่อไป อย่างเช่น อุปกรณ์สำหรับผู้เล่น และ การก่อสร้างลานฮอกกี้
การ์เรตต์เสริมว่า "การนำสามองค์กรซึ่งตั้งอยู่ในเมืองพิตต์สเบิร์กมารวมตัวกันเพื่อคิดริเริ่มสร้างสรรค์เกี่ยวกับโครงการที่ท้าทายเช่นนี้ นับเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงพลังและจิตวิญญาณของเมืองแห่งนี้ อีกทั้งยังชี้ให้เห็นว่าเหตุใดพิตต์สเบิร์กจึงเฟื่องฟูในทุกวันนี้"
เกี่ยวกับโคเวสโตร แอลแอลซี
โคเวสโตร แอลแอลซี เป็นหนึ่งในผู้ผลิตพอลิเมอร์ประสิทธิภาพสูงชั้นนำในอเมริกาเหนือ และเป็นธุรกิจระดับโลกในเครือ โคเวสโตร ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทพอลิเมอร์รายใหญ่ที่สุดของโลกด้วยยอดขาย 1.19 หมื่นล้านยูโรในปี 2559 กิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทมุ่งเน้นไปที่การผลิตวัสดุพอลิเมอร์ไฮเทค และการพัฒนาโซลูชั่นนวัตกรรมสำหรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ๆ ได้แก่ ยานยนต์ การก่อสร้าง การแปรรูปไม้และฟอร์นิเจอร์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และการแพทย์ รวมไปถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ อย่างกีฬาและสันทนาการ เครื่องสำอาง ตลอดจนอุตสาหกรรมเคมีเองด้วยเช่นกัน โคเวสโตร มีโรงงานผลิต 30 แห่งทั่วโลก และมีพนักงานราว 15,600 คน ณ สิ้นปี 2559
เกี่ยวกับ มหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน
มหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน (www.cmu.edu) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่ติดอันดับต้น ๆ ในระดับนานาชาติ ทั้งในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และธุรกิจ ไปจนถึงด้านนโยบายสาธารณะ มนุษยศาสตร์ และศิลปศาสตร์ โดยนักศึกษากว่า 13,000 คนที่กำลังศึกษาอยู่ในสถาบันและวิทยาลัยในเครือของมหาวิทยาลัยล้วนได้ประโยชน์จากอัตราส่วนอาจารย์ต่อนักศึกษาที่เหมาะสม และรูปแบบการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์และนำวิธีการต่าง ๆ ไปใช้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ตลอดจนการบูรณาการสหวิทยาการ และนวัตกรรม
ติดต่อ:
Pittsburgh Penguins: Tom McMillan, 412-255-1828, [email protected]
Covestro: Bob Walker, 412-413-2369, [email protected]
Carnegie Mellon Engineering: Lisa Kulick, 412-268-5444, [email protected]
วิดีโอ - https://www.youtube.com/watch?v=58jTItqgi34
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/652679/Rethink_the_Rink_GRAPHIC.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/652680/Joint_Logo_Header_Logo.jpg