มีการคาดการณ์ว่ากว่า 100 ล้านคนทั่วโลก ประสบปัญหาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งกว่าร้อยละ 80 ยังไม่ได้เข้ารับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง[1] ในขณะที่ร้อยละ 30 ประสบปัญหาด้านการนอนหลับ ตั้งแต่เริ่มเข้านอนไปจนถึงระหว่างหลับ[2] ซึ่งการนอนหลับที่มีคุณภาพถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี ปัจจุบันมีเพียงแค่ 1 ใน 3 ของผู้ที่มีความผิดปกติด้านการนอนหลับที่เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์[3] ในขณะที่ 1 ใน 3 ของประชากรในประเทศสิงคโปร์ประสบปัญหาจากโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นตั้งแต่ระดับปานกลาง ไปจนถึงระดับที่รุนแรง
แพทย์หญิง มอก ยิงจวน ผู้อำนวยการด้านสาธารณสุขศาสตร์และระบาดวิทยา ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านการนอนหลับ SingHealth Duke-NUS Sleep Center and Consultantแผนก Respiratory and Critical Care Medicine โรงพยาบาลชางงี เจนเนอรัล ประเทศสิงคโปร์ กล่าว"โรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OSA) เกิดจากการตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้ต้องหายใจเข้าไปมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความดันเพิ่มมากขึ้นระหว่างการหายใจเข้า จนเกิดการตีบแคบลงกว่าเดิม ซึ่งวงจรเหล่านี้จะเกิดขึ้นซ้ำๆ ทำให้สมองไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอ และรบกวนการนอนหลับ ส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยล้าระหว่างวัน ประสิทธิภาพในการทำงานและการเรียนแย่ลง และอาจเกิดปัญหาโรคหัวใจที่ร้ายแรงได้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ยังไม่ได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง จึงจำเป็นต้องมีการสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นในวงกว้าง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับคำแนะนำในการรักษาที่ถูกต้อง" และเพื่อให้เกิดการพัฒนาในการรักษาและดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจขณะหลับ ฟิลิปส์และ สิงเฮลท์ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อร่วมมือกันพัฒนาให้เกิดการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบบูรณาการ และการศึกษาวิจัยทางคลีนิค รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ในวงกว้างเกี่ยวกับโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OSA)โดยฟิลิปส์ได้นำความรู้ความเชี่ยวชาญและความเป็นผู้นำกว่า 30 ปี ด้านการจัดการและโซลูชั่นเพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจและการนอนหลับ ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการจัดการกับโรค และทางฟิลิปส์ กับสิงเฮลท์ ยังได้ร่วมมือกันในด้านวิจัย การฝึกอบรมเฉพาะทาง รวมถึงการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการนอนหลับที่มีคุณภาพ และโปรแกรมอื่นๆ อีกมากมายในประเทศสิงคโปร์ และต่อยอดในระดับภูมิภาคด้วย
แพทย์หญิง มอก กล่าวเสริมว่า "เราหวังว่าโปรแกรมการฝึกอบรมที่จัดขึ้นที่ศูนย์ฯ แห่งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยข้อมูลจากการตรวจวัดระดับคุณภาพการนอนหลับที่บ้าน ไปจนถึงผลวิจัยจากแล็บทดลองด้านการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น"
ศูนย์การเรียนรู้ด้านการนอนหลับและระบบทางเดินหายใจ มีพื้นที่กว่า 102 ตารางเมตร ถูกออกแบบมาเพื่อจำลองกระบวนการตรวจวินิจฉัยด้านการนอนหลับของผู้ป่วยให้เสมือนจริงที่สุด ตั้งแต่การจำลองแบบห้องนอนเท่าขนาดจริงเพื่อใช้สำหรับการสังเกตการณ์ผู้ป่วยขณะหลับ ห้องติดตามและประเมินผลสำหรับผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิค สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลการนอนหลับของผู้ป่วย และห้องให้คำปรึกษาของแพทย์ โดยศูนย์ฯ แห่งนี้ยังได้ใช้เทคโนโลยีการติดตามการรักษาระยะไกล (Remote Monitoring) ในห้องอินเตอร์แอ็คชั่น เพื่อจำลองรูปแบบการนอนหลับที่ผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการศึกษาได้ อาทิ การขยับแขนขาระหว่างหลับ การเคลื่อนไหวของลูกตา และปัญหาระบบทางเดินหายใจติดขัดนอกจากนี้ ฟิลิปส์ยังได้แนะนำโครงการฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจะจัดขึ้นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับและระบบทางเดินหายใจระดับนานาชาติอย่าง นายแพทย์ เทียวฟิโล ลีเชียง Chief Medical Liaison และนายแพทย์ เดวิด ไวท์ Chief Medical Officer ของฟิลิปส์ รวมไปถึงแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับที่ได้รับการรับรองจากโรงพยาบาลชื่อดังและกลุ่มพันธมิตรด้านสุขภาพ อย่างสิงเฮลท์ ก็จะมาร่วมจัดการฝึกอบรมที่ศูนย์ฯ นี้เช่นกัน
นอกจากการฝึกอบรมด้านการตรวจวินิจฉัยแล้ว ศูนย์การเรียนรู้ฯ แห่งนี้ ยังถูกออกแบบมาเพื่อฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการรักษาโรคเกี่ยวกับการนอนหลับและระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ โซลูชั่นการเชื่อมต่อของเครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) ในตระกูล Dream Family โซลูชั่นของเครื่องช่วยหายใจสำหรับใช้ที่บ้าน โซลูชั่นสำหรับเครื่องผลิตออกซิเจนและเครื่องพ่นละอองยา เป็นต้น และผู้เข้าอบรมจะได้รับความรู้เกี่ยวกับการใช้นวัตกรรมเชื่อมต่อแบบดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยทำการรักษาบำบัดอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
ไอวี ไล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์ ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า "ฟิลิปส์ มุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนผ่านนวัตกรรมที่ทรงคุณค่า ซึ่งต้องขอบอกว่าสุขภาพด้านการนอนหลับเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม ทั้งๆ ที่มีอิทธิพลต่อการมีสุขภาพเป็นอย่างมาก ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ฟิลิปส์จึงอยากสนับสนุนให้ผู้ที่มีความผิดปกติด้านการนอนหลับเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งการตรวจวัดระดับคุณภาพการนอนหลับในปัจจุบันสามารถทำได้สะดวกมากขึ้นทั้งจากที่บ้านและจากศูนย์ตรวจด้านการนอนหลับโดยเฉพาะ สำหรับศูนย์การเรียนรู้ด้านการนอนหลับและระบบทางเดินหายใจแห่งนี้ เราตั้งใจที่จะนำเสนอการฝึกอบรมและการเรียนรู้ระดับเวิลด์คลาส โดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลก เพื่อฝึกอบรมให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งจะช่วยลดความขาดแคลนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับและระบบทางเดินหายใจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการตรวจวินิจฉัยและการรักษาได้มากขึ้น"
ศูนย์การเรียนรู้ด้านการนอนหลับและระบบทางเดินหายใจ ถือเป็นศูนย์ฝึกอบรมใหม่ล่าสุดของฟิลิปส์ที่ตั้งอยู่ในสำนักงาน Philips APAC Center ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า38,000 ตารางเมตร และมีศูนย์ฝึกอบรมด้านนวัตกรรมและการเรียนรู้ระดับเวิลด์คลาสอีกมากมายที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ อาทิ Health Continuum Space ที่เปิดตัวไปเมื่อปีผ่านมา ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ทีมุ่งเน้นให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ บุคคลากรทางการแพทย์ และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อกระตุ้นให้เกิดแนวคิดและกระบวนการทางการแพทย์ใหม่ๆ ในการดูแลสุขภาพแห่งอนาคต
นอกเหนือจากการส่งเสริมความรู้ด้านการนอนหลับแล้ว ฟิลิปส์ยังได้สร้างสรรค์โซลูชั่นด้านการนอนหลับแบบครบวงจรทีพัฒนามาจากผลวิจัยทางคลีนิคและข้อมูลเชิงเทคนิค เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้คน ตั้งแต่ โซลูชั่นเพื่อการจัดการกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ไปจนถึง เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อการตื่นนอนที่มีประสิทธิภาพ
บุคลากรทางการแพทย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สนใจเข้าร่วมการฝึกอบรมที่ศูนย์การเรียนรู้เรื่องการนอนหลับและระบบทางเดินหายใจของฟิลิปส์ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่[email protected] และสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติม และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ เว็บไซต์ของฟิลิปส์
เกี่ยวกับ รอยัล ฟิลิปส์
รอยัล ฟิลิปส์ (NYSE: PHG, AEX: PHIA) เป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ มุ่งเน้นการพัฒนาด้านสุขภาพของผุ้คนให้ดีขึ้น และการเสริมสร้างสุขภาพแบบครบวงจร ตั้งแต่ความเป็นอยู่ที่ดี การป้องกัน การตรวจวินิจฉัย การรักษา และการดูแลรักษาตัวเองที่บ้าน ฟิลิปส์ได้นำเทคโนโลยีขั้นสูง ข้อมูลเชิงลึกทางคลีนิก และความต้องการของผู้บริโภค มาพัฒนาเพื่อส่งมอบโซลูชั่นที่ครบวงจร ฟิลิปส์ เป็นผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมการตรวจวินิจฉัยและการรักษาด้วยภาพนำวิถี เครื่องตรวจวัดชีพจรผู้ป่วย และสารสนเทศด้านสุขภาพ รวมถึงนวัตกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคและการดูแลรักษาที่บ้าน สำนักงานใหญ่ฟิลิปส์ตั้งอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยในปีพ.ศ. 2559 พอร์ทโฟลิโอด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพของฟิลิปส์ สร้างยอดขายได้ถึง 17.4 พันล้านยูโร โดยฟิลิปส์ดำเนินธุรกิจอยู่ในทั่วโลกมากกว่า 100 ประเทศ และมีพนักงานประมาณ 71,000 คน 100 ประเทศทั่วโลก สามารถติดตามข่าวสารฟิลิปส์เพิ่มเติมได้ที่ www.philips.com/newscenter
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit